ตอนได้ยินว่าห้องอาหารนี้จะเสิร์ฟ ‘อาหารคาตาลัน’ เราก็สงสัยขึ้นมาทันทีว่าจะมีกลิ่นอายและรสชาติแบบไหน เพราะแม้จะพอรู้อยู่บ้างว่าเป็นอาหารสเปน แต่ชาวคาตาลันก็มีวัฒนธรรมเป็นของตัวเองอย่างเข้มข้นเหมือนกัน
Catalan Cuisine เป็นชื่อห้องอาหารใหม่ที่ตั้งให้เข้าใจแบบตรงไปตรงมา เพื่อแขกจะได้ไม่สับสน เพราะที่นี่อยู่ในพื้นที่ของ Embassy Room ห้องอาหารเช้าของโรงแรมพาร์ค ไฮแอท ที่ต่อจากนี้จะเปลี่ยนเป็นอีกบรรยากาศหนึ่งทันทีหลังจบมื้อแรกของวัน
ด้วยการเสิร์ฟอาหารคาตาลันในรูปแบบไฟน์ไดนิ่งที่จะมีให้เลือกทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น นำโดยเชฟชาวคาตาลันจากเมืองบาร์เซโลนา ที่จะปรุงอาหารตามรสชาติบ้านเกิด
ถึงแม้ว่า ‘เชฟ Ferran Tadeo’ จะมาทำอาหารในประเทศไทยเป็นครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้เขาเคยทำงานร่วมกับเชฟชื่อดังอย่าง Ferran Adriá ชาวสเปน ผู้ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในเชฟยอดเยี่ยมระดับโลก และเป็นเจ้าของร้านอาหารชื่อดังระดับโลกติดดาวมิชลิน El Bulli ที่เชฟ Ferran ได้เป็นหนึ่งในทีมเปิดร้านแห่งนั้นด้วย
และด้วยความที่เติบโตมากับวัฒนธรรมคาตาลัน ทำอาหารในครัวคาตาลัน เชฟ Ferran จึงอยากเดินตามรอยเชฟรุ่นใหญ่คนอื่นๆ เพื่อทำให้อาหารของชาวคาตาลันเป็นที่รู้จัก เขาจึงตั้งใจเปลี่ยนทั้งวัตถุดิบท้องถิ่นและนำเข้าจากยุโรป ให้กลายเป็นเมนูอาหารคาตาลันที่รสชาติต้องถูกปากทุกคน
เราได้ลองเป็นมื้อค่ำ 10 คอร์สที่จบมื้อแล้วอิ่มพอตัว เพราะนอกจากเชฟทำหลายๆ เมนูจากหลายคอร์สให้ลองชิม แต่ละคอร์สก็ประกอบด้วยอาหารหลายจานอีก
เริ่มตั้งแต่ของกินเล่น เชฟเสิร์ฟขนมปัง แฮมสเปน (Joselito Iberico) มะกอกดอง และโอลีฟออยล์ 2 ชนิดให้ชิม
หลังจากนั้นเข้าสู่คอร์สแรก Scallop & sweet pea tartlet, Kaviari Krystal Caviar เป็นทาร์ตโฮมเมดกับสแกลลอป ถั่ว คาเวียร์ และมาสคาร์โปน ซึ่งเราว่าแปลกใหม่ดี ก่อนตามด้วยเมนู Mussels, Razor Clams, Vermouth ที่หากใครชอบกินหอยต้องไม่พลาด เพราะใช้หอยแมลงภู่จากยุโรป กับหอยเลเซอร์ตัวโตๆ เสิร์ฟมาพร้อมเวอร์มุทเยลลี่
หลังจากนั้น Mackerel, Pepper, Eggplant, Filo ที่แนะนำว่าควรกิน ‘ฟิโล’ แป้งพายแผ่นบางกรอบที่ท็อปด้วยมะเขือยาวและน้ำผึ้ง พร้อมกับปลาแมกเคอเรลดอง เพื่อให้รสชาติลงตัวอย่างสมบูรณ์ และเราค่อนข้างชอบเมนูนี้มาก
เข้าสู่เมนูก่อนเมนคอร์ส Octopus, Sofrito, Picada เป็นหนวดปลาหมึกจากญี่ปุ่นที่เชฟใช้เทคนิคพิเศษทำให้เนื้อนุ่ม ไม่เหนียว เป็นเนื้อสัมผัสปลาหมึกที่ดีมาก มาพร้อมซอสโซฟริโต้สไตล์สเปน (คล้ายกับเพสโต้) กับซอสพิคคาต้า (ซอสซิกเนเจอร์ของอาหารคาตาลัน)
และ Kaviari Krystal Caviar, Souffle Potato, Egg Espuma เป็นซูเฟลมันฝรั่งที่เชฟนำไปกงฟี มาพร้อมหัวหอมซอเต้ เอสพูม่าไข่ ท็อปมันฝรั่งทอดและคาเวียร์ฝรั่งเศส เป็นรสชาติที่แปลกใหม่ดี
เมนคอร์สเสิร์ฟ 2 เมนู คือ Wellington Lobster, duxelles, puff pastry, hollandaise ล็อบสเตอร์เวลลิงตันกับเห็ดดุกเซลล์ ที่มาพร้อมซอสฮอลแลนเดซและซอสจากล็อบสเตอร์ ถ้าใครชอบเวลลิงตันอยู่แล้วเราเชื่อว่าก็จะชอบจานนี้เช่นกัน เพราะเชฟทำรสชาติโดยรวมได้ดี แถมมีสลัดส้มโอล็อบสเตอร์เสิร์ฟมาคู่กันด้วย
ตามด้วย Pigeon, Langoustine พิราบฝรั่งเศสกับซอสเรดไวน์ที่เชฟพยายามใช้ทุกส่วนของนกให้มีประโยชน์ที่สุด บนจานจึงมาพร้อมเทอร์รีนพิราบ ฟัวกราส์พิราบ และซอสจูซ์ทำจากพิราบ เช่นเดียวกับกุ้งแลงกูสทีนที่วางอยู่บนคาเนลโลนีไส้พิราบเช่นกัน
ปิดท้ายด้วยของหวาน 2 อย่าง คือ Strawberries, Cream, Modena Balsamic สตรอว์เบอร์รีอินฟิวส์น้ำส้มสายชู มาพร้อมครีมวานิลลาที่เชฟนำสูตรมาจากครอบครัว เมนูนี้รสชาติหวานอมเปรี้ยวกำลังดีน่าติดใจ และ Vanilla Ice Cream, Matcha Sponge Cake, Cherry Caramel ไอศกรีมวานิลลากับสปันจ์มัทฉะและเชอร์รีคาราเมล ที่รสชาติเหมาะกินปิดท้ายไม่แพ้กัน
หลายคอร์สเมนูที่นี่จะมาในรูปแบบแชริ่ง ซึ่งแต่ละคอร์สที่มีให้เลือกก็จะมีหลายเมนูต่างกันไปด้วย โดยมื้อกลางวันมีให้เลือกตั้งแต่ Dinar ราคา 1,400++ บาท/3 คอร์ส และราคา 1,800++ บาท/4 คอร์ส สำหรับมื้อเย็นมีให้เลือกคือ Ambaixador ราคา 3,800++ บาท/7 คอร์ส และ Panot ราคา 4,700++ บาท/10 คอร์ส ทุกคนสามารถเพิ่มไวน์แพริ่งได้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นไวน์จากสเปน
Embassy Room – Catalan Cuisine
Open: เปิดทุกวัน เวลา 12.00-14.30 น. และ 18.00-22.30 น.
Address: ชั้น 9 โรงแรมพาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ
Budget: เริ่มต้น 1,400-4,700 บาท
Facebook: Embassy Room
Map: