×

มูลค่าตลาด คาร์บอนเครดิต ทั่วโลกเพิ่ม 14% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9 แสนล้านดอลลาร์ แม้ปริมาณการซื้อขายลดลง

08.02.2023
  • LOADING...

มูลค่าตลาด คาร์บอนเครดิต ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 14% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2022 แม้ปริมาณการซื้อขายลดลง โดยตลาดคาร์บอน ‘ยุโรป’ คว้าแชมป์มูลค่าสูงสุดของโลก ส่วนตลาดคาร์บอนจีนหดตัวกว่า 60% เหตุรัฐบาลวุ่นกำราบโควิดและปัญหาอื่นๆ

 

ทีมนักวิเคราะห์จาก Refinitiv เผยว่า มูลค่าตลาดซื้อขายคาร์บอนทั่วโลกในปี 2022 สูงถึง 8.50 แสนล้านยูโร (หรือ 9.09 แสนล้านดอลลาร์) โดยมีการแลกเปลี่ยนคาร์บอนราว 12.5 พันล้านตัน นับเป็นปริมาณที่น้อยกว่าปีก่อนหน้าถึง 20% แม้มูลค่าของตลาดเพิ่มขึ้น 14% เนื่องจากราคาคาร์บอนเครดิตสูงขึ้นมาก

 

ทั้งนี้ โครงการซื้อขายคาร์บอนเครดิต (Emissions Trading Schemes) เป็นเครื่องมือทางตลาด เพื่อจูงใจให้ทั่วโลกลดหรือจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยจะมีการจำกัดปริมาณคาร์บอนที่ประเทศหรือบริษัทสามารถปล่อยได้ โดยหากประเทศหรือบริษัทนั้นๆ ปล่อยคาร์บอนเกินขีดจำกัด ก็สามารถซื้อคาร์บอนเครดิตจากผู้อื่นได้

 

ปัจจุบันตลาดคาร์บอนที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ ระบบการซื้อขายการปล่อยมลพิษของสหภาพยุโรป (EU ETS) ซึ่งเปิดตัวในปี 2005 ซึ่งในปีที่แล้วมีมูลค่าประมาณ 7.51 แสนล้านยูโร เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า และคิดเป็น 87% ของตลาดทั่วโลก

 

โดยราคาคาร์บอนเครดิตเฉลี่ยใน EU ETS อยู่ที่ 80 ยูโรต่อตันในปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้าถึง 50% ส่วนหนึ่งมาจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นหลังสงครามในยูเครน

 

ส่วนคาร์บอนเครดิตในตลาดอังกฤษและอเมริกาเหนือก็มีราคาสูงกว่าในปี 2021 เช่นกัน

 

เมื่อปีที่แล้วฝ่ายนิติบัญญัติของสหภาพยุโรปยังได้ปฏิรูป EU ETS ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการคุมเข้มนโยบายด้านสภาพอากาศ และตกลงที่จะลดเครดิตในระบบ ซึ่งส่งผลทำให้ราคาเพิ่มขึ้นเช่นกัน

 

สำหรับตลาดคาร์บอนระดับภูมิภาคอีก 2 แห่งในอเมริกาเหนือ ได้แก่ Western Climate Initiative และ Regional Greenhouse Gas Initiative มีมูลค่ารวมกันมากกว่า 60,000 ล้านยูโรในปีที่แล้ว ตามข้อมูลจากรายงาน

 

ส่วนโครงการซื้อขายการปล่อยมลพิษแห่งชาติของจีน (China’s National Emissions Trading Scheme) ซึ่งเปิดตัวเมื่อกลางปี 2021 ปีที่แล้วมีมูลค่า 504 ล้านยูโร ลดลง 61% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากมีการซื้อขายอย่างจำกัด และการพัฒนาที่ล่าช้า เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้ออกแผนการจัดสรรใบอนุญาตใหม่ เพราะต้องให้ความสำคัญกับประเด็นอื่นๆ มากกว่า เช่น สถานการณ์การระบาดของโควิด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X