×

Bye Bye Bye ของ *NSYNC กับการกลับมาฮิตอีกครั้งเพราะภาพยนตร์ Deadpool & Wolverine

01.08.2024
  • LOADING...

เชื่อว่าใครได้ดูภาพยนตร์เรื่อง Deadpool & Wolverine ที่เพิ่งออกฉายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพลงในฉากหนึ่งที่คุณคงไม่สามารถสลัดออกไปจากความคิดได้จะต้องเป็นฉากเปิดเรื่องที่ตัวละคร Deadpool เต้นเพลงสุดไอคอนิกแห่งยุค 2000 อย่างเพลง Bye Bye Bye ของวง *NSYNC อย่างแน่นอน เพราะฉากนี้มีทั้งท่าเต้นสุดเท่ ทำนองและจังหวะเพลงก็ชวนโยก และเข้ากับบุคลิกสุดกวนของ Deadpool เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เพลงนี้กลับมาฮิตอีกครั้ง และกลับเข้า Top 15 ของ Spotify Global Charts ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

Bye Bye Bye เป็นซิงเกิลฮิตตลอดกาลของวงบอยแบนด์สัญชาติอเมริกัน *NSYNC ที่ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 17 มกราคม ปี 2000 จากอัลบั้มที่ 3 ของวงที่ชื่อว่า No Strings Attached ซึ่งเนื้อเพลงพูดถึงการจบความสัมพันธ์ของคู่รักที่จบกันไม่สวย โดยมีท่อนร้องติดหูซึ่งร้องว่า “Baby, Bye Bye Bye” พร้อมด้วยท่าเต้นเฉพาะตัว เพลงนี้จึงประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากนับตั้งแต่ปล่อยออกมา โดยซิงเกิลเคยขึ้นอันดับ 4 บนชาร์ต US Billboard Hot 100 และเป็น Top 10 ในเกือบทุกประเทศที่มีการอัปเดตชาร์ตเพลง ทั้งยังเคยเข้าชิง Grammys สาขา Record of the Year แต่พ่ายแพ้ให้กับซิงเกิล Beautiful Day ของวง U2 

 

อย่างไรก็ตาม ความนิยมของเพลง Bye Bye Bye ของ *NSYNC กลับมาฮิตอีกครั้ง หลังจากกลายเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Deadpool & Wolverine เพราะเพลงนี้ทะยานขึ้นสู่ชาร์ตอันดับที่ 16 ของ Spotify Global Charts ด้วยยอดสตรีมที่เพิ่มขึ้นกว่า 3.34 ล้านสตรีม ส่วนแผ่นเสียงของเพลงนี้ในแอปพลิเคชัน TikTok ก็มีโพสต์ที่ใช้แผ่นเสียงมากกว่า 86,000 ครั้ง ทั้งยังมีแนวโน้มจะไวรัลมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะในขณะนี้มีคนนำเพลงนี้มาทำเป็นมีมและทำชาเลนจ์เต้นตามฮีโร่ Deadpool ด้วยเช่นกัน

 

มากไปกว่านั้น ขณะนี้ช่อง YouTube ของวง *NSYNC ก็เปลี่ยนชื่อไตเติลวิดีโอบน YouTube ให้เป็นคำว่า *NSYNC – Bye Bye Bye (Official Video from Deadpool and Wolverine) ดังนั้นดูเหมือนว่าภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่คู่หู Deadpool & Wolverine จะสร้างผลกระทบให้กับเพลงนี้อย่างมหาศาลหลังจากที่เพลงปล่อยออกมาแล้วกว่า 24 ปีนั่นเอง

 

 

สิ่งที่น่าคิดก็คือ เมื่อเพลงนี้กลับมาฮิตอีกครั้งก็คงไม่ใช่แค่เรื่องความสนุกและท่าเต้นสุดกวนของ Deadpool เท่านั้น แต่คงเป็นเพราะว่าแฟนภาพยนตร์ส่วนหนึ่งที่ติดตามจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ของ Marvel มาตั้งแต่ต้นอาจเป็นกลุ่มคนที่เติบโตมาในช่วงยุค 2000 ดังนั้นการที่พวกเขาได้ยินเพลงนี้หรือเพลงอื่นๆ จากยุคนั้น ไปจนถึงการปรากฏตัวสุดเซอร์ไพรส์ของซูเปอร์ฮีโร่ตัวอื่นๆ ที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ในจักรวาลของ Marvel ก็คงทำให้ใครหลายคนรู้สึกดีใจและอดตื่นเต้นไม่ได้กับการกลับมาของพวกเขา

 

อย่างไรก็ตาม แม้ฉากนี้จะฮิตและไวรัลเป็นอย่างมาก แต่เบื้องหลังของฉากนี้ Ryan Reynolds ไม่ได้เป็นคนเต้นเอง เพราะคนเต้นในชุดของ Deadpool คือนักเต้นอย่าง Nick Pauley ซึ่งนักแสดง Ryan Reynolds ก็เอ่ยปากชมว่า เขาขอสนับสนุนและยกความดีความชอบให้กับทักษะและพรสวรรค์ของนักเต้นคนนี้ ในขณะที่นักเต้น Nick Pauley ก็เพิ่งออกมาโพสต์คลิปเต้นเพลง Bye Bye Bye บน Instagram ส่วนตัว พร้อมแคปชันว่า “ขอบคุณ Ryan Reynolds ที่เชื่อใจให้ผมได้เต้นเป็น Dancepool มันเป็นเกียรติแห่งชีวิตของผมเลย!” 

 

ซึ่งนอกจากเพลง Bye Bye Bye แล้ว ต้องบอกว่าภาพยนตร์เรื่อง Deadpool & Wolverine มีการเลือกใช้เพลงประกอบภาพยนตร์ที่เรียกได้ว่า ‘ทำถึง’ มาโดยตลอด เพราะภาคแรกพวกเขาก็ทำให้เพลง Careless Whisper ของ George Michael กลับมาเป็นที่พูดถึง ส่วนภาค 2 ก็ยังมีศิลปินระดับตำนานอย่าง Celine Dion มาร้องเพลง Ashes เป็นซาวด์แทร็กประกอบภาพยนตร์ และในเทรลเลอร์ภาค 3 ก็ยังมีเพลงสุดไอคอนิกอย่าง Like A Prayer ของ Madonna ที่ตอนนี้ก็เป็นไวรัลบน TikTok แบบตามกันไปติดๆ เช่นกัน

 

หลังจากนี้ก็ต้องรอชมกันต่อไปว่า ความฮิตของเพลง Bye Bye Bye จะพุ่งสูงไปถึงระดับไหน เพราะตอนนี้ภาพยนตร์เรื่อง Deadpool & Wolverine เพิ่งออกฉายไปเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น และไม่แน่ว่าเพลงอื่นๆ ที่ประกอบภาพยนตร์ภาค 3 ก็อาจจะฮิตตามติดเพลงนี้ไปก็เป็นได้

 

หมายเหตุ: ตัวเลขอัปเดต ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2567

 

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง:

 
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising