เบทาโกรโชว์กำไรสุทธิไตรมาส 1/65 เติบโต 149% อานิสงส์ยอดขายเพิ่ม ขณะที่ราคาขายพุ่ง เตรียมเดินหน้าขายหุ้น IPO และเข้าตลาดหุ้นตามแผนหลังยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะที่เอสซีจี เคมิคอลส์ คาดเสนอขายหุ้น IPO ในไตรมาส 3 ปีนี้ หาก ก.ล.ต. อนุมัติไฟลิ่ง
วสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เบทาโกร หรือ BTG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทมีการเติบโตแข็งแกร่ง ในไตรมาส 1/65 มีรายได้รวม 26,163.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิเติบโตสู่ระดับ 1,966.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 149.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เปิดรายชื่อ ‘10 บลจ. ของไทย’ ควักเงินจองซื้อหุ้น IPO ‘เบทาโกร’ หรือ BTG วงเงินรวมกันกว่า 3.63 พันล้านบาท
- เคาะแล้ว! ‘เบทาโกร’ กำหนดราคาขายหุ้น IPO ที่ 40 บาท/หุ้น เตรียมโรดโชว์
- ‘เบทาโกร’ จ่อขาย IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ ระดมทุนสร้างฟาร์มและโรงงานใหม่ โดยใช้ชื่อย่อ BTG
ปัจจัยหลักของการเติบโตมาจากรายได้จากการขายสินค้าและบริการจากทุกกลุ่มธุรกิจที่ล้วนเพิ่มขึ้น และการเติบโตของอัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนหักค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของกลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน ซึ่งโดยหลักเป็นไปตามการเพิ่มขึ้นของราคาขายเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน เช่น เนื้อสุกร เนื้อไก่ทั้งในประเทศและการส่งออก สัตว์ปีก ไข่ไก่ อาหารแปรรูป และเนื้อสัตว์แปรรูป ฯลฯ สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของราคาตลาดของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว รวมถึงการเติบโตของอัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนหักค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของกลุ่มธุรกิจต่างประเทศและกลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยงอีกด้วย
ส่วนความคืบหน้าในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ล่าสุดบริษัทฯ แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน ได้แก่ บล.เกียรตินาคินภัทร และ บล.บัวหลวง และได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 500 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ (รวมจำนวนหุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินอาจใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากบริษัท กรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) โดยจะนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนในการเข้าซื้อ และ/หรือ ก่อสร้างฟาร์มและโรงงานแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน สร้างการเติบโตที่ยั่งยืน ส่วนที่เหลือนำไปใช้ในการปรับโครงสร้างเงินทุนและเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินกิจการ
ทั้งนี้ เบทาโกรเป็นผู้นำนวัตกรรมอาหารครบวงจรชั้นนำในประเทศไทยที่มีการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร (Vertically Integrated Business Model) ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่าของผลิตภัณฑ์ (Value Chain) โดยธุรกิจหลักแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
- กลุ่มธุรกิจเกษตร ประกอบด้วย การผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์, ผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์และสารเสริมสำหรับสัตว์, อุปกรณ์และเครื่องมือฟาร์มที่หลากหลาย และการให้บริการห้องปฏิบัติการ
- กลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน ประกอบด้วย การผลิตและจำหน่ายเนื้อสัตว์ ไข่ไก่ และผลิตภัณฑ์ปลา แก่ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ, การแปรรูปเนื้อสัตว์เป็นผลิตภัณฑ์ปรุงสุก ผลิตภัณฑ์พร้อมปรุง ผลิตภัณฑ์กึ่งปรุงสุก และผลิตภัณฑ์พร้อมรับประทาน, ผลิตภัณฑ์พลอยได้ และโปรตีนทางเลือก รวมถึงการทำฟาร์มเชิงพาณิชย์
- กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ ที่ประกอบธุรกิจในกัมพูชา ลาว และเมียนมา เพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์การเกษตร, อาหารสัตว์, การเพาะพันธุ์สัตว์, ผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์และสารเสริมสำหรับสัตว์, อุปกรณ์ฟาร์มและผลิตภัณฑ์อาหาร รวมถึงสุกร, สัตว์ปีก, ไข่ไก่, เนื้อสัตว์แปรรูป และอาหารแปรรูป
- กลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง ประกอบด้วย การผลิตและจัดจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง, ขนมขบเคี้ยวสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยง
เอสซีจี เคมิคอลส์ คาดขายหุ้น IPO ไตรมาส 3
ด้าน กุลเชฏฐ์ ธาราจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บมจ.เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้น IPO ได้ประมาณไตรมาส 3 ปีนี้ หลังจากได้ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอให้ ก.ล.ต. พิจารณาอนุมัติไฟลิ่ง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือน
โดย SCGC จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนรวมไม่เกิน 3,854.68 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 25.2% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ (รวมจำนวนหุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินอาจใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากบริษัท ในกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน)
ทั้งนี้ SCGC ยังคงยืนยันความตั้งใจในการกระจายหุ้น IPO สู่มือนักลงทุนรายย่อยให้ได้มากที่สุด โดยรูปแบบและวิธีการเสนอขายอาจใกล้เคียงกับการเสนอขายหุ้นของ SCGP ที่เคยเสนอขายหุ้น IPO ไปในปี 2563
ทั้งนี้ SCGC ประกอบธุรกิจด้วยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) และดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทย่อยและบริษัทร่วมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่
- สายธุรกิจโอเลฟินส์ ประเทศไทย (Olefins Chain in Thailand)
- สายธุรกิจไวนิล (Vinyl Chain)
- สายธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ ธุรกิจโอเลฟินส์ในต่างประเทศ ธุรกิจรีไซเคิล ธุรกิจบริการและโซลูชัน
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP