×

อ่านเคส ‘ยูนิลีเวอร์’ คิดแบบผู้นำ ทำอย่างมีจุดมุ่งหมาย สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกทศวรรษ [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
16.12.2024
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 min read
  • ‘ยูนิลีเวอร์’ ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ที่สุดในโลก ทำธุรกิจใน 190 ประเทศ มีผู้คนทั่วโลกกว่า 3 พันล้านคนใช้สินค้าของบริษัททุกวัน เป็นองค์กรที่ยืนหยัดและเป็นผู้นำในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกมาหลายทศวรรษ
  • ชวนอ่านวิธีคิดและทำแบบยูนิลีเวอร์ ที่สามารถขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งผลกำไรและความรับผิดชอบต่อผู้คน สังคม และโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงเวลาที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกลายเป็นปัญหาใหญ่ของแบรนด์และผู้บริโภค
  • พร้อมเจาะลึก 4 กุญแจสำคัญ พาธุรกิจ ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย เติบโตอย่างยั่งยืนไปกับผู้นำคนใหม่ อันชุล อะซาวา

แม้ภาคธุรกิจจะลุกขึ้นมาผลักดันและขับเคลื่อนการสร้างความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการรับมือและจัดการกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพที่ทวีความรุนแรงขึ้น 

 

‘ยูนิลีเวอร์’ ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ที่สุดในโลก ทำธุรกิจใน 190 ประเทศ มีผู้คนทั่วโลกกว่า 3 พันล้านคนใช้สินค้าของบริษัททุกวัน เป็นองค์กรที่ยืนหยัดและเป็นผู้นำในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกมาหลายทศวรรษ คิดและทำอย่างไรจึงขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งผลกำไรและความรับผิดชอบต่อผู้คน สังคม และโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงเวลาที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกลายเป็นปัญหาใหญ่ของแบรนด์และผู้บริโภค

 

ยูนิลีเวอร์

 

สำหรับยูนิลีเวอร์ ‘ความยั่งยืน’ เป็นเหมือนพันธกิจหลักตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท วิลเลียม ลีเวอร์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งเชื่อว่าธุรกิจจะรุ่งเรืองได้ถ้าดำเนินงานด้วยจริยธรรมและความรับผิดชอบ ‘Doing Well by Doing Good’ กลายเป็น DNA ขององค์กร

 

ไฮน์ ชูมัคเกอร์ ซีอีโอของยูนิลีเวอร์ ก็ยังคงมุ่งมั่นสานต่อด้านความยั่งยืนด้วยการ ‘Do Fewer things and with Greater Impact’ เลือกทำอย่างมีเป้าหมายที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกมากยิ่งขึ้น มุ่งเน้นการจัดสรรทรัพยากรไปสู่ลำดับความสำคัญด้านความยั่งยืนมากขึ้น เร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วนในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายระยะยาว และสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบที่มากขึ้น 

 

หนึ่งในบริษัทแรกๆ ที่ประกาศการกำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืนระยะยาวผ่าน Unilever Sustainable Living Plan (USLP) 

 

ว่ากันตามตรง ก่อนที่ยูนิลีเวอร์จะเปิดตัว Unilever Sustainable Living Plan (USLP) ซึ่งเป็นแผนการที่จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม โดยมีเป้าหมายที่จะสอดคล้องกับเป้าหมายพัฒนาความยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ใน พ.ศ. 2553

 

ยูนิลีเวอร์ทำการจัดซื้อจัดจ้างแบบยั่งยืน (Sustainable Procurement) มาตั้งแต่ พ.ศ. 2551 สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน (Renewable Electricity) ในการทำงานได้สำเร็จ ช่วยลดต้นทุนได้ถึง 4.7 หมื่นล้านบาท (1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

 

การเดินหน้าจัดการกับความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นแบบเชิงรุกในการบูรณาการความยั่งยืนเข้ากับการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลาสติกรีไซเคิล (PCR) การเปลี่ยนไปใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน หรือการทำการเกษตรแบบยั่งยืน ที่แม้ว่าจะต้องมีการลงทุนหรือใช้ต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ยูนิลีเวอร์ยังคงยึดมั่นในพันธกิจอย่างแน่วแน่ โดยมองความท้าทายเป็นโอกาสในการปรับตัวเพื่อการเติบโตในระยะยาว 

 

แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอต่อการรับมือและจัดการกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม การประกาศแผน USLP ในเวลานั้นเปรียบได้กับการพัฒนากลยุทธ์ด้านความยั่งยืนเพื่อให้เท่าทันต่อสถานการณ์ 

 

เป้าหมายหลักของแผนคือ 

 

  • ปรับปรุงพัฒนาสุขภาพของคนกว่า 1 พันล้านคนภายในปี 2563 โดยการเพิ่มโภชนาการในอาหาร และสนับสนุนการมีสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโรค 
  • ลดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมลงไปครึ่งหนึ่งในกระบวนการผลิตสินค้าภายใน พ.ศ. 2573 โดยการลดก๊าซเรือนกระจก ลดปริมาณการใช้น้ำ ลดขยะ และทำการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน
  • ทำให้ชีวิตของคนเป็นล้านคนดีขึ้นภายใน พ.ศ. 2563 โดยการให้การศึกษา ให้โอกาสแก่ผู้หญิงในการทำงานอย่างเท่าเทียมกัน

 

10 ปีให้หลัง ผลลัพธ์หลังขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนอย่างจริงจัง 

 

  • โครงการสุขภาพและสุขอนามัยสามารถเข้าถึงผู้คนได้มากถึง 1.3 พันล้านคน 
  • ลดการปล่อยของเสียต่อการใช้ผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภคลง 32% และลดของเสียที่จะฝังกลบในทุกโรงงานให้เป็นศูนย์
  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตของเราลง 50% และใช้พลังงานทดแทนกริดไฟฟ้า 100% ทั่วทุกไซต์งานของเรา
  • ลดน้ำตาลในเครื่องดื่มชาทั้งหมดที่มีรสหวานลง 23% และลดจากกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารลง 56% ในขณะนี้ได้รับมาตรฐานโภชนาการสูง
  • ช่วยให้ผู้หญิงจำนวน 2.34 ล้านคน เข้าถึงโครงการริเริ่มต่างๆ เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย พัฒนาทักษะ หรือสร้างโอกาสใหม่ๆ เราดำเนินการเพื่อให้ที่ทำงานมีความเท่าเทียมทางเพศ 
  • ตำแหน่งฝ่ายบริหารในองค์กรเป็นผู้หญิงมากถึง 51% 

 

ยกระดับความร่วมมือในห่วงโซ่อุปทานผ่านกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ยั่งยืน (Unilever Compass) 

 

เมื่อฉากทัศน์เปลี่ยน แต่ความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนของยูนิลีเวอร์ยังคงเดินหน้าต่อ นำไปสู่การบูรณาการกลยุทธ์องค์กรใหม่อย่างเต็มรูปแบบ นำแนวคิด ‘Unilever Compass’ ที่ผสานพื้นฐานความเชื่อหลัก 3 ประการ ‘แบรนด์ที่มีจุดประสงค์จะเติบโต บริษัทที่มีจุดประสงค์จะคงอยู่ และพนักงานที่มีจุดประสงค์จะก้าวหน้า’ มาปรับใช้ ซึ่งจะครอบคลุมธุรกิจทุกแขนงของยูนิลีเวอร์และระบบนิเวศที่กว้างขึ้น ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำระดับโลกด้านความยั่งยืน สังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ

 

อาจกล่าวได้ว่าความท้าทายด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม ไปจนถึงแรงกดดันจากการได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในผู้ก่อมลพิษรายใหญ่ที่สุดของโลก ก็เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้บริษัทต้องปรับจุดยืนใหม่ ขยายกรอบเป้าหมายให้กว้างขึ้น ให้ความสำคัญกับการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ โดยบูรณาการผสานความก้าวหน้าด้านความยั่งยืนเข้ากับผลการดำเนินงานทางธุรกิจ

 

อธิบายให้เข้าใจง่าย Unilever Compass เป็นกลยุทธ์ที่กำหนดขึ้นเพื่อช่วยให้ยูนิลีเวอร์สร้างผลการดำเนินการที่ดียิ่งขึ้น และผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบ ในขณะเดียวกันยังช่วยให้สุขภาพของโลกใบนี้ดีขึ้น ช่วยยกระดับให้ผู้คนมีสุขภาพ มีความมั่นใจ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ลืมไม่ได้คือ ต้องขับเคลื่อนโลกที่เป็นธรรม และคำนึงถึงสังคมส่วนรวมมากขึ้น

 

ยูนิลีเวอร์

 

ปฐมบทใหม่ของผู้นำด้านธุรกิจที่ยั่งยืน 

 

การขับเคลื่อนเป้าหมายด้านความยั่งยืน จะมีมาตรฐานความยั่งยืนแบบเจาะจง ผลการดำเนินงานด้านต่างๆ ที่ไม่ได้มีแค่ผลประกอบการทางการเงิน และแนวทางการรับมือกับเหตุการณ์ด้านสภาพภูมิอากาศที่ชัดเจน

 

ความสำคัญจะอยู่ที่การสร้างผลกระทบเชิงบวกมากขึ้น ผ่านแผนการดำเนินงานเพื่อการเติบโต (Growth Action Plan) ซึ่งออกแบบมาเพื่อจัดการกับความท้าทายต่างๆ ลดจำนวนโปรเจกต์ให้น้อยลง เพื่อจะได้อุทิศเวลาให้กับงานสำคัญให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิผล

 

ยูนิลีเวอร์กำลังขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนให้เกิดขึ้นผ่านกลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กร  ที่ทุกคนจะมีส่วนร่วมและเป็นเจ้าของในการขับเคลื่อนความสำเร็จด้านความยั่งยืน ตั้งแต่การสร้างความเป็นผู้นำ การสร้างทีม ไปจนถึงกลุ่มธุรกิจต่างๆ รวมถึงการจัดการกับปัญหา ที่จะกำหนดเป้าหมายในการจัดการกับปัญหาต่างๆ

 

เป้าหมายความยั่งยืน 4 ด้าน ที่ยูนิลีเวอร์ให้ความสำคัญ

 

  • สภาพภูมิอากาศ: บรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตลอดห่วงโซ่คุณค่า
  • ธรรมชาติ: ส่งเสริมระบบนิเวศทางธรรมชาติและการเกษตรที่มีความยืดหยุ่นและฟื้นตัวได้ 
  • พลาสติก: หยุดสร้างมลภาวะจากพลาสติกด้วยการลดการใช้พลาสติกใหม่ หมุนเวียนการใช้พลาสติก และร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อสนับสนุนการลดการใช้พลาสติกอย่างยั่งยืน
  • ความเป็นอยู่: สร้างความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนในห่วงโซ่คุณค่าของบริษัท ซึ่งรวมถึงการได้รับค่าจ้างที่เพียงพอต่อการยังชีพ

 

การจะเร่งเครื่องให้ถึงเป้าหมายการเป็นผู้นำธุรกิจที่ยั่งยืนยุคใหม่ จำเป็นต้องจัดสรรทรัพยากรโดยเฉพาะเงินทุนเพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนอย่างมีเป้าหมายมากขึ้น ตามมาด้วยการดำเนินการที่รวดเร็ว เป็นระบบ มีแผนงาน ขอบเขตความรับผิดชอบ และผลตอบแทนที่ชัดเจน ทั้งหมดนี้จะต้องได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือด้านนโยบายอย่างจริงจัง

 

เคล็ดลับการคิดแบบผู้นำ และทำแบบยูนิลีเวอร์ กับการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ

 

อันชุล อะซาวา ประธานบริหารกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ครัวเรือนภาคพื้นอาเซียน และประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย เผย 4 กุญแจสำคัญที่ยูนิลีเวอร์ใช้เป็นเข็มทิศนำพาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งกำไรและตลอดห่วงโซ่คุณค่าขององค์กร

 

WEB_5

 

  • บูรณาการความยั่งยืนเข้ากับกลยุทธ์หลัก 

 

ยูนิลีเวอร์นำเป้าหมายด้านความยั่งยืนผนวกรวมเข้ากับกระบวนการวางแผนธุรกิจและการจัดสรรเงินทุน เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนด้านความยั่งยืนสอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงิน และต้องไม่ลืมติดตามความคืบหน้าด้วยความรับผิดชอบและแสดงผลตอบแทนที่ชัดเจน

 

กลยุทธ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า ความยั่งยืนกลายเป็นข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ที่ทำให้ธุรกิจปรับตัวได้ แข็งแกร่งขึ้น และประสบความสำเร็จในระยะยาว หากบริษัทสามารถผสานความยั่งยืนเข้ากับทุกแง่มุมของการดำเนินงานได้สำเร็จ 

 

“การบูรณาการความยั่งยืนเข้ากับกลยุทธ์หลัก ทำให้ยูนิลีเวอร์สามารถลดต้นทุนในระยะยาว ทั้งยังช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ และดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถให้มาร่วมงานกับเราอีกด้วย” อันชุล อะซาวา กล่าว

 

  • สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก

 

ผู้นำองค์กรและเจ้าของธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาในเทคโนโลยีที่ยั่งยืนมากขึ้น ด้วยเป้าหมายที่จะพัฒนาอย่างยั่งยืนตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตสินค้าจนสินค้าถึงมือผู้บริโภคนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องค้นหาและวิจัยนวัตกรรมใหม่ๆ โดยที่ยังสามารถดูแลผู้คนและโลกใบนี้ได้ 

 

นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์ เช่น น้ำยาล้างจาน เกิดจากข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับการวิเคราะห์ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล จนสามารถปรับสูตรน้ำยาล้างจานซันไลต์ขึ้นใหม่ ประกอบด้วยเอนไซม์ชีวภาพที่ได้มาจากธรรมชาติ 100% ช่วยให้ผู้บริโภคทำความสะอาดจานได้เร็วขึ้นถึง 10 เท่า ช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้ครัวเรือนไทยกว่า 16 ล้านครัวเรือนเป็นมิตรกับโลกมากขึ้น ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ในระยะยาว

 

สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจก็สามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคไปพร้อมๆ กันได้

 

  • ความเป็นผู้นำในการกำกับดูแล

 

‘ผู้นำในองค์กร’ ดูเหมือนจะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่หลายองค์กรมองข้าม เพราะในความเป็นจริงแล้ว ผู้นำองค์กรมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการบริหารจัดการความยั่งยืน ไม่เพียงสร้างองค์กรให้เติบโตไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสิ่งแวดล้อม แต่ต้องกำหนดบทบาทและแนวทางที่ชัดเจนเพื่อพาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ

 

นอกเหนือจากวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ผู้นำต้องสร้างความสมดุลระหว่างผลผลิตทางธุรกิจ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม สร้างและรักษาวัฒนธรรมที่สนับสนุนการพัฒนาและการสร้างสรรค์ที่ยั่งยืน โดยส่งเสริมให้พนักงานทุกระดับภายในองค์กรพิจารณาเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในการดำเนินกิจกรรมตั้งแต่ระดับปฏิบัติการไปจนถึงระดับบริหาร เพื่อบูรณาการความยั่งยืนเป็นวัฒนธรรมขององค์กร และนำไปสู่การลงมือปฏิบัติให้เกิดผลลัพธ์อย่างแท้จริง

 

ยูนิลีเวอร์เชื่อว่าผู้นำองค์กรที่มีแนวทางชัดเจนจะสร้างความไว้วางใจในแบรนด์ ดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะสนับสนุนความสามารถในการทำกำไรให้กับบริษัท

 

  • การวัดผลและสื่อสารผลของความเปลี่ยนแปลง

 

กุญแจดอกสุดท้ายคือ ความโปร่งใสและความรับผิดชอบ ตลอดระยะเวลาของการดำเนินธุรกิจ ยูนิลีเวอร์สร้างความไว้วางใจกับผู้บริโภคและผู้มีส่วนร่วมในธุรกิจด้วยผลลัพธ์ที่วัดและตรวจสอบย้อนกลับได้ มีรายงานตัวชี้วัดด้านความยั่งยืนต่อสาธารณะ สิ่งเหล่านี้จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ และสร้างความไว้วางใจต่อผู้บริโภคอย่างยั่งยืน 

 

ความมุ่งมั่นและทุ่มเทของยูนิลีเวอร์ ไม่เพียงขับเคลื่อนความสำเร็จด้านความยั่งยืนของตัวเองเท่านั้น แต่สิ่งที่ทำสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับผู้คนมากมาย เป็นแบบอย่างให้กับธุรกิจทั่วโลกได้เห็นความเป็นไปได้ที่จะผสานกลยุทธ์ธุรกิจเข้ากับเป้าหมายด้านความยั่งยืน ที่สำคัญยังสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้นำรุ่นใหม่ที่อยากจะขับเคลื่อนธุรกิจและโลกที่ยั่งยืน

 

“ความยั่งยืนเป็นมากกว่าเป้าหมาย แต่เป็นพันธสัญญาให้กับคนรุ่นต่อๆ ไป ดังนั้นทุกกลยุทธ์ทางธุรกิจจึงควรคำนึงถึงความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญ และเส้นทางสู่อนาคตที่ยั่งยืนต้องถูกปูทางโดยผู้นำที่มีความมุ่งมั่นและมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน อุทิศตนอย่างแน่วแน่ ซึ่งหมายถึงการให้ความสำคัญกับความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายก็ตาม” อันชุล อะซาวากล่าวทิ้งท้าย

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X