กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ควบคุมตัว ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมพวกรวม 4 คน นำส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรม บิลลี่-พอละจี รักจงเจริญ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ไปขออำนาจศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางฝากขังหลังให้การปฏิเสธในชั้นพนักงานสอบสวน
พ.ต.ท. ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีดีเอสไอระบุว่า การตามข้อกล่าวหาพนักงานสอบสวนได้แจ้งพฤติการณ์ตามข้อกล่าวหาทั้ง 6 ข้อกับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ซึ่งทั้งหมดให้การปฏิเสธและไม่ขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ดีเอสไอจริงกุมผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝากขังพร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว โดยให้เหตุผลตามหลักข้อกฎหมาย ซึ่งศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่ก็เป็นดุลยพินิจของศาล
ส่วนเรื่องการสอบสวนในคดีนี้เบื้องต้นยอมรับว่ายังไม่มีบุคคลต้องสงสัยที่จะออกหมายจับเพิ่มในเร็วๆ นี้ และยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีกหลายปาก โดยจะพิจารณาจากการลงพื้นที่ตรวจค้น 4-5 จุดในจังหวัดเพชรบุรี ที่จะส่งผลการปฏิบัติเข้ามาในช่วงเย็นวันนี้
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาตั้งข้อสังเกตว่าดีเอสไอสามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้รวดเร็วภายใน 6 เดือนนั้น พ.ต.ท. ปกรณ์ ยืนยันว่า การรวบรวมพยานหลักฐานเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
สำหรับคดีนี้ต้องใช้เวลากว่า 5 ปีนับจากที่ บิลลี่-พอละจี รักจงเจริญ แกนนำกลุ่มกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย หายตัวไปหลังถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นำโดย ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแก่งกระจานขณะนั้น จับกุมขณะนำน้ำผึ้งป่าออกจากพื้นที่อุทยานฯ วันที่ 17 เมษายน 2557
พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยาของบิลลี่ ร่วมกับเครือข่ายองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน เดินหน้าทวงความยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง แต่ถูกปฏิเสธจากกระบวนการยุติธรรมมาตลอด กระทั่งเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2561 กว่าที่ดีเอสไอรับคดีการหายตัวไปของบิลลี่เป็นคดีพิเศษ
ช่วงเดือนกันยายน 2562 ที่ผ่านมา ดีเอสไอออกมาเปิดเผยว่า บิลลี่เสียชีวิตแล้ว โดยพบกะโหลกมนุษย์ในถังขนาด 200 ลิตรที่จมอยู่ใต้น้ำ บริเวณสะพานแขวนเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน ซึ่งมีดีเอ็นเอตรงกับแม่ของบิลลี่ จึงเชื่อว่าเขาเสียชีวิตแล้ว จนนำมาสู่การออกหมายจับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีในวันนี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า