×

ครม. อัปเดต 7 เกณฑ์ใหม่ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ อุดหนุนค่าเครื่องบินเพิ่มอีก 1 พันบาท ใน 7 จังหวัด

โดย THE STANDARD TEAM
08.12.2020
  • LOADING...
ครม. อัปเดต 7 เกณฑ์ใหม่ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ อุดหนุนค่าเครื่องบินเพิ่มอีก 1 พันบาท ใน 7 จังหวัด

ครม. มีมติปรับปรุงโครงการเราเที่ยวด้วยกัน รวม 7 เกณฑ์ พร้อมคลายล็อกนักท่องเที่ยว STV ทุกสัญชาติ หวังกระตุ้นท่องเที่ยว

 

อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (8 ธันวาคม) ​ว่า ครม. เห็นชอบการปรับปรุง ‘โครงการเราเที่ยวด้วยกัน’ 7 เกณฑ์ ทั้งเพิ่มจำนวนการจองห้องพักจาก 10 คืนเป็น 15 คืน สนับสนุนค่าเครื่องบินจาก 2,000 บาท เป็น 3,000 บาท ใน 7 จังหวัดท่องเที่ยว ดังนี้ 

 

  1. ปรับปรุงขอบเขตการใช้สิทธิ์จำนวนการจองห้องพัก จากเดิมประชาชนจองที่พักได้ไม่เกิน 10 คืน (Room Night) ต่อ 1 สิทธิ์ สามารถจองที่พักเพิ่มอีก 5 คืน (Room Night) เป็น 15 คืน (Room Night) ต่อ 1 สิทธิ์

 

  1. เพิ่มจำนวนห้องพักอีก 1 ล้านคืน (Room Night) จากเดิม 5 ล้านคืน (Room Night) เป็น 6 ล้านคืน (Room Night) 

 

  1. ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการ ประกอบด้วย 1. การใช้สิทธิ์โครงการ จากสิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2564 เป็นวันที่ 30 เมษายน 2564 2. การจองโรงแรมที่พัก จากช่วงเวลา 06.00-21.00 น. เป็นช่วงเวลา 06.00-00.00 น.

 

  1. เพิ่มโรงแรมที่พักที่ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบการโรงแรม แต่ต้องมีหมายเลขประจำตัวของผู้เสียภาษี (Tax ID) และมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

 

  1. อนุมัติให้ธุรกิจและบริการที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานการท่องเที่ยวสามารถรับ E-Voucher ได้ ประกอบด้วย ธุรกิจการขนส่ง ธุรกิจสปาหรือนวดเพื่อสุขภาพ รถเช่าเพื่อการท่องเที่ยว และเรือเช่าเพื่อการท่องเที่ยว โดยมีเงื่อนไขว่าต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ไม่เป็นหน่วยงานภาครัฐ มีการเก็บค่าใช้บริการ และต้องได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการอย่างถูกต้องจากหน่วยงานภาครัฐ

 

  1. ปรับเกณฑ์การสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน จาก 2,000 บาทต่อที่นั่ง เป็น 3,000 บาทต่อที่นั่ง เฉพาะเมืองหลักทางการท่องเที่ยว 7 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สงขลา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ และเชียงราย ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยมีอัตราการร่วมจ่าย (Co-pay) เท่าเดิม

 

  1. กำหนดหลักเกณฑ์การลาสำหรับข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง พนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่ลงทะเบียนและใช้สิทธิ์โครงการฯ โดยกำหนดให้แสดงหลักฐานประกอบการลา ได้แก่ 1. หลักฐานแสดงการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ และ 2. หลักฐานแสดงการเช็กอินและเช็กเอาต์โรงแรงที่พักตามโครงการฯ

 

นอกจากนี้ ครม. ยังอนุมัติงบประมาณจัดกิจกรรมกระตุ้นการเดินทางในรูปแบบ Consumer Fair จำนวน 3 ครั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ภาคเหนือ และภาคใต้ พร้อมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการเข้าร่วมโครงการฯ ควบคู่กับมาตรการสาธารณสุขต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยว งบประมาณ 9 ล้านบาท ภายใต้กรอบวงเงินโครงการฯ

 

พร้อมทั้งเห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียด ‘โครงการกำลังใจ’ ดังนี้ เปิดให้บริษัทนำเที่ยวที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ โดยใช้หลักเกณฑ์เดิมของโครงการฯ (เป็นบริษัทนำเที่ยวที่จดทะเบียนถูกต้องตาม พ.ร.บ. ธุรกิจนำเที่ยว โดยจดทะเบียนก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563) รวมบริษัทนำเที่ยวที่กรอกรายการนำเที่ยวไม่ครบ 15 รายการ สามารถกรอกเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้หากกรอกครบ 15 รายการแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมได้อีก

 

นอกจากนี้ที่ประชุม ครม. ยังมีมติผ่อนปรนให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาพำนักในไทย ผ่านมาตรการนักท่องเที่ยวพิเศษ Special Tourist Visa (STV) ที่ต้องการมาพำนักระยะยาว (Long Stay) นักท่องเที่ยวและลูกเรือที่เดินทางเข้าไทยโดยเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) โดยมีเงื่อนไขคือ ต้องเป็นนักท่องเที่ยวมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ตามการจัดกลุ่มประเทศด้านการแพทย์และสาธารณสุขสำหรับการผ่อนคลายผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวส่งผลให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินเข้าประเทศไทยน้อยกว่าเป้าหมายที่กำหนดคือ มีเพียง 825 คน จาก 29 สัญชาติ และมีเรือสำราญ (เรือยอร์ช) เข้าไทย จำนวน 6 ลำเท่านั้น

 

รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศเพิ่มขึ้น ครม. จึงมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ (ฉบับที่…) รวม 2 ฉบับ ซึ่งทั้ง 2 ฉบับเป็นการยกเลิกเงื่อนไขกรณีการเดินทางมาพำนักระยะยาวสำหรับบุคคลต่างด้าวที่เป็นนักท่องเที่ยวประเภท STV และการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวโดยเรือยอร์ช โดยไม่จำกัดประเทศ

 

ทั้งนี้จากเดิมที่ให้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ตามการจัดกลุ่มประเทศด้านการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงขยายระยะเวลาขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว STV ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองให้แก่คนต่างด้าวที่มากับเรือยอร์ชออกไปอีก 30 วัน นับจากวันที่ประกาศฉบับนี้บังคับใช้

 

“แม้จะมีการผ่อนปรนในเรื่องดังกล่าว นักท่องเที่ยวทั้งสองกลุ่มยังคงต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการขอวีซ่า (STV) ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด อาทิ การแจ้งที่พำนักในประเทศไทยให้ชัดเจน และต้องยินยอมที่จะกักตัวเป็นเวลา 14 วัน”

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising