สำนักข่าวต่างประเทศรายงานไปในทิศทางเดียวกันว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังจะได้ตัวกองกลางรายใหม่เข้ามาเสริมทีมเสียที และเป็นนักเตะที่ไม่มีใครคาดคิด เพราะเป็นกองกลางระดับทีมชาติบราซิลที่ได้รับการยกย่องว่าเก่งที่สุดคนหนึ่งของโลกในยุคหลังอย่าง คาเซมิโร
โดยตามรายงานข่าวระบุว่า แมนฯ ยูไนเต็ดจะจ่ายค่าตัวของกองกลางวัย 30 ปีให้แก่เรอัล มาดริดในจำนวน 60 ล้านยูโรในขั้นต้น และจะจ่ายเพิ่มตามเงื่อนไขอีก 10 ล้านยูโร ซึ่งจะทำให้ค่าตัวของคาเซมิโรมีโอกาสทะลุไปถึง 70 ล้านยูโร ขณะที่สัญญาส่วนตัวนั้นยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขออกมา แต่เชื่อว่าจะเสนอสัญญาระยะยาวถึง 4 ปีให้พร้อมกับออปชันสไตล์แมนฯ ยูไนเต็ดในการขยายสัญญาออกไปอีก 1 ปี
ข้อเสนอนี้ทางด้านเรอัล มาดริด แม้จะไม่ได้มีความตั้งใจที่จะปล่อยตัวคาเซมิโรออกจากทีมมาก่อน แต่ก็เป็นข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจและพร้อมที่จะตอบรับ ขณะที่กองกลางฮาร์ดแมนเองก็รู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่ดีของชีวิตในการจะออกเดินทางอีกครั้ง หลังจากที่อยู่ในซานติอาโก เบร์นาเบวมาเกือบ 10 ปี นับจากย้ายจากเซาเปาโลมาในปี 2013
เพราะนอกจากจะได้โอกาสในการเล่นในพรีเมียร์ลีก ลีกที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดแล้ว ยังได้อยู่กับสโมสรใหญ่อย่างแมนฯ ยูไนเต็ด นอกเหนือจากนั้นคือการได้ค่าตอบแทนมหาศาล (แม้ว่าปกติจะเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงสุดของมาดริดอยู่แล้ว และเพิ่งต่อสัญญาถึงปี 2025 เมื่อปีกลาย) และได้สัญญาระยะยาวถึง 4+1 ปี ซึ่งแทบจะการันตีอนาคตการทำงานในช่วงโค้งสุดท้ายของชีวิต เพราะเวลานี้อายุเข้าหลัก 3 แล้ว และกำลังจะอายุครบ 31 ปีในอีกไม่กี่เดือน
และอนาคตในทีมเรอัล มาดริดนั้นเวลาเหลือน้อยลงทุกที เพราะทีมได้ โอเรเลียง ชูอาเมนี กองกลางดาวรุ่งอนาคตไกลมาเตรียมผนึกกำลังกับ เอดูอาร์โด คามาแวงกา ที่เป็นนักเตะทีมชาติฝรั่งเศสเหมือนกัน ซึ่ง คาร์โล อันเชล็อตติ ก็เริ่มฤดูกาลใหม่ด้วยการใช้ชูอาเมนีเป็นตัวจริงด้วย
ทั้งนี้ คาดว่าการเจรจาทุกอย่างน่าจะเสร็จสิ้นภายในวันนี้ (19 สิงหาคม) และจะมีการตรวจร่างกายภายใน 48 ชั่วโมง (อีกแล้ว) ซึ่งจะไม่ทันสำหรับการลงทะเบียนในเกมพรีเมียร์ลีกที่จะพบกับลิเวอร์พูลที่โอลด์แทรฟฟอร์ดในคืนวันจันทร์ที่จะถึงนี้
การใช้ทางออกฉุกเฉินอีกครั้งของแมนฯ ยูไนเต็ด
สำหรับดีลของคาเซมิโร ซึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้าที่ตลาดการซื้อ-ขายจะปิดตัวลงในอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ เป็นอีกครั้งที่แมนฯ ยูไนเต็ดต้องซื้อนักเตะเข้ามาสู่ทีมด้วยวิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ก่อนหน้านี้เป็นระยะเวลาเกือบ 3 เดือนที่ทีมซึ่งยังเป็นเจ้าของตำแหน่งแชมป์ลีกสูงสุดมากที่สุดของอังกฤษ 20 สมัย เสียเวลาไปกับการเฝ้ารอ แฟรงกี เดอ ยอง กองกลางทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นนักเตะที่ เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมคนใหม่ต้องการจะนำตัวมาเพื่อเป็น ‘แกนกลาง’ ของทีมยุคใหม่
ปัญหาคือแม้จะสามารถตกลงค่าตัวกับบาร์เซโลนาได้ แต่เดอ ยองไม่ต้องการที่จะย้ายมาเล่นกับสโมสรที่ไม่ได้ไปแชมเปียนส์ลีก และยังต้องการที่จะอยู่ในคัมป์นูต่อไปเพื่อพิสูจน์ตัวเองกับสโมสรในดวงใจ แม้ว่าบาร์ซาจะแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการให้ย้ายออกไปก็ตาม เพราะจำเป็นต่อเรื่องสถานะทางบัญชีของสโมสร
ขณะที่ในช่วงหลายสัปดาห์มานี้มีข่าวกับตัวเลือกใหม่ๆ อย่าง อาเดรียง ราบิโอต์ อดีตดาวรุ่งที่น่าจับตามองของวงการฟุตบอลฝรั่งเศส ที่ยูเวนตุสพร้อมปล่อยตัวออกจากทีม เนื่องจากเหลือสัญญาแค่ปีเดียวและรับค่าเหนื่อยค่อนข้างสูงในทีม แต่การเจรจาไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากเงื่อนไขส่วนตัวที่ทางนักเตะต้องการค่อนข้างสูงเกินไปมาก
และนั่นทำให้คาเซมิโรปรากฏชื่อบนข่าวกับแมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นมาโดยไม่มีใครคาดคิด
ที่ไม่คาดคิดเพราะด้วย ‘วัย’ และ ‘สไตล์’ ของกองกลางรายนี้แตกต่างจากเดอ ยอง หรือแม้แต่ราบิโอต์ที่มีความไดนามิกค่อนข้างมาก ไม่นับเรื่องค่าตัวในการย้ายทีมที่ค่อนข้างสูงสำหรับการลงทุนกับนักเตะที่อายุหลัก 3 แล้ว
อย่างไรก็ดี ไม่ได้หมายความว่าคาเซมิโรเป็นตัวเลือกที่แย่
ในทางตรงกันข้าม นี่อาจเป็นนักเตะที่เปลี่ยนแปลงแมนฯ ยูไนเต็ดได้เหมือนทฤษฎีผีเสื้อกระพือปีก
กลางรับผู้ปลดปล่อยทุกคน?
คาเซมิโรเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับแบบรับแท้ๆ ที่มี Defensive Minded ในแบบเดียวกับ เอ็นโกโล ก็องเต, ฟาบินโญ, โรดรี หรือ ดีแคลน ไรซ์
เรื่องความเก่งกาจไม่ต้องพูดถึงมาก บนโลกใบนี้คนที่เข้าใจศิลปะของการเล่นกองกลางตัวรับดีกว่านี้แทบไม่มี นี่คือระดับตัวจริงของทีมชาติบราซิล
และเมื่อพูดถึงทีมชาติบราซิลแล้ว นั่นหมายความว่าคนที่จะได้อานิสงส์เต็มๆ จากการมาของคาเซมิโรคือ เฟร็ด กองกลางที่เหมือนมี 2 คนในร่างเดียว ระหว่างร่างในชุดสีเหลืองทองของ ‘ลา เซเลเซา’ กับชุดสีแดงของแมนฯ ยูไนเต็ด
หลายครั้งที่แฟนปีศาจแดงสงสัยว่าทำไมเฟร็ดเล่นในทีมชาติดีจัง? นั่นก็เพราะในทีมมีระบบการเล่นที่เข้ากันได้ดีกว่า และที่สำคัญคือมีพี่ใหญ่อย่างคาเซมิโรที่คอยเก็บกวาดให้หมด ทำให้สามารถขับเคลื่อนเติมเกมได้อย่างอิสระเสรี
นั่นหมายความว่าเรามีโอกาสจะได้เห็นคู่กองกลางบราซิลในโอลด์แทรฟฟอร์ด ซึ่งในระบบการเล่นของเทน ฮาก ก็ใช้กองกลางตัวรับ 2 คนเช่นกัน โดยหนึ่งคนจะทำหน้าที่ในการเก็บกวาดงานให้ อีกคนเป็นตัวไดนามิกขับเคลื่อนเกม
จากที่คาดหวังให้เดอ ยอง เป็นคนขับเคลื่อน เมื่อได้คาเซมิโรมาก็อาจจะเป็นเฟร็ดแทน หรืออาจจะเป็น คริสเตียน อีริกเซน ที่ช่วยกำกับในแดนกลางได้ด้วยเช่นกัน
ขณะที่การได้กองกลางตัวรับที่แกร่งระดับนี้มาจะทำให้แนวรับได้รับการปกป้องมากขึ้น และคนที่จะดีใจอย่างมากคือกองหลัง โดยเฉพาะ ราฟาเอล วาราน กองหลังเพื่อนเก่าที่ย้ายมาเจอกับสภาพทีมที่ยับเยินกว่าที่คาดมาก แม้ว่าในเวลานี้เขาจะยังไม่สามารถชิงตำแหน่งกองหลังตัวจริงจาก แฮร์รี แม็กไกวร์ ที่ได้ออกสตาร์ทตัวจริง 2 นัดแรก แต่ก็มีโอกาสที่จะได้ลงตัวจริงหลังจากนี้
อย่างไรก็ดี ไม่แน่ใจนักว่าการมาของคาเซมิโรจะช่วยเปลี่ยนใจ คริสเตียโน โรนัลโด ได้อีกคนหรือไม่
เป้าหมายต่อไปก่อนตลาดวาย
นอกเหนือจากรายของคาเซมิโรแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ดกำลังเร่งเครื่องเพื่อหาแนวรุกเข้ามาเสริมทีมด้วย ไม่ว่าโรนัลโดจะอยู่หรือไม่อยู่ต่อก็ตาม
ข่าวร้ายคือเป้าหมายหลักดั้งเดิมอย่างแอนโทนี ทางด้าน The Times ระบุว่าอาแจ็กซ์ไม่ขอตอบรับข้อเสนอ 80 ล้านยูโรแล้วในเวลานี้ เพราะข้อเสนอมาช้าเกินไป
ทางออกอื่นจึงมีโอกาสเป็น โคดี กักโป ปีกจากทีมพีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ที่มีค่าตัวถูกกว่าแค่ 34 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นผู้เล่นที่เทน ฮากแนะนำเพราะรู้จักเป็นอย่างดี
ขณะที่อีกตัวเลือกที่น่าจับตามองคือ คริสเตียน พูลิซิช กองหน้าสารพัดประโยชน์ กัปตันทีมชาติสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการย้ายออกจากเชลซีเพื่อหาโอกาสในการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากปีนี้เป็นปีฟุตบอลโลก
ตามรายงานข่าวจากหลายสำนัก พูลิซิชมีความสนใจที่จะย้ายออกจากทีม แต่ไม่แน่ชัดว่าเชลซีจะยินดีปล่อยให้คู่แข่งในพรีเมียร์ลีกยืมตัวไปใช้งานหรือไม่
อีกรายที่มีข่าวคือ ยานนิค การ์ราสโก กองหน้าทีมชาติเบลเยียมที่เล่นได้หลายตำแหน่ง ซึ่งแอตเลติโก มาดริดยินดีที่จะปล่อยตัวออกจากทีม ไม่เหมือนในรายของ ชูเอา เฟลิกซ์ และ มาเธอุส กุนญา ที่แมนฯ ยูไนเต็ดมีข่าวด้วยในช่วง 2-3 วันก่อนหน้านี้
และอีกตำแหน่งที่น่าจับตามองคือแบ็กขวา ซึ่งมีรายงานจาก The Telegraph ระบุว่ากำลังมอง โธมัส มูนิเยร์ แบ็กขวาจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่อาจจะทดแทน อารอน วาน บิสซากา ที่มีโอกาสจะย้ายกลับไปคริสตัล พาเลซทีมเก่า
ผู้รักษาประตูสำรองก็เป็นอีกตำแหน่งที่แมนฯ ยูไนเต็ดต้องการ หลังปล่อย ดีน เฮนเดอร์สัน ออกไปให้น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ยืมตัว โดยให้ความสนใจ อัสเมียร์ เบโกวิช ประตูจอมเก๋าที่ปัจุจบันอยู่กับเอฟเวอร์ตัน แต่การกล่อมให้ปล่อยประตูมือสองรายนี้ออกมาในช่วงเปิดฤดูกาลแบบนี้ไปแล้วอาจจะเป็นเรื่องยาก
เรียกได้ว่ายังมีงานอีกมากที่ จอห์น เมอร์โท ผู้อำนวยการสโมสร ต้องจัดการก่อนตลาดการซื้อ-ขายนักเตะจะปิดตัวลง
อ้างอิง:
- https://www.thetimes.co.uk/article/manchester-united-close-in-on-60m-deal-for-real-madrids-casemiro-9zq2fnb92
- https://www.theguardian.com/football/2022/aug/19/manchester-united-close-on-casemiro-with-real-madrid-to-accept-70m-offer
- https://www.telegraph.co.uk/football/2022/08/18/manchester-united-closing-60m-casemiro-signing/