×

อิทธิพลของแฟนด้อมวง BTS ที่แม้แต่นักการเมืองแห่งสหรัฐฯ ไม่อาจมองข้ามได้

16.11.2020
  • LOADING...
อิทธิพลของแฟนด้อมวง BTS ที่แม้แต่นักการเมืองแห่งสหรัฐฯ ไม่อาจมองข้ามได้

เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อไรที่แฟนคลับของวงเคป๊อปที่มีอยู่แทบจะทั่วทุกมุมโลกรวมพลังกันนั้นมักจะเกิดปรากฏการณ์ที่ทำให้ผู้คนตกตะลึง ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมมิงเพลงของศิลปินเกาหลีวงโปรดในแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อทำลายสถิติซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเฉพาะยอดวิวใน YouTube ที่ศิลปินเคป๊อปชื่อดังอย่าง BTS หรือบังทันโซนยอนดัน (방탄소년단) ทำยอดผู้เข้าชมในระยะเวลาอันรวดเร็วและเยอะที่สุด ทุบสถิติของศิลปินดังอย่าง เทย์เลอร์ สวิฟต์ และอีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จส่วนหนึ่งก็ต้องยกให้เหล่า ‘ARMY’ แฟนคลับของวง BTS

 

BTS และ ARMY มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและยาวนาน ผ่านการปูทางของ Big Hit Entertainment ที่ใช้แพลตฟอร์ม Twitter เป็นตัวเชื่อมระหว่างศิลปินและแฟนคลับ ตั้งแต่เริ่มต้นเปิดตัววง BTS เมื่อปี 2012 ภายใต้ชื่อแอ็กเคานต์ @BTS_twt ซึ่งเป็นแอ็กเคานต์ที่สมาชิกวงทั้ง 7 คนใช้ร่วมกัน โดยพวกเขาจะผลัดกันมาโพสต์อัปเดตรูปและเรื่องราวต่างๆ ให้แฟนคลับรู้สึกใกล้ชิด

 

มาวันนี้ เพราะได้เห็นวง BTS ค่อยๆ เติบโต ก่อนจะประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม จนมียอดฟอลโลเวอร์ใน Twitter มากกว่า 30 ล้านคน และเป็นวงที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อ ARMY หันเหความสนใจมาสู่เรื่องการเมือง พวกเขาก็สามารถสร้างอิมแพ็กที่ยิ่งใหญ่อีกเช่นกัน

 

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เกิดเหตุน่าเศร้าที่จุดชนวนให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ขึ้นในสหรัฐอเมริกา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามทำการจับกุมชายผิวสี แต่ทำเกินกว่าเหตุจนทำให้ จอร์จ ฟลอยด์ เสียชีวิตลงด้วยสาเหตุจากการขาดอากาศหายใจ แฮชแท็ก #BlackLivesMatter กลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียลมีเดียขึ้นมาทันที แต่ในทางกลับกันแฮชแท็ก #WhiteLivesMatter ก็เป็นไวรัลจนติดเทรนด์ขึ้นมาด้วยเช่นกัน

 

โดยโพสต์ใน #WhiteLivesMatter ส่วนใหญ่จะเป็นการเชิดชูคนผิวขาวว่าเป็นผู้มีอภิสิทธิ์ชนมากกว่าผู้อื่น ซึ่งขัดกับหลักแห่งความเท่าเทียมของประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก และถึงแม้ว่าแนวคิดเหล่านี้จะถูกปลูกฝังไว้ตั้งแต่ก่อนจะก่อตั้งสหรัฐอเมริกาถึง 240 ปี แต่ดูเหมือนว่ายังมีคนจำนวนหนึ่งที่ยังมีความเชื่อแบบนี้ อ้างอิงจากแฮชแท็กดังกล่าวที่ถูกทวีตมากมายจนขึ้นเทรนด์โลก 

 

แต่กิจกรรมของลัทธิสุดโต่งนี้ก็ต้องสะดุดลง เมื่อเหล่า ARMY แฟนคลับของวง BTS เริ่มโพสต์คลิปแฟนแคมและรูปภาพตะมุตะมิของ BTS ลงไปในแฮชแท็ก #WhiteLivesMatter แทน จนทำให้ทวีตเหยียดผิวต่างๆ ค่อยๆ จมหายไป แทนที่ด้วยภาพและวิดีโอของศิลปินวงโปรดกว่า 2 หมื่นโพสต์ และไม่ใช่แค่แฟนคลับของ BTS เท่านั้น แต่แฟนด้อมวงอื่นๆ ก็ร่วมผสมโรงด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับของวง BLACKPINK, TWICE หรือ GOT7 นอกจากนั้นเหล่า ARMY ยังร่วมกันบริจาคให้กับโครงการ Black Lives Matter มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจำนวนเงินนี้สามารถรวบรวมได้ภายใน 1 ชั่วโมง โดยมีผู้บริจาคมากกว่า 3.5 หมื่นคน

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แฟนๆ เคป๊อปเข้ามามีบทบาททางด้านการเมืองในสหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านี้แฮชแท็ก MAGA หรือ Make America Great Again ของ โดนัล ทรัมป์ และ QAnon ลัทธิสุดโต่งอีกอันที่มีความเชื่อว่าพระเจ้าส่งทรัมป์มาต่อสู้กับพวกคนโรคจิตที่มีอารมณ์ทางเพศกับเด็ก ก็โดนเหล่าแฟนเพลงเกาหลีสร้างความเปลี่ยนแปลงมาแล้วเช่นกัน รวมไปถึงเมื่อครั้งที่ทรัมป์จัดกิจกรรมที่เมืองทัลซา รัฐโอคลาโฮมา แฟนเคป๊อปต่างก็ลงทะเบียนไว้เฉียดหมื่นรายชื่อ และแน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้มีแผนจะไปร่วมงานแต่อย่างใด หากแต่พากันโพสต์ภาพตั๋วที่ลงทะเบียนไว้ ส่งผลให้ทรัมป์ผู้ประกาศว่าจะมีผู้เข้าร่วมอย่างล้นหลามหน้าเสียไปอีกรอบ 

 

วัฒนธรรมอันยูนีกของแฟนเคป๊อปที่มีโซเชียลมีเดียเป็นสื่อกลาง กลายเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกมองข้ามไม่ได้ นักค้นคว้าและนักวิจัยหลายคนรายงานว่า แฟนเพลงของ BTS เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเพียงวงเดียวมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านคน และส่วนใหญ่เป็นคนผิวสี ดังนั้นในปี 2020 ที่เกิดการเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ สีผิว และเชื้อชาติ รวมไปถึงช่วงก่อนเลือกตั้งครั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ที่นโยบายของอดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ อย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ นั้นมีแนวโน้มไปทางเหยียด ทำให้เหล่าแฟนเพลงเกาหลีชาวอเมริกันต้องออกมาเคลื่อนไหวโดยร่วมมือกันผ่านทางโซเชียลมีเดีย

 

นอกจากนั้นเหล่า ARMY ยังเดินตามแนวคิดของวง BTS ที่ส่งเสริมให้แฟนๆ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่มีความเชื่อมั่น รัก และยอมรับในตนเอง พร้อมทั้งสนับสนุน LGBTQ+ อย่างเปิดเผยทั้งที่ในเกาหลีใต้ยังเป็นเรื่องที่คนในสังคมยังไม่ค่อยยอมรับเท่าไรนัก แต่การร่วมมือกันบริจาคและสนับสนุนแคมเปญต่างๆ ของ BTS และ ARMY นั้นก็พิสูจน์ให้คนทั่วโลกเห็นถึงอิทธิพลมหาศาลของพวกเขาที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกอีกด้วย

 

ภาพ: John Shearer / Getty Images for The Recording Academy

Drew Angerer / Getty Images

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising