เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เผยถึงการรายงานเบื้องต้น ของยอดรวมผู้มาแจ้งครอบครองกัญชาช่วงนิรโทษตามกฎหมาย พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่7) พ.ศ. 2562 ที่เพิ่งหมดเขตตามกำหนด 90 วัน ไปเมื่อวานนี้เป็นวันสุดท้ายนั้น เฉพาะเมื่อวานนี้มียอดผู้มาแจ้งประมาณ 3,000 คน ทำให้ยอดรวมผู้มาแจ้งครอบครองทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้นประมาณ 21,000 คน
โดยจากการสังเกตผู้ที่มาขอยื่นนิรโทษกัญชา ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น ซึ่ง อย. มีระเบียบหลักเกณฑ์ที่แน่ชัดว่า ผู้มายื่นขอนิรโทษต้องไม่ใช่เยาวชน หรือถ้าเป็นเยาวชนที่ป่วย จำเป็นต้องได้รับคำยินยอมจากผู้ปกครอง ขณะเดียวกันการใช้กัญชาเพื่อรักษาโรคในกฎหมายเขียนชัดว่า ต้องไม่ใช่ในเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เพราะจะมีปัญหาทางสมอง
นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้กัญชาเพื่อการรักษาที่มาแจ้งครอบครองกัญชาไว้แล้ว จากวันนี้ยังสามารถมีกัญชาเดิมที่ใช้รักษาอยู่เพื่อการรักษาได้ โดยไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย จนกว่าจะมีกัญชาในระบบ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมนี้ จากนั้นกัญชาที่จะมีครอบครองได้ต้องสั่งจากตามระบบที่ถูกต้อง โดยบุคลากรทางการแพทย์ที่ผ่านการอบรมจากหลักสูตรของกรมการแพทย์ หรือจากหลักสูตรของกรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือกเท่านั้น
ทั้งนี้ จากข้อมูลการแจ้งครอบครองนั้น เบื้องต้นได้ตรวจสอบอย่างไม่เป็นทางการ มีข้อมูลที่น่าสนใจคือ พบว่าในจำนวนผู้มาขอยื่นเรื่องจำนวนมาก มีผู้ป่วยอยู่ในเกณฑ์ที่กัญชาจะมีประโยชน์ช่วยเสริมการรักษาจาก 4 กลุ่มโรค ได้แก่ ลมชักในเด็ก, ผู้ป่วยมะเร็งที่มีอาการคลื่นไส้, อาเจียนจากการได้รับยาเคมีบำบัด และปวดเรื้อรัง, ปลอกปลายประสาทอักเสบ มีแค่ประมาณ 100 คนเท่านั้น
ขณะเดียวกัน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เผยว่า จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อความทางสื่อออนไลน์ว่า ทาง อย. ได้แจ้งการขยายเวลาที่ผู้แจ้งนิรโทษไว้สามารถครอบครองกัญชาได้อีก 6 เดือนนั้น ข้อความดังกล่าวอาจสื่อให้เกิดความเข้าใจผิดเรื่องระยะเวลาการครอบครอง เพราะตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2562 ผู้มีความประสงค์แจ้งนิรโทษครอบครองกัญชาจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน คือระหว่างวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ถึง 19 พฤษภาคม 2562
แต่เนื่องจากวันที่ 19-20 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นวันหยุดราชการ จึงกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการแจ้งครอบครองกัญชาในวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ซึ่งผู้ป่วยที่แจ้งครอบครองกัญชาสามารถใช้ยากัญชาต่อเนื่องได้ จนกว่าจะมีกัญชาใช้ในระบบการรักษา โดยปริมาณของกัญชาที่มีไว้ในครอบครองในการรักษาโรคเฉพาะตัว ต้องเหมาะสมกับลักษณะของโรค และปริมาณที่จำเป็นต้องใช้ ซึ่งทาง อย. รับแจ้งให้ผู้ป่วยครอบครองต่อได้อีก 6 เดือน นับจากวันที่กฎหมายประกาศใช้ หรือประมาณ 3 เดือน หลังวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ไม่ใช่ 6 เดือน ดังที่มีการส่งต่อข้อความทางสื่อออนไลน์แต่อย่างใด
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: