ต่อให้ใครไม่รัก, ความลับ, วันที่เธอดูแปลก, สุดสัปดาห์, โอม, จับมือฉันเอาไว้ ฯลฯ คือหนึ่งในเพลงฮิตของวง H ที่มีสมาชิกสามสาว พลอย หอวัง, แอนนี่-มณฑิราภา รัตตะกุญชร และ กิ๊ฟท์-กุศลิน โควหกุล วงไอคอนจากยุค 90 ที่ถึงวันนี้ ใครหลายคนยังอยากได้ยินพวกเธอร้องเพลงให้ฟังกันแบบสดๆ อีกครั้ง เพื่อย้อนภาพความทรงจำในยุคเทปคาสเซตต์ที่กำลังเฟื่องฟูให้กลับคืนมา
แต่อย่างที่รู้กันดีว่า วง H เป็นหนึ่งในวงที่กลับมารวมตัวกันน้อยครั้งที่สุด ถ้าเทียบกับคอนเสิร์ต ‘รียูเนียน’ ในยุคหลัง ที่เปิดโอกาสให้ศิลปินในยุค 90 กลับมารวมตัวกัน เพื่อสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับแฟนเพลงบนเวที
ล่าสุด วง H จะกลับมารวมตัวกันแบบเต็มวงอีกครั้งในคอนเสิร์ต Cassette Festival ร่วมกับศิลปินที่เคยโด่งดังในยุคเทปคาสเซตต์อีก 20 กว่าชีวิต ที่ตัวพลอยเองบอกว่า ต้องเป็นคอนเสิร์ตที่ ‘พิเศษ’ จริงๆ เท่านั้น เธอถึงจะยอมเอาชนะความไม่มั่นใจในตัวเอง เพื่อขึ้นไปยืนร้องเพลงบนเวที
วันนี้ THE STANDARD POP ชวนพวกเธอย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน เพื่อปะติดปะต่อความทรงจำบางอย่าง รวมถึง ‘เสน่ห์’ แห่งยุคสมัยของ ‘เทปคาสเซตต์’ ที่ยังคงคลาสสิกมาจนถึงทุกวันนี้
สิ่งที่จะคิดถึงขึ้นมาเป็นอันดับแรกเวลาถึงนึกวง H คืออะไร
ตอบพร้อมกัน: Center Point!
กิ๊ฟท์: Center Point เป็นที่รวมตัวของวัยรุ่นในยุคนั้น สมัยที่ยังไม่มีโทรศัพท์มือถือให้ใช้กันเหมือนตอนนี้ มีแค่เพจเจอร์ที่ใช้ฝากข้อความหากัน นัดเจอกันยาก ก็จะใช้ลานน้ำพุตรง Center Point นี่แหละเป็นแลนด์มาร์กรวมตัวกัน เพราะเจอกันได้ง่ายที่สุด
แอนนี่: พวกคนที่แต่งตัวแนวๆ ก็จะไปรวมกันตรงนั้นหมด เป็นที่ที่ทำให้เราได้ดูการแต่งตัวชิคๆ ในยุคนั้น
พลอย: แล้วออฟฟิศของค่ายเบเกอรี่ดันอยู่ตรงนั้นด้วย ก็ยิ่งทำให้พวกเราเชิดได้ (หัวเราะ) คนอื่นนัดกันตรงนั้นเพื่อเจอเพื่อนๆ แต่ของเราทั้งนัดเจอเพื่อน แล้วก็ไปทำงานด้วยนะคะ เก๋สุดแล้ว
พอจะจำได้ไหมว่าเทปม้วนแรกที่แต่ละคนซื้อคืออะไร เป็นของศิลปินคนไหน
กิ๊ฟท์: น่าจะเป็นของพี่เบิร์ด พี่มอส อะไรแบบนี้ แต่ไม่ได้ซื้อเองนะ น่าจะเป็นคุณแม่ซื้อ แล้วเราก็ได้ฟังตอนอยู่บนรถ
แอนนี่: ของแอนนี่ที่ซื้อเองจริงๆ น่าจะเป็นพี่ทาทา
พลอย: เออใช่ๆ ตอนนั้นต้องพี่ทาทาเลย แล้วก็พวกแก๊ง 6.2.12 กับวง Teen 8 Grade A อะไรแบบนี้
แอนนี่: การฟังเพลงยุคนั้นกับยุคนี้ก็ต่างกันเยอะ ตอนนั้นเราจะซื้อเทปมา แล้วก็ฟังทุกเพลง ทั้งหน้า A หน้า B มันต้องชอบจริงๆ นะถึงจะซื้อ พอซื้อมาแล้วก็ฟังทุกเพลงแบบไม่กดข้ามเลย
กิ๊ฟท์: เพราะเทปมันกรอยาก แต่ถ้าเพลงไหนที่ชอบจริงๆ ก็ต้องหมุนนะ หมุนซ้ำๆ บางทีหมุนจนเทปยานไปเลย
พลอย: เวลาคุยกันเรื่องเทปที่เพิ่งซื้อมา ต้องบอกถึงขั้นว่า เพลงนี้อยู่หน้า A เพลงนั้นอยู่หน้า B อะไรแบบนั้นเลยนะ มันจะมีการเรียงเพลงที่ไม่เหมือนตอนนี้ที่เพลงหน้า A คือเซตเพลงฮิต ส่วนหน้า B อาจจะเป็นเพลงที่อาจจะไม่ได้ฮิตมาก แต่ศิลปินได้ทดลองอะไรแปลกๆ เดี๋ยวนี้น่าจะไม่มีใครพูดคำว่าหน้า A หน้า B กันแล้วมั้ง (หัวเราะ)
เพลงไหนในยุคเทปคาสเซตต์ที่ต้องกรอกลับไปฟังบ่อยที่สุด
กิ๊ฟท์: เพลง เลือกได้ไหม, นอนไม่หลับ กับพวกเพลงช้าๆ ของ Zaza ฟังซ้ำๆ ได้หมดเลย
พลอย: เพลง คืนนี้ขอหอม ของพี่โป้ Yokee Playboy ฟังแล้วฟังอีก ฟังไปเรื่อยๆ เลย ชอบมาก
แอนนี่: เพลง อยากกลับไปหา ของ Armchair อันนี้โชคดีหน่อย เป็นยุคที่การกรอเครื่องเล่นเทปบนรถเริ่มทำได้ง่ายแล้ว ก็จะกรอไปฟังไประหว่างขับรถได้สะดวกขึ้นมาหน่อย
เสน่ห์อย่างหนึ่งในยุคนั้นคือ การค่อยๆ แกะพลาสติกหุ้มเทปแต่ละม้วนช้าๆ แล้วค่อยๆ อ่านเนื้อเพลง อ่านเรื่องราวของแต่ละเพลงที่อยู่ข้างใน
กิ๊ฟท์: มีอ่านเนื้อเพลง แต่จะไม่ค่อยๆ แกะช้าๆ จะแกะแบบฉีกพลาสติกเลย (หัวเราะ) คือเราอยากรีบเปิดไปดูปกข้างในของเขา เพราะปกเทปในยุคนั้นน่าสนใจมากเลย
พลอย: ปกยุคนั้นดีมากทั้งหมดเลยนะ ไม่อยากอวยค่ายตัวเองเลย (หัวเราะ) แต่ค่ายเบเกอรี่ในตอนนั้นตั้งใจในการทำอาร์ตเวิร์กมากจริงๆ ทุกศิลปินคือเก๋หมด แล้วเขาไม่ได้คิดแค่ให้ปกออกมาสวย แต่คิดเป็นเรื่องราวของพวกเรา พอครีเอตออกมาแล้วน่ารักน่าเก็บมากกว่าสมัยนี้ ในความรู้สึกพลอยนะ
พอจะจำความรู้สึกในวันที่เปลี่ยนจากคนที่ชื่นชมปกเทปศิลปินคนอื่น มาเป็นคนที่ต้องไปโพสท่าถ่ายรูปอยู่บนปกนั้นเองได้ไหม
แอนนี่: จำปกแรกไม่ได้เลย แต่ปก 2 อัลบั้ม H2oh! นี่จำได้แม่น เพราะมีช็อตที่ต้องกระโดดไปด้วย ถ่ายไปด้วย ถ่ายอยู่นานกว่าจะได้ออกมาเป็นรูปที่เห็นกัน
พลอย: จำได้ เพราะวันที่ถ่ายต้องยิ้มไปไม่รู้กี่ล้านรอบ แต่เขาเอารูปแรกแบบที่เรายิ้มอ่อนๆ (หัวเราะ) แต่กลายเป็นว่ารูปนั้นเป็นรูปที่ฮิตที่สุดไปเลย
กิ๊ฟท์: จำตอนปกแรกได้ เพราะเป็นวันที่ต้องตัดผมหน้าม้าด้วย (หัวเราะ) แล้วกว่าจะได้รูปที่เห็นนั่นคือ ต้องเอี้ยวตัวแล้วเอี้ยวตัวอีก โพสิชันมันไม่ได้สักที เหนื่อยแต่ก็สนุกมากเหมือนกัน
มิวสิกวิดีโอเพลง ต่อให้ใครไม่รัก
หลังจากนั้นวง H ก็กลายเป็นหนึ่งในไอคอนของวัยรุ่นยุคนั้นไปเลย
แอนนี่: ตอนนั้นไม่ได้คิดเรื่องการเป็นไอคอนหรืออะไรเลย รู้แค่ว่าเราเด็กมาก แล้วการได้มารวมตัวกัน ได้มาออกเทป ได้คุยกันว่า เฮ้ย เราเป็นนักร้องแล้วนะ มีคอนเสิร์ต ไปสัมภาษณ์คลื่นวิทยุ ไปเยี่ยมแผงเทปแล้วมีคนมารอเจอเรา ทุกอย่างมันตื่นเต้นและสนุกไปหมด เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ดีมากสำหรับช่วงเวลาที่เป็นเด็กในตอนนั้น
พลอย: นอกจากตื่นเต้น แล้วก็งงว่ามาตามเราทำไม (หัวเราะ) มีคนเขียนจดหมาย ได้ไปเล่นคอนเสิร์ตแคมปัสทัวร์ แล้วเบเกอรี่น่ารักตรงไหนรู้ไหมคะ โรงเรียนสหฯ หรือหญิงล้วน เขาไม่เอานะคะ ต้องพาไปโรงเรียนชายล้วนค่ะ (หัวเราะ) สรุปแฟนคลับเราเป็นใครกันแน่ ซึ่งมันงงจริงๆ นะเวลามีคนมากรี๊ด มีคนมาชื่นชมเรา เพราะพูดจริงๆ ว่าเรายังไม่มั่นใจในตัวเองเลยว่ามีคนรู้จักเราด้วยเหรอ
กิ๊ฟท์: มันไม่มั่นใจ (หัวเราะ) พอเข้ามหาวิทยาลัยก็ทำตัวธรรมดา ไม่กล้าบอกว่าเราเป็นนักร้องหรืออะไร แต่ก็จะมีคนมาบอกว่า เฮ้ย อยู่วง H เหรอ เราก็จะงง แล้วตอบกลับไปได้แค่ว่า อ้าว รู้จักด้วยเหรอ (หัวเราะ)
พลอย: อาจเป็นเพราะว่าตอนเด็กๆ เราไม่ได้ถูกเทรนมาให้เป็นศิลปิน ต้องเข้าใจว่าค่ายเบเกอรี่มีความเป็นเหมือนพี่น้องกันมากกว่า พอเป็นพี่น้อง ทุกคนก็ถูกเทรนให้รักกันเหมือนพี่น้อง ไม่ได้ถูกเทรนให้เป็นซูเปอร์สตาร์ที่จับต้องไม่ได้ เวลาไปร้องเพลงเราก็แค่สนุก เอ็นจอยกับมัน ไม่ได้ไปเพราะอยากเด่น หรืออยากชนะคนอื่น พอทุกอย่างมันเริ่มมาจากตัวเรา เริ่มมาจากคนในค่าย เวลาออกไปข้างนอกเลยมีความไม่มั่นใจ ไม่ค่อยเชื่อในบางสิ่งบางอย่างอยู่
แอนนี่: เป็นความรู้สึกงงๆ แบบแปลกๆ จะคิดกันตลอดเวลาไปแผงเทป ไปคอนเสิร์ตก็คิดว่าจะมีคนมาดูเราหรือเปล่า
กิ๊ฟท์: ทุกวันนี้ยังคิดอยู่เลย (หัวเราะ)
ในช่วงหลังๆ ที่มีคอนเสิร์ตแนวรียูเนียน ศิลปินในยุคก่อนเกิดขึ้นเยอะมาก แต่ทำไมเรารู้สึกว่าไม่ค่อยได้เห็นวง H กลับมารวมตัวขึ้นเวทีกันแบบครบๆ บ้างเลย
กิ๊ฟท์: ครั้งสุดท้ายน่าจะเป็น The BoydKo Awards ประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว
พลอย: เพราะพลอยนิสัยไม่ดีเองค่ะ (หัวเราะ)
แอนนี่: ไม่หรอก บางทีก็เพราะเราด้วย ต่างคนอาจมีเหตุผลหรือติดภารกิจของตัวเอง แล้วเวลาไม่ตรงกัน ไหนจะเรื่องนัดคุย เรื่องซ้อมคิว การขึ้นคอนเสิร์ตแต่ละครั้งมันซับซ้อนนะ
พลอย: แอนนี่เขาตอบแบบน่ารัก (หัวเราะ) แต่สำหรับพลอย พลอยเป็นคนมีความมั่นใจในบางอย่างนะ แต่ถ้าเป็นเรื่องร้องเพลงหรือการขึ้นไปแสดงอะไรแบบนี้ มันเป็นบ้าอะไรไม่รู้ มันทั้งกลัว ทั้งอาย ไม่อยากขึ้น เหมือนเป็นโรคจิตเลย คือต้องเป็นคอนเสิร์ตที่รู้สึกว่ามีหลายคนที่ทำให้เรารู้สึกว่ามีความพิเศษได้จริงๆ ถึงจะขึ้น
อีกอย่างคือ พลอยอยากให้คนจดจำวง H แบบในยุคนั้นไปเลย เพราะคิดว่ามันพิเศษที่สุดแล้วที่คนจะจำเราในภาพที่น่ารักๆ แบบนั้น ตอนนี้ให้ไปเต้นอะไรแบบนั้นก็คงไม่ไหว ดูเก้ๆ กังๆ อันนี้คือความคิดของพลอยนะ แล้วพลอยก็จะปฏิเสธไปบ่อยมาก อย่างที่บอก นิสัยไม่ดี (หัวเราะ)
อย่างคอนเสิร์ต Cassette Festival ที่กำลังจะเกิดขึ้น มีความพิเศษอะไร ที่ทำให้ทุกคนยอมกลับมารวมตัวกันอีกครั้งได้
พลอย: อย่างแรกคือประชาธิปไตย 2 ต่อ 1 เสียง ปกติพลอยก็จะยังไม่ยอมนะ แต่ครั้งนี้ทีมงาน Atime Showbiz โทร.มาหา แล้วเป็นทีมที่พลอยมั่นใจว่าเขาต้องทำออกมาได้ดีอยู่แล้ว แล้วยิ่งดูชื่อศิลปินคนอื่นๆ ที่จะมาเล่นคอนเสิร์ตครั้งนี้ที่เป็นระดับตัวพ่อ ตัวแม่เยอะมาก มีคนที่เรารู้จัก และทำให้เชื่อได้ว่า คอนเสิร์ตนี้มันต้องสนุกจริงๆ
กิ๊ฟท์: อย่างกิ๊ฟท์จะชอบพี่แอนเดรีย (สวอเรซ) ชอบเพลง สบตา มาก เพราะจำได้ว่า เป็นเพลงที่เราใช้ประกวดร้องเพลงตั้งแต่เด็ก
พลอย: ของพลอยมีหลายคนมาก ทั้งพี่อ้อม พี่มอส พี่ทาทา หรือวง Zaza โอ๊ย ชอบทุกคน
แอนนี่: เราชอบพี่ตุ้ย (ธีรภัทร์ สัจจกุล) เพราะสมัยนั้นเขาหล่อมาก (หัวเราะ) ถือกีตาร์ออกมาเพลงเพราะๆ เท่ๆ นะ โห ในยุคนั้นถ้าจะให้นึกถึงคนอื่นที่เป็นแนวนี้แทบไม่มีเลย
เคยได้ยินมาว่าพลอยถึงขนาดเคยร้องไห้เลย เวลามีคนเปิดเพลงของตัวเองขึ้นมาในห้องคาราโอเกะ
พลอย: ใช่ ไม่ชอบเลย เหมือนเป็นโรคจิตจริงๆ นะ อายมากทุกครั้งเลย คนอื่นเขาไม่เห็นมีใครเป็นแบบนี้กันเลย
กิ๊ฟท์: มีๆ แต่อาจจะไม่ถึงขนาดพลอย (หัวเราะ) มันเป็นเรื่องธรรมดาแหละ เวลาไปร้องคาราโอเกะแล้วเพื่อนก็จะเปิดเพลงให้เราร้องตลอดเหมือนกัน แต่เราจะปฏิเสธ ยังไงก็ไม่ร้องเหมือนกัน
พลอย: หรือเพราะตอนนั้นเราเด็กวะ พอมาตอนนี้ก็เลยเขิน
แอนนี่: บางทีเขาก็จะโดนลาก ดึงแขนเลยนะ ซึ่งเราก็จะสู้ด้วยการยืนยันอย่างเดียวว่า ไม่ก็คือไม่
พลอย: เออ กลายเป็นดุเฉยเลย (หัวเราะ)
กิ๊ฟท์: บางทีก็โกรธเลยนะ (หัวเราะ) แต่ในคอนเสิร์ตนี้แหละที่จะมาร้องให้ทุกคนฟังพร้อมกันอีกครั้งหนึ่ง
คลิปโปรโมตคอนเสิร์ต Cassette Festival
ภาพ: สุพัฒน์ ศิวะพรพันธ์
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
- คอนเสิร์ต Cassette Festival จะขึ้น 3 รอบ ในวันที่ 24-26 พฤษภาคม ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ บัตรราคา 2,000-5,000 บาท ซื้อบัตรได้ Thaiticketmajor ทุกสาขา และ http://www.thaiticketmajor.com/concert/cassette-festival-2019-th.html