วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนระดับโลก และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Berkshire Hathaway ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ The Kraft Heinz Company แสดงความเห็นต่อสาธารณะอย่างตรงไปตรงมาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (2 กันยายน) โดยระบุว่า เขารู้สึกผิดหวังกับแผนการแยกบริษัทออกเป็นสองส่วน ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่สวนทางกับดีลควบรวมกิจการครั้งประวัติศาสตร์ที่เขาเป็นผู้ร่วมผลักดันเมื่อทศวรรษที่แล้ว
ราคาหุ้นของ Kraft Heinz ดิ่งลงทันทีกว่า 7% ในการซื้อขาย สะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นของตลาดต่อทิศทางใหม่ของบริษัท
บัฟเฟตต์ชี้ ‘แยกบริษัท’ ไม่ใช่ทางออก
บัฟเฟตต์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ว่า แม้การควบรวมกิจการในปี 2015 “ไม่ได้กลายเป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยม” อย่างที่คาดหวังไว้ แต่เขาก็ไม่คิดว่าการแยกบริษัทออกจากกันในตอนนี้จะช่วยแก้ปัญหาที่บริษัทกำลังเผชิญอยู่ได้
นอกจากนี้ เขายังเปิดเผยด้วยว่า เกร็ก เอเบล (Greg Abel) ว่าที่ CEO คนใหม่ของ Berkshire Hathaway ก็ได้แสดงความผิดหวังต่อผู้บริหารของ Kraft Heinz เช่นเดียวกัน
การออกมาแสดงความเห็นเชิงลบอย่างเปิดเผยต่อบริษัทที่ตนเองลงทุนถือเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักสำหรับบัฟเฟตต์ และสะท้อนถึงความกังวลอย่างยิ่งยวดต่อกลยุทธ์ล่าสุดของ Kraft Heinz
ทั้งนี้ Berkshire Hathaway ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในสัดส่วน 27.5% และไม่เคยขายหุ้นออกมาเลยนับตั้งแต่การควบรวมกิจการ อย่างไรก็ตาม บัฟเฟตต์เคยยอมรับกับ CNBC ในปี 2562 หลังจากที่บริษัทรายงานผลประกอบการที่ย่ำแย่ว่า Berkshire ได้ “จ่ายแพงเกินไป” (Overpaid) สำหรับดีลในครั้งนั้น
สำหรับทิศทางในอนาคต บัฟเฟตต์กล่าวเมื่อวันอังคารว่า Berkshire จะทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท และหากมีผู้เสนอขอซื้อหุ้นของ Berkshire บริษัทจะไม่ยอมรับข้อเสนอซื้อหุ้นล็อตใหญ่ (Block Bid) เว้นแต่ผู้ถือหุ้นรายย่อยอื่นๆ จะได้รับข้อเสนอเดียวกัน ซึ่งเป็นการตอกย้ำหลักการปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกรายของเขา
ย้อนรอยดีลหมื่นล้านสู่การแยกทาง
แผนการแยกบริษัทที่ประกาศออกมาเมื่อวันอังคาร จะเป็นการแบ่ง Kraft Heinz กลับออกเป็น 2 บริษัทอีกครั้ง ได้แก่
- บริษัทที่มุ่งเน้นธุรกิจซอส, สเปรด และอาหารสำเร็จรูปที่เก็บได้นาน (Shelf-stable meals)
- บริษัทที่ดูแลผลิตภัณฑ์หลักในอเมริกาเหนือ เช่น ไส้กรอก Oscar Mayer, ชีส Kraft Singles และชุดอาหารกลางวัน Lunchables
การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นการสิ้นสุดบทหนึ่งของดีลประวัติศาสตร์ในปี 2015 ที่ Berkshire Hathaway ได้ร่วมมือกับบริษัท 3G Capital ในการควบรวม Kraft Foods เข้ากับ H.J. Heinz อย่างไรก็ตาม 3G Capital ได้ทยอยลดสัดส่วนการถือหุ้นลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและได้ ถอนการลงทุนทั้งหมดออกจาก Kraft Heinz ไปอย่างเงียบๆ แล้วในปี 2023 หลังจากที่บริษัทต้องดิ้นรนกับผลการดำเนินงานที่น่าผิดหวัง
แม้จะครอบครองแบรนด์ที่เป็นสัญลักษณ์ของอเมริกาจำนวนมาก แต่ยอดขายของ Kraft Heinz กลับลดลงเพียงไม่กี่ปีหลังการควบรวมกิจการ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปใส่ใจสุขภาพมากขึ้นและลดการบริโภคอาหารแปรรูป นอกจากนี้ นักวิเคราะห์หลายรายยังวิพากษ์วิจารณ์แนวทางการลดต้นทุนอย่างหนักหน่วงของ 3G Capital ซึ่งทำให้ Kraft Heinz ขาดการลงทุนในแบรนด์ของตนเองในช่วงเวลาที่จำเป็นที่สุด
ที่ผ่านมา Kraft Heinz พยายามพลิกฟื้นธุรกิจด้วยการขายบางส่วนของพอร์ตโฟลิโอออกไป เช่น ธุรกิจถั่ว Planters และบางส่วนของธุรกิจชีส ควบคู่ไปกับการลงทุนในแบรนด์อย่าง Lunchables และ Capri Sun
อ้างอิง:
