รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกาออกคำเตือนเฝ้าระวังพายุรุนแรงระดับ 4 ที่คาดว่าจะเคลื่อนตัวทั่วภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์นี้ (20 สิงหาคม) และต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการออกคำเตือนการเฝ้าระวังพายุโซนร้อนในแคลิฟอร์เนีย
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติ (NHC) ของสหรัฐฯ รายงานว่า พายุฮิลารีทวีกำลังแรงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงวันพฤหัสบดีถึงวันศุกร์ โดยทวีกำลังแรงขึ้นจากพายุโซนร้อนเป็นเฮอริเคนระดับ 4 ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง และคาดว่าจะยังคงความรุนแรงระดับนี้ขณะที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้คาบสมุทรบาฮากาลิฟอร์เนียในวันนี้ (19 สิงหาคม)
รายงานระบุว่า ฮิลารีเคลื่อนตัวอยู่ที่ประมาณ 325 ไมล์ทางตอนใต้ของคาโบซานลูคัส ประเทศเม็กซิโก ในช่วงบ่ายวันศุกร์ ด้วยความเร็วลมต่อเนื่อง 130 ไมล์ต่อชั่วโมง และลมกระโชกแรงขึ้น
คาดว่าฮิลารีจะทำให้เกิดฝนตกและน้ำท่วมหนักในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ และบางส่วนของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยฮิลารีอาจส่งผลให้ฝนตกรุนแรงที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปีในพื้นที่ของสามรัฐ ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย เนวาดา และแอริโซนา ซึ่งสำหรับแคลิฟอร์เนียนับว่าน้อยครั้งที่จะเผชิญความเสี่ยงสูงจากการรับปริมาณน้ำฝนมากเกินไป และนับเป็นครั้งแรกที่มีการออกคำเตือนความรุนแรงระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดจาก 4 ระดับในพื้นที่แคลิฟอร์เนียตอนใต้
NHC ระบุว่า ด้วยเหตุที่เฮอริเคนเคลื่อนตัวเร็วกว่าที่คาดไว้ จึงมีความเป็นไปได้ที่เม็กซิโกและแคลิฟอร์เนียจะได้รับผลกระทบเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดย NHC คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางของพายุจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ตอนกลางของคาบสมุทรบาฮากาลิฟอร์เนียในคืนวันเสาร์ และจะเคลื่อนตัวเข้าฝั่งทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนียในคืนวันอาทิตย์
ฮิลารีมีแนวโน้มขึ้นฝั่งที่เม็กซิโกและข้ามไปยังแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถ้าหากฮิลารีขึ้นฝั่งในแคลิฟอร์เนียก็จะนับเป็นพายุโซนร้อนลูกแรกที่ขึ้นฝั่งในแคลิฟอร์เนียในรอบเกือบ 84 ปี ตามข้อมูลจากองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ
อย่างไรก็ดี คาดว่าฮิลารีจะอ่อนกำลังลงอย่างมากก่อนถึงแคลิฟอร์เนียตอนใต้และบางส่วนของภาคตะวันตกเฉียงใต้ แต่ไม่ว่าจะมีกำลังแรงเท่าใด พายุจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดน้ำท่วมรุนแรง โดยคาดว่าภาคตะวันตกเฉียงใต้จะเริ่มเผชิญกับฝนตกหนักในวันอาทิตย์นี้ไปจนถึงต้นสัปดาห์หน้า
ทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนียและเนวาดาอาจได้รับปริมาณน้ำฝนสูงสุดถึง 3-5 นิ้ว และคาดว่าจะมีฝนตก 1-3 นิ้วทั่วพื้นที่ทางตะวันตกของแอริโซนาและทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูทาห์
แดเนียล สเวน นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในลอสแอนเจลิส กล่าวเมื่อวันพุธว่า ฮิลารีอาจทำให้เกิดปริมาณน้ำฝนสะสมในพื้นที่ที่แห้งแล้งที่สุดของแคลิฟอร์เนีย รวมถึงหุบเขามรณะหรือเดธแวลลีย์ (Death Valley) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ร้อนที่สุดในโลก ข้อมูลจากสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติ (NWS) ระบุว่า โดยทั่วไปแล้ว เดธแวลลีย์ได้รับปริมาณน้ำฝนประมาณ 2 นิ้วตลอดทั้งปี แต่ความชื้นจากฮิลารีอาจทำให้เกิดฝนตกหนักมากพอที่จะทำให้เดธแวลลีย์มีปริมาณน้ำฝน 1-2 นิ้วในวันเดียว
ภาพ: Allen J. Schaben / Los Angeles Times via Getty Images
อ้างอิง:
