เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ซีอีโอ-ผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ ขายหุ้น ขาย Big Lot สัดส่วน 2.81% พ่วงขาย LEO-W1 อีก 1 ล้านหน่วย มูลค่ารวม 118.98 ล้านบาท ให้กองทุน Capital Asia Investments จากสิงคโปร์
เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ หรือ LEO เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 ได้มีการทำรายการขายหุ้น LEO ที่เกิดขึ้นผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ บนกระดานใหญ่ (Big Lot) จำนวน 9 ล้านหุ้น สัดส่วน 2.81% ในราคาหุ้นละ 13.10 บาท กับ LEO-W1 จำนวน 1 ล้านหน่วย ในราคาหน่วยละ 1.08 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 118.98 ล้านบาท
สำหรับการขายหุ้นบิ๊กล็อตในครั้งนี้ เป็นการทำรายการเข้าซื้อหุ้นจากกองทุน Capital Asia Investments ของสิงคโปร์ ที่มีความเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ LEO หลังจากได้เข้ามาพูดคุยกับทางบริษัทมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และได้เห็นแผนการขยายธุรกิจโลจิสติกส์ ทั้งในส่วนของ Freight และ Non-Freight ของบริษัท
โดยเฉพาะการมุ่งเน้นการขยายธุรกิจใหม่ๆ ในส่วนของ Logistics Center, Cold Chain, Self Storage และลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ที่มี Gross Profit Margin สูง รวมถึงยังมีแผนการ M&A อีกหลายๆ โครงการทั้งในและต่างประเทศที่เห็นภาพชัดเจน และสามารถรับรู้รายได้ภายในประมาณไตรมาสที่ 3/66 อีกทั้งการขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็น Non-Logistics เพื่อเดินหน้าสู่การเติบโตเป็น Growth Stock ในทุกมิติ
“ก่อนที่กองทุนดังกล่าวจะเข้ามาซื้อหุ้น LEO ทางกองทุนได้เข้ามาพูดคุย รวมถึงศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการเติบโตก่อนที่จะเข้ามาซื้อหุ้นของบริษัท และมีความมั่นใจว่า บริษัทจะสามารถดำเนินธุรกิจและประสบความสำเร็จได้อย่างต่อเนื่อง และมองเห็นถึงช่องทางการเติบโตที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะก้าวเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรได้อย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ การขายหุ้นบิ๊กล็อตในครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างการบริหาร และการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด “จริงๆ แล้วกองทุนดังกล่าวมีความต้องการซื้อหุ้นของบริษัทมากกว่า 9 ล้านหุ้น แต่บริษัทไม่สามารถจัดสรรให้ได้ จึงได้เสนอให้ทางกองทุนซื้อวอร์แรนต์ LEO-W1 แทน และไปใช้สิทธิ์ในการแปลงสภาพแทนในอนาคต ตอกย้ำถึงความมั่นใจของกองทุนดังกล่าวต่อพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัท โดยจำนวนหุ้นที่ทางกองทุนจากประเทศสิงคโปร์ซื้อไปนี้คิดเป็นสัดส่วน 2.81% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท
สำหรับภาพรวมแนวโน้มการดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์ในปี 2566 บริษัทคาดว่าจะสร้างการเติบโตได้อย่างโดดเด่น ทั้งกลุ่มโลจิสติกส์ที่เป็น Freight และ Non- Freight และ Non Logistics เพื่อให้สมกับการเป็นหุ้น Blue Chip Stock ของผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืน ทั้งนี้ ทางบริษัทจะมีการประกาศแผนธุรกิจปี 2566 รวมถึงกลยุทธ์และเป้าหมายการเติบโตของ LEO ใน 3-5 ปีข้างหน้าอย่างเป็นทางการ ภายในเดือนมกราคม 2566
บทความที่เกี่ยวข้อง
- “นี่เป็นราคาที่เราพึงพอใจทั้ง 2 ฝ่าย” เจ้าของสุกี้ตี๋น้อยกล่าวหลัง Jaymart ควักเงิน 1.2 พันล้านบาทเข้าถือหุ้น 30%
- ADVANC ทุ่ม 32,420 ล้านบาท เข้าซื้อกิจการ 3BB จาก JAS
- กางแผน ‘โอ้กะจู๋’ หลังมี OR เป็นแบ็กอัป เดินหน้าขยายสาขาเพิ่มเป็น 60 แห่ง ขายผักสดและบุก CLMV ก่อน IPO ในปี 2567