ดร.โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) เปิดเผยว่า ค่าเฉลี่ย 7 วันของเคสติดเชื้อโควิดรายวันของสหรัฐฯ เพิ่มสูงเกินระดับสูงสุดที่บันทึกไว้เมื่อฤดูร้อนปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐฯ ยังไม่มีการอนุมัติให้ใช้วัคซีนตัวแรก
ข้อมูลทางการจาก CDC ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดเฉลี่ย 7 วันพุ่งแตะระดับ 72,790 รายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าจุดพีกของค่าเฉลี่ย 7 วันช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ระดับราว 68,700 รายต่อวัน
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว ค่าเฉลี่ยรายวันได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยลงมาที่ระดับ 68,326 รายในวันเสาร์ และ 63,250 รายต่อวันในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
แต่กระนั้น แม้ข้อมูลที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ CDC จะแสดงตัวเลขเฉลี่ย 7 วันของผู้ติดเชื้อรายวันที่ลดลงต่อเนื่องตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว แต่ข้อมูลอีกชุดที่มหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ได้รับนั้นปรากฏว่าตัวเลขไม่ลดลง ในทางกลับกันค่าเฉลี่ย 7 วันของผู้ติดเชื้อรายวันในสหรัฐฯ ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเข้าใกล้ระดับ 80,000 รายต่อวันเมื่อวันอาทิตย์
“แม้ว่าเราต้องการให้โรคระบาดนี้ยุติลง แต่เห็นได้ชัดว่าโควิดไม่ยอมจบกับเรา ดังนั้นการต่อสู้ของพวกเราต้องใช้เวลานานขึ้นอีกหน่อย” วาเลนสกีกล่าวในระหว่างแถลงสถานการณ์โควิดที่ทำเนียบขาว “มันยากและหนักหนา แต่เราอยู่ในนี้ด้วยกัน และในขณะที่เราเรียนรู้เกี่ยวกับโควิดได้มากขึ้น เราก็สามารถพึ่งพาวิธีที่ผ่านการพิสูจน์แล้วในการป้องกันตัวเรา ลูกหลานของเรา และคนที่เรารักได้ต่อไป”
ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของผู้อำนวยการ CDC มีขึ้นในช่วงที่ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ เริ่มกลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่มีอัตราการแพร่ระบาดสูง และเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ
ภาพ: Kevin Dietsch / Getty Images
อ้างอิง: