วานนี้ (8 มกราคม) เกิดเหตุรถบัส 2 คันชนกันใกล้กับเขตคาฟฟริเน (Kaffrine) ของเซเนกัล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 ราย และบาดเจ็บ 87 ราย
อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นที่ทางหลวงหมายเลข 1 ณ เวลา 03.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวานนี้ โดยรถบัสขนาด 60 ที่นั่งคันหนึ่งซึ่งกำลังมุ่งหน้าสู่เมืองโรสโซ (Rosso) ใกล้ชายแดนมอริเตเนียเกิดยางแตก ส่งผลให้รถไถลพุ่งเข้าไปชนกับรถบัสอีกคันที่วิ่งสวนทางกัน ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เร่งนำตัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์ในพื้นที่ทันที
ประธานาธิบดีแม็กกี ซอล (Macky Sall) ของเซเนกัล ได้ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน เริ่มตั้งแต่วันนี้ (9 มกราคม) เป็นต้นไป โดยเขาทวีตข้อความว่า “ผมเสียใจอย่างสุดซึ้งกับอุบัติเหตุทางถนนที่น่าสลดใจ ผมขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเหยื่อจากอุบัติเหตุครั้งนี้ และขอให้ผู้บาดเจ็บฟื้นตัวโดยเร็ว”
สำนักข่าว Al Jazeera รายงานว่า อุบัติเหตุในครั้งนี้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขณะที่เซเนกัลเป็นประเทศที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนบ่อยมากจากหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งปัญหาผู้ขับขี่ขาดวินัยทางการจราจร ถนนไม่ดี และยานพาหนะที่เสื่อมสภาพ โดยในเดือนตุลาคม 2020 เคยเกิดเหตุรถบัสชนกับรถบรรทุกห้องเย็นทางตะวันตกของเซเนกัล จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน และบาดเจ็บอีก 15 คน
ภาพ: Abdoulaye Ba/Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง:
