×

ชัชชาติ แจงที่มาเงินซื้อบ้านที่สหรัฐฯ ได้มรดกที่ดินย่านพระราม 4 แจ้ง ป.ป.ช. แล้ว พร้อมให้ตรวจสอบ เพราะทำทุกเรื่องโปร่งใส

15.06.2022
  • LOADING...
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

วันนี้ (15 มิถุนายน) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ให้สัมภาษณ์รายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ดำเนินรายการโดย ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และ อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ เผยแพร่ทางช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30

 

กรณีโซเชียลมีเดียเผยแพร่ข้อมูลชัชชาติมีบ้านพักในเมืองซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา มูลค่า 72 ล้านบาท โดยเพิ่งมีการโอนจาก ปรมินทร์ทิยา สิทธิพันธุ์ ภรรยาของชัชชาติ ให้กับ แสนปิติ สิทธิพันธุ์ หรือ แสนดี บุตรชายของชัชชาติ

 

ชัชชาติกล่าวว่า ขอบคุณที่ให้โอกาสชี้แจง สำหรับที่มาของเงิน เมื่อ 7 ปีที่แล้วได้รับที่ดินมรดกที่มารดายกให้ เป็นที่ดินเก่าแก่สมัยเป็นเรือนหอ ได้รับพร้อมพี่ชาย (นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์) แบ่งกันคนละครึ่ง คือได้รับคนละ 1 ไร่

 

ที่ดินแปลงนี้ได้แจ้งในบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปแล้ว พ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี ซึ่งตรงกับ 1 ปีหลังรัฐประหาร หลังได้รับที่ดินก็อยากให้บุตรชายคือ แสนปิติ สิทธิพันธุ์ หรือ แสนดี มีทรัพย์สินในอนาคต เพราะไม่รู้ว่าอนาคตเขาจะทำอาชีพอะไร จึงโอนให้ทันทีเมื่อ 7 ปีที่แล้ว จากนั้นมีคนมาซื้อ จึงขายที่ดินไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่ตอนนั้นแสนปิติยังเป็นผู้เยาว์อยู่ ศาลให้ตนจัดการทรัพย์สินให้ ส่วนพี่ชายก็ขายพร้อมกันเพราะที่ดินแปลงติดกัน

 

ช่วงที่แสนปิติเรียนที่สหรัฐฯ เราก็วิเคราะห์ว่าอสังหาริมทรัพย์ตอนนี้ไม่แพงมาก น่าจะเอาเงินตรงนี้ไปลงทุนให้เขาเพราะดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งเงินที่ขายที่ดินตรงพระราม 4 ก็ครอบคลุมค่าบ้านเหลือเฟือ จึงตัดสินใจซื้อบ้านที่สหรัฐฯ ตอนนั้น 1.4 ล้านดอลลาร์ เป็นราคาไม่ได้แพงมากเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยในสถานการณ์ตอนนั้น แล้วใส่ชื่อปรมินทร์ทิยา มารดาของแสนปิติ เพราะแสนปิติยังไม่บรรลุนิติภาวะ อายุยังไม่ถึง 20 ปี แล้วมารดาก็ได้ไปดูแลด้วยเพราะแสนปิติเคยลองอยู่หอพักแล้วเขาไม่ชอบ อยากให้เขาอยู่เมืองนอกอย่างมีความสุข

 

พอจะเรียนจบก็อยากจะขาย เมื่อไปเช็กกฎหมายภาษีของซีแอตเทิลปรากฏว่านายหน้าซื้อขายบ้านแนะนำให้โอนเป็นชื่อบุตรชายจะดีกว่า เพราะมีเรื่องระยะเวลาการอยู่ในบ้านจะเสียภาษีถูกกว่า ซึ่งโอนปกติมีหลักฐานในออนไลน์อยู่แล้ว แสนปิติก็เป็นเจ้าของตัวจริงอยู่แล้ว ใช้เงินของเขาซื้อ

 

การซื้อบ้านเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง จากบ้านราคา 1.4 ล้านดอลลาร์ ขึ้นมา 2 ล้านกว่าดอลลาร์ ถือว่าบริหารจัดการได้ดี อันนี้ก็มีหลักฐานตั้งแต่ยื่น ป.ป.ช. เรื่องที่ดิน มีหลักฐานโอนที่ดินให้แสนปิติ มีหลักฐานว่าศาลให้เป็นผู้ดูแลเงินก้อนนี้เพราะเขายังไม่บรรลุนิติภาวะ แล้วการซื้อมีการโอนเงิน มีชื่อปรากฏ ซึ่งทางสหรัฐฯ ก็มีบันทึกเปิดเผยตรวจดูได้ซื้อเท่าไร ไม่ได้ซื้อ 70 ล้าน แต่ซื้อ 40 ล้านตอนนั้น แล้วเทียบกับเงินที่แสนปิติเป็นเจ้าของที่ขายที่ดินได้เหลือเยอะกว่านี้อีก บังเอิญไม่ได้ชี้แจงเพราะช่วง 8 ปีนี้ไม่ได้อยู่ในการเมือง อาจจะไม่มีข้อมูลนี้อยู่ 

 

ชัชชาติกล่าวว่า ที่ดินที่มารดาตนเองยกให้เป็นที่ดินเก่าแก่สมัยเป็นเรือนหอ ได้รับพร้อมพี่ชาย (นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์) มาคนละ 1 ไร่ สมัยก่อนยังราคาถูกมาก แล้วราคาขึ้นมา ที่ดินอยู่ในซอยเล็กเดิมไม่ได้คิดจะขาย แต่เผอิญมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไปรวมที่ดินแปลงหน้าซึ่งติดถนนใหญ่ ตอนขายจึงไปขายพ่วงกับแปลงที่ติดถนนใหญ่ จึงได้ราคาที่ดินติดถนนใหญ่ ตัดสินใจขายเพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นราคาที่ดินในซอย ตอนนั้นโอนให้ลูกไปแล้วเพราะไม่อยากจะถืออะไรมาก แล้วเราไม่ได้ต้องการทรัพย์สินอะไร

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่าราคาขาย 1 ไร่ น่าจะได้ 700-800 ล้านบาท ชัชชาติกล่าวว่า ขอไม่พูดเรื่องตัวเลข แต่ได้เงินเพียงพอที่จะลงทุนให้ลูก เงินเป็นของเขา อยากให้เขามีหลักฐานมั่นคง ถือว่าเป็นการลงทุนที่คิดถูกต้อง ไม่น่าเชื่อในช่วง 4 ปี ราคาบ้านที่ซีแอตเทิลมันขึ้นแรงมาก จาก 1.4 ล้านดอลลาร์ เป็น 2 ล้านกว่าดอลลาร์ เขาได้อยู่อย่างมีคุณภาพ มารดาไปดูแลเป็นช่วงๆ เราบินไปก็ได้อยู่กับเขาบ้าง เป็นชีวิตที่มีความสุข

 

แต่ที่กังวลคือมีการส่งไลน์เรื่องรายละเอียดที่อยู่ เพราะเป็นห่วงความปลอดภัย ที่โน่นก็มีคนเพี้ยนๆ เยอะ ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ส่วนเรื่องตรวจสอบไม่มีปัญหา พร้อมอยู่แล้ว

 

ไม่ได้กังวลเรื่องชี้แจง แต่กังวลเรื่องความปลอดภัย ที่อยู่เป็นข้อมูลส่วนตัว ไปอยู่ที่โน่นเราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ถ้าจะมีการส่งต่อขอให้ลบรายละเอียดที่อยู่ และขอบคุณที่ให้โอกาสชี้แจง

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่าทำไมเลือกโอนก่อนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ไม่กี่วัน

 

ชัชชาติกล่าวว่า ก่อนบุตรชายเรียนจบไม่ได้คิดว่าจะขายบ้าน คิดว่าจะขายเพราะไม่แน่ใจว่าจะเรียนต่อปริญญาโทหรือเปล่า พอคิดปุ๊บ ปรากฏว่ามารดาของแสนปิติไม่ได้อยู่ต่อเนื่อง 2 ปี ทำให้ต้องเสียภาษีแพงขึ้น นายหน้าซื้อขายบ้านจึงแนะนำให้โอนก่อน ถ้าแสนปิติเรียนปริญญาโทอยู่ครบ 2 ปี จะลดภาษีได้ 10-20% ถ้าขายต่อ และแสนปิติเป็นเจ้าของที่แท้จริง ไม่มีการปกปิดอะไร

 

ที่ดินพระราม 4 เคยยื่นชี้แจงรายละเอียดกับ ป.ป.ช. ว่า ที่ดินแปลงนี้หายไปเพราะโอนให้บุตรชาย ต้องชี้แจงรายละเอียดตอนหลังรัฐประหารครบ 1 ปี เพราะพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี และขายแล้ว มีคำสั่งศาลชัดเจนให้เราดูแลเงินก้อนนี้ให้เขา เป็นห่วงลูก มีทรัพย์สินก็อยากจะให้ลูกให้หมด เพราะว่าเราไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไร เราเองแก่แล้วก็ไม่ต้องการอะไรมาก

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่ายังเหลืออะไรให้ขุดอีกหรือไม่ ชัชชาติกล่าวว่า แล้วแต่เลย พร้อมชี้แจงไปเรื่อยๆ เพราะทำอย่างโปร่งใส ไม่มีปัญหา ขอบคุณที่ให้โอกาสชี้แจง

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X