สำหรับเซ็นทรัลเวิลด์ งานเคานต์ดาวน์ที่จัดมาต่อเนื่องนับ 2 ทศวรรษไม่ได้เป็นเพียงการจัดงานที่สร้างความสุขส่งท้ายปีให้กับคนไทยและทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังสร้างความมันกระหึ่มจากงานโปรดักชันระดับโลก จัดเต็มแสง สี เสียง และจอยักษ์หน้าศูนย์การค้า ถึงขั้นได้รับฉายาจากสื่อระดับโลกว่าเป็น Times Square of Asia หนึ่งเดียวใจกลางกรุงเทพมหานคร

แต่รู้หรือไม่ว่า บนเวทีที่ผู้คนนับล้านจับจ้องมา ในอีกแง่หนึ่งคือการเปิดโอกาสให้ใช้พื้นที่ของเวทีเคานต์ดาวน์นี้ให้ ‘ศิลปินไทย’ Rising Stars เก่งๆ หลายคนได้โชว์ฝีมือแจ้งเกิด ก่อนที่จะขยับไปสู่การเป็น ‘ซูเปอร์สตาร์’ ที่หลายคนคุ้นหน้าในเวลาต่อมา

ทำไมเซ็นทรัลเวิลด์ถึงต้องทำเช่นนั้น THE STANDARD จึงอยากชวนไปค้นหาคำตอบด้วยกัน!

จริงอยู่ที่ว่าการจะทำให้งานเคานต์ดาวน์ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลกจำเป็นต้องดึง Global Artist ให้มาปรากฏตัวบนเวที เพื่อสร้างสีสันให้ยิ่งใหญ่สมกับการเป็น Times Square of Asia

แต่ในอีกด้านหนึ่ง การทุ่มงบเพื่อเชิญแต่ Global Artist ทำให้เกิดคำถามว่า แล้วศิลปินไทยจะมีที่ยืนอยู่ตรงไหนในวันที่อุตสาหกรรมเพลงเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพราะแม้จะเป็นคนเก่ง แต่สุดท้ายหากไม่มีที่ยืน ไฟที่เคยลุกโชนก็สามารถมอดดับได้อย่างง่ายๆ

ดังนั้น สำหรับเซ็นทรัลเวิลด์จึงมองว่าเวทีเคานต์ดาวน์คือหนึ่งในพื้นที่ในการสร้าง Soft Power ของวงการอุตสาหกรรมเพลงไทยไปสู่เวทีระดับโลก

การใช้ Soft Power ในอุตสาหกรรมเพลงไทยผ่านการรวมศิลปินระดับโลกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเวที เป็นกลยุทธ์ที่แยบยลที่ช่วยสนับสนุนและผลักดันให้ศิลปินไทยได้รับความสนใจจากผู้ชมทั่วโลก ผ่านพื้นที่ของเวทีเคานต์ดาวน์ที่ให้ศิลปินไทยได้โชว์ผลงานและความสามารถของพวกเขาในระดับสากล สร้างโอกาสให้พวกเขาสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมที่หลากหลาย และขยายฐานแฟนคลับไปในวงกว้าง

ยกตัวอย่างเช่น พีพี กฤษฏ์ และ บิวกิ้น พุฒิพงศ์ ที่วันนี้สามารถเรียกพวกเขาได้อย่างเต็มปากว่า ‘ซูเปอร์สตาร์’ เพราะไม่ได้มีเพียงแฟนคลับคนไทยเท่านั้น แต่ยังดังไกลไปในหลายๆ ประเทศทั่วโลก

ย้อนกลับไปปี 2564 ที่เวทีเคานต์ดาวน์ของเซ็นทรัลเวิลด์ได้ต้อนรับพวกเขามาเป็นส่วนหนึ่งของค่ำคืนสุดท้ายของปี จนเกิดเป็นภาพประทับใจในวินาทีนับถอยหลังเข้าสู่ศักราชใหม่อย่างสวยงาม นอกจากนี้เซ็นทรัลเวิลด์ยังชวนพวกเขามาร่วมในโปรเจกต์พิเศษอย่าง centralwOrld Music Community และงานใหญ่เปิดตัวแคมเปญต่างๆ ในศูนย์การค้าอีกมากมาย 

ด้วยเหตุนี้ คุณค่าของงานเคานต์ดาวน์ที่เซ็นทรัลเวิลด์จึงไม่ได้อยู่ที่การสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในสายตาคนทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นการสนับสนุนศิลปินไทยที่เราต่างมองเห็นศักยภาพ โดยการมอบพื้นที่งานใหญ่ของปีที่มี Visibility มหาศาล ชวนพวกเขาขึ้นมามอบความสุขบนเวทีเดียวกับศิลปินระดับโลก 

เพราะถ้ามองอีกมุม หากเซ็นทรัลเวิลด์เอาแต่ Global Artist มา ซึ่งแน่นอนต้องได้ยอด View & Engagement มากมาย แต่ก็ยังไม่ลืมนำศิลปิน Rising Stars ที่เต็มไปด้วยศักยภาพของไทย เปิดโอกาสให้ได้ขึ้นเวทีใหญ่ ซึ่งเราสามารถย้อนไปได้ ดังนี้

ปี 2562: แดนซ์กันข้ามปีกับคอนเสิร์ตจากศิลปินท็อปของไทย เช่น SBFIVE, เจ เจตริน และเจ้านาย, ดา เอ็นโดรฟิน, วง POTATO, JoeyBoy, 25hours, BNK48

ปี 2563: คอนเสิร์ตจากกองทัพศิลปินนักร้องตัวท็อป 10 เบอร์ใหญ่ 10 สไตล์ เช่น PALMY, THE TOYS, เป๊ก ผลิตโชค, JoeyBoy, THAITANIUM x TWOPEE, Slot Machine, GETSUNOVA, SBFIVE และวง TRINITY

ปี 2564: Jetset’er, COCKTAIL, BNK48, CGM48, เจ เจตริน และ เจ้านาย จินเจษฎ์, ศิลปินนาดาว (ไอซ์ พาริส, เจเจ, นาน่า, แพรวา ณิชาภัทร, บิวกิ้น และพีพี), TRINITY และ PALMY และโซน Groove พบกับ Musketeers, fellow fellow, WANYAi กับ Mon Monik และ ตู่ ภพธร 

ปี 2565: Music Phenomenon คอนเสิร์ตสุดมันจากสุดยอดศิลปินรุ่นใหม่มาแรงในทุกโซเชียลมีเดียแห่งปี ที่ครองทุกแฮชแท็ก และติดท็อปชาร์ตทุก Music Streaming เช่น Ice Paris, Billkin, PP Krit, NONT TANONT, INK WARUNTORN, Three Man Down

ปี 2566: มันข้ามปีอันลิมิเต็ด คอนเสิร์ต ‘RAIN’ ตำนาน K-Pop ระดับโลก และทัพศิลปินท็อปชาร์ตทุกอวอร์ดอย่าง โบกี้ ไลอ้อน, วิโอเลต วอเทียร์, โอ๊ต ปราโมทย์, โจอี้ บอย, 4EVE, พีพี กฤษฏ์, บิวกิ้น พุฒิพงศ์, Three Man Down และ NONT TANONT

สำหรับปี 2567 ที่กำลังจะมาถึงนี้ นอกจากศิลปินระดับโลกอย่าง ‘Youngjae GOT7’ ที่แฟนๆ อากาเซรู้จักกันเป็นอย่างดีแล้ว ยังมี ‘แพทริค 尹浩宇 (อ่านว่า หยิ่นฮ่าวอวี่) ณัฐวรรธ์ ฟิงค์เลอร์’ ซึ่งคนไทยอาจจะไม่คุ้นชื่อมากนัก เพราะแพทริคนั้นโด่งดังจากการแข่งขันรายการเซอร์ไวเวอร์ของจีน CHUANG 2021 ก่อนที่จะอยู่ในอันดับที่ 9 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะสมาชิกของวง INTO1 โดยเขาเป็นสมาชิกที่มีอายุน้อยที่สุด ทำให้แพทริคเป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งในจีนและต่างประเทศ

นอกจากความสามารถในการแสดง ร้องเพลง เต้น แรป แต่งเพลง แพทริคยังมีความสามารถที่โดดเด่น เช่น เป็นพิธีกร และเล่นดนตรี เช่น เปียโน คีย์บอร์ด และกีตาร์ แพทริคสามารถพูดได้ 4 ภาษา เขาสามารถพูดภาษาไทย เยอรมัน อังกฤษ และจีนได้คล่อง และพูดภาษาญี่ปุ่นระดับพื้นฐานได้ นอกจากนี้เขายังเรียนรู้ที่จะพูดภาษาฝรั่งเศสอีกด้วย

ความสามารถที่รอบด้านทำให้เซ็นทรัลเวิลด์ได้ชวนมาขึ้นเวทีเคานต์ดาวน์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวลาไม่กี่อึดใจ

นอกจากนี้ยังมีศิลปินพิเศษที่นี่ที่เดียวจาก 5 Headliner ศิลปินไทย ได้แก่ พีพี กฤษฏ์ และ บิวกิ้น พุฒิพงศ์, ดิว่าตัวแม่แห่งวงการ โบกี้ ไลอ้อน, การคอลแล็บกันของ NONT TANONT x INK WARUNTORN, มันกับทัพศิลปินท็อปชาร์ตทุกอวอร์ด 65 ชีวิต เช่น โอ๊ต ปราโมทย์, ป๊อบ ปองกูล, PROXIE, TRINITY, BUS (Because of You, I Shine), TIGGER, ALALA, PSYCHIC FEVER, bamm, bXd, DVI, PERSES, HASHTAX, QRRA และ Three Man Down

จะเห็นได้ว่าไลน์อัพบนเวทีนั้นไม่ได้มีเพียงศิลปินที่กำลังเป็นกระแสเท่านั้น แต่ยังมีศิลปินรุ่นพี่ที่รู้จักอยู่แล้ว และหลายๆ วงที่จะขึ้นเคานต์ดาวน์ก็อยู่ในช่วงที่กำลังสร้างชื่อเสียงให้กับวงของตัวเอง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเคลื่อนไหวของเซ็นทรัลเวิลด์ในด้านการสนับสนุนศิลปินไทย และการใช้กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับศิลปินระดับโลกนั้น สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการผลักดันวัฒนธรรมและศิลปินท้องถิ่นสู่เวทีสากล โดยไม่ทิ้งรากฐานและคุณค่าของวัฒนธรรมไทย

นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมสร้างความสำคัญของอุตสาหกรรมเพลงไทยในเวทีระดับโลก ส่งเสริมให้ศิลปินไทยไม่เพียงแค่มีที่ยืนในประเทศ แต่ยังมีโอกาสในการแสดงศักยภาพบนเวทีระดับสากล

การผสานกลยุทธ์การตลาดและวัฒนธรรมป๊อปของเซ็นทรัลเวิลด์ ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างชื่อเสียงและหันสปอตไลต์มาให้กับศิลปินไทยในเวทีสากลเท่านั้น แต่ยังสร้างโอกาสให้ศิลปินไทยได้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มผู้ชมที่หลากหลายทั่วโลก ซึ่งนี่เป็นการสร้างเส้นทางใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมเพลงไทย ทำให้ศิลปินไทยมีโอกาสเติบโตไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงและความหลากหลายของวัฒนธรรมป๊อประดับโลก