องค์การพลังงานระหว่างประเทศ หรือ IEA ระบุว่าความต้องการน้ำมันทั่วโลกเริ่มลดลงและถึงจุดอิ่มตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าหรือภายในทศวรรษนี้ เหตุเศรษฐกิจเอเชียเติบโตอย่างรวดเร็วและทุกประเทศปรับใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV แม้กระทั่งจีนซึ่งมีโรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันมายาวนาน เริ่มชะลอตัวลงและหันไปพึ่งพาพลังงานสะอาดรวมถึงอินเดีย
รายงานข่าวจาก The Wall Street Journal เปิดเผยข้อมูลจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ว่าการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกมีแนวโน้มจะชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดภายใน 5 ปี หรือภายในปี 2571 และอาจทุบสถิติในสิ้นทศวรรษ เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูง และความกังวลเรื่องความมั่นคงของอุปทานน้ำมัน บวกกับทั่วโลกปรับใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวเร่งให้พึ่งพาเทคโนโลยีพลังงานสะอาดมากขึ้น และใช้น้ำมันน้อยลงในที่สุด
ปัจจัยหลักมาจากเศรษฐกิจเอเชียที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีความต้องการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นต่อเนื่อง หรือแม้กระทั่งในจีนซึ่งมีโรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันมายาวนาน ยังพบว่าความต้องการน้ำมันดิบเริ่มชะลอตัวลง และหันไปพึ่งพาพลังงานสะอาดอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงอินเดีย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สำรวจตลาดรถยนต์ EV จากค่าย ‘จีน-ญี่ปุ่น’ มีกี่แบรนด์แล้วที่เข้ามาลงทุนผลิตในไทย
- อะไรก็เกิดขึ้นได้ในสงคราม EV จีน หลัง ‘NIO’ ยอมหั่นราคา และพ่ายแพ้ให้กับเทคโนโลยี Battery Swap
- ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน! Toyota ซุ่มพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ ‘แบตเตอรี่โซลิดสเตท’ ชาร์จเต็มใน 10 นาที วิ่งได้ 1,200 กิโลเมตร คาดขายจริงปี 2027
Fatih Birol ผู้อำนวยการบริหารของ IEA กล่าวว่า “การเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจพลังงานสะอาดกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกสูงสุดก่อนสิ้นทศวรรษนี้”
ทั้งนี้ การคาดการณ์ขึ้นอยู่กับแนวโน้มพลังงานที่แตกต่างกันอย่างมากระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้วในอเมริกาเหนือและยุโรป และประเทศกำลังพัฒนาที่เติบโตอย่างรวดเร็วซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเอเชีย ทำให้เห็นว่าความต้องการใช้น้ำมัน บวกกับนโยบายรัฐบาลต่างมุ่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลจึงมีผลกับน้ำมัน
โดยความต้องการในภูมิภาคเอเชียคาดว่าจะลดลงเหลือ 44.3 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2571 จากระดับสูงสุด 46.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2566 ขณะที่ความต้องการในประเทศนอกกลุ่ม OECD จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 7% ระหว่างปัจจุบันถึงปี 2571 เป็น 61.4 ล้านบาร์เรล ทำให้เห็นว่าแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันจึงดูแตกต่างอย่างมากในระยะเวลาอันใกล้ เนื่องจากเศรษฐกิจของเอเชียเข้ามามีบทบาทโดยเฉพาะจีน
นโยบายการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อาจกระทบธุรกิจน้ำมันของไทย
แม้ว่าในประเทศไทยจะมุ่งสู่การใช้พลังงานสะอาดและกระแสยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยจะเห็นได้จากยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าสูงขึ้น แต่ยอดใช้น้ำมันในประเทศก็ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ต้นปีคนไทยใช้น้ำมันพุ่งสูงขึ้น และคาดว่าในครึ่งปีหลังการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานมีแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan) ซึ่งอยู่ภายใต้แผนพลังงานชาติ 2023 (National Energy Plan 2023) ที่ต้องบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิงให้ประเทศมีความมั่นคง แต่ต้องมีกำหนดการสำรองใหม่ภายใต้แผน Energy Transformation
ดังนั้นนโยบายนี้จะมีผลกระทบจากนโยบายยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ต่อไปอย่างไร ขณะนี้อยู่ระหว่างการประชาพิจารณ์รอบสุดท้ายก่อนที่จะนำเสนอรัฐบาลชุดใหม่พิจารณา
อ้างอิง:
