แพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (28 กันยายน) มีมติเห็นชอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ปีงบประมาณ 2565 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ประกอบด้วย 1. แผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงิน 1.34 ล้านล้านบาท 2. แผนการบริหารหนี้เดิม วงเงิน 1.5 ล้านล้านบาท และ 3. แผนการชำระหนี้ วงเงิน 3.39 แสนล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. แผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงินรวม 1,344,783 ล้านบาท
1.1 แผนการก่อหนี้ใหม่ของรัฐบาล วงเงิน 1,203,425 ล้านบาท ประกอบด้วย
(1) รัฐบาลกู้มาใช้โดยตรง วงเงินรวม 736,246 ล้านบาท ประกอบด้วย
1) เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 2565 วงเงิน 700,000 ล้านบาท
2) เงินกู้เพื่อดำเนินโครงการเงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (ตามมาตรา 22 และ 23 ของ พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะฯ) เป็นโครงการที่มีความสัมพันธ์กัน และตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ของประเทศ ให้ครอบคลุมการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาคุณภาพชีวิต และส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ วงเงินรวม 36,246 ล้านบาท
(2) รัฐบาลกู้มาเพื่อดำเนินแผนงานหรือโครงการภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงินโควิด-19 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 วงเงิน 500,000 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังได้บรรจุวงเงินดังกล่าวในแผนฯ ประจำปีงบประมาณ 2564 จำนวน 150,000 ล้านบาท และมีผลการกู้เงิน จำนวน 144,166 ล้านบาท คงเหลือวงเงิน 5,833 ล้านบาท จึงนำวงเงินคงเหลือมาบรรจุในปีงบประมาณ 2565 รวมเป็นวงเงิน 355,833 ล้านบาท
(3) รัฐบาลกู้มาให้กู้ต่อ วงเงินรวม 66,344 ล้านบาท ประกอบด้วย
3.1) การกู้เงินเพื่อให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กู้ต่อ (โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์)) วงเงินรวม 10,870 ล้านบาท
3.2) การกู้เงินเพื่อให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กู้ต่อ (โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐ ประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพฯ – หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา) และโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 6 เส้นทาง) วงเงินรวม 55,474 ล้านบาท
(4) รัฐบาลกู้มาเพื่อบริหารสภาพคล่องของเงินคงคลัง วงเงิน 45,000 ล้านบาท
1.2 แผนการก่อหนี้ใหม่ของรัฐวิสาหกิจ มีรัฐวิสาหกิจ 16 แห่ง วงเงินรวม 141,008 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
(1) แผนเงินกู้เพื่อลงทุนในโครงการพัฒนา มีรัฐวิสาหกิจ 10 แห่ง วงเงินรวม 61,006 ล้านบาท โดยมีโครงการที่สำคัญ เช่น โครงการจัดหารถจักรพร้อมอะไหล่ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง โครงก่อสร้างปรับปรุงขยาย กปภ. โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้า โครงการขยายเขตไฟฟ้า แผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน เป็นต้น
(2) แผนเงินกู้เพื่อดำเนินโครงการ หรือเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการทั่วไป มีรัฐวิสาหกิจ 14 แห่ง วงเงินรวม 80,001 ล้านบาท
1.3 แผนการก่อหนี้ใหม่ของหน่วยงานอื่นของรัฐ (สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.)) วงเงิน 350 ล้านบาท
2. แผนการบริหารหนี้เดิม เป็นการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เดิม และบริหารความเสี่ยงหนี้เดิมของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ เพื่อประโยชน์ในการบริหารหนี้และความเสี่ยง ภายใต้การทบทวนกลยุทธ์การบริหารหนี้สาธารณะระยะปานกลาง (Medium-term Debt Management Strategy: MTDS) วงเงินรวม 1,505,369 ล้านบาท ประกอบด้วย
2.1 แผนการบริหารหนี้เดิมของรัฐบาล วงเงิน 1,370,586 ล้านบาท
2.2 แผนการบริหารหนี้เดิมของรัฐวิสาหกิจ วงเงิน 134,783 ล้านบาท
3. แผนการชำระหนี้ เป็นแผนการชำระหนี้ของรัฐบาลและหนี้หน่วยงานของรัฐจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และแผนการชำระหนี้จากแหล่งเงินอื่นๆ วงเงินรวม 339,291 ล้านบาท ประกอบด้วย
3.1 แผนการชำระหนี้ของรัฐบาลและหนี้หน่วยงานของรัฐจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 วงเงิน 297,631 ล้านบาท
3.2 แผนการชำระหนี้หน่วยงานของรัฐจากแหล่งเงินอื่นๆ วงเงิน 41,660 ล้านบาท
ทั้งนี้ ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะดังกล่าว กระทรวงการคลังคาดว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 จะอยู่ที่ 62.69% โดยกระทรวงการคลังประเมินว่าการลงทุนในแผนงาน โครงการต่างๆ ตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ จะช่วยเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายหลังจากสถานการณ์โควิดมีแนวโน้มคลี่คลาย