โบรกเกอร์ร่วมมือกับสำนักงาน ปปง. สั่งระงับโอนหุ้นหรือเงินที่เกิดจากธุรกรรมซื้อขาย หุ้น MORE ที่มีปัญหาไว้ 7 วัน ในบัญชีซื้อขายหุ้นทุกบัญชีของโบรกเกอร์ที่มีวอลุ่มเทรดหุ้น MORE ที่มีวอลุ่มเทรดตั้งแต่ 10 ล้านบาทต่อบัญชี ในวันที่ 10 พฤศจิกายน เพื่อนำมาทำการตรวจสอบหาความผิดปกติที่เกิดขึ้น
แหล่งข่าวจากตลาดทุนให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD WEALTH ว่า จากกรณีปัญหาการซื้อขายหุ้น บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) รายการขนาดใหญ่ที่มีความผิดปกติ โดยมีคำสั่งซื้อหุ้น MORE เป็นราคาสูงผิดปกติ ที่ราคา 2.90 บาทต่อหุ้น ผ่านบัญชีมาร์จิ้นของนักลงทุนที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มเดียวที่เปิดบัญชีกระจายไว้กับโบรกเกอร์จำนวน 10-12 แห่ง เป็นจำนวนหุ้นรวม 1,500 ล้านหุ้น ด้วยวอลุ่มซื้อขายรวมประมาณ 4,500 ล้านบาท ในตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ซึ่งครบกำหนดชำระค่าหุ้นให้ฝ่ายผู้ขายหุ้น MORE และต้องส่งมอบหุ้น MORE ภายในวันที่ 14 พฤศจิกายน จะต้องมีการชำระเงินค่า (เคลียริ่ง) ที่จะครบดีล T+2
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- จับตา หุ้น MORE ! หลังตลาดหลักทรัพย์และสมาคมโบรกเกอร์เตรียมแถลงแนวทางแก้ปมผิดนัดชำระค่าหุ้น
- ทำความเข้าใจเกม หุ้น MORE ทิ้งคำถามถึงช่องโหว่ของวงการหุ้นไทย
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ แขวนหุ้น ‘MORE’ วันนี้ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบธุรกรรม
ล่าสุดวานนี้ (14 พฤศจิกายน) หลังจากโบรกเกอร์ได้หารือร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบธุรกรรมดังกล่าวที่เกิดขึ้น พบข้อมูลต้องสงสัยได้ว่าอาจเป็นการกระทำความผิดเข้าข่ายกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ดังนั้นโบรกเกอร์กับ ปปง. จึงมีคำสั่งให้ระงับการโอนหุ้นหรือเงินที่เกิดจากธุรกรรมซื้อขายหุ้น MORE ที่มีปัญหาเกิดขึ้นไว้เป็นการชั่วคราวเป็นระยะเวลา 7 วัน ในบัญชีซื้อขายหุ้นทุกบัญชีของโบรกเกอร์ที่มีวอลุ่มเทรดหุ้น MORE ที่มีวอลุ่มเทรดตั้งแต่ 10 ล้านบาทต่อบัญชี ในวันที่ 10 พฤศจิกายน เพื่อนำมาทำการตรวจสอบหาความผิดปกติที่เกิดขึ้น โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปผลการตรวจสอบในเบื้องต้นออกมาได้
“ปปง. ถือเป็นแม่งานในการเข้าตรวจปัญหาการซื้อขายหุ้น MORE ที่มีความผิดปกติ ซึ่งในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมา ปปง. ได้เดินทางเข้าพบผู้บริหาร เพื่อขอข้อมูลและเข้าไปตรวจสอบโบรกเกอร์หลายแห่ง จนพบข้อมูลสงสัยได้ว่าธุรกรรมการซื้อขายหุ้น MORE ที่มีประเด็นเกิดขึ้น อาจเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน จึงมีคำสั่ง Freez บัญชีซื้อขายหุ้นที่มีวอลุ่มเทรดตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไปต่อบัญชีทุกบัญชีที่ทำธุรกรรมในวันที่ 10 พฤศจิกายน ไว้ก่อน 7 วัน เพื่อเร่งตรวจสอบให้ผลออกมาเร็วที่สุด
“เพราะโบรกเกอร์เองก็มีความเสี่ยงด้วย จากการถูกลูกค้าฟ้องตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ หากไม่ยอมส่งมอบหุ้นที่ลูกค้าซื้อหรือจ่ายเงินค่าหุ้นที่ลูกค้าขายออกไป โดยหากผลการตรวจสอบออกมาพบว่ามีความผิดเกิดขึ้นจริง จะถือว่าสร้างมูลค่าความเสียมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของวงการโบรกเกอร์ ซึ่งอาจสูงถึง 3 พันล้านบาท”
ในวันเดียวกัน รองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมายและหัวหน้ากลุ่มงานเลขานุการองค์กรและกำกับองค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือขอให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเข้ามาช่วยดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับกรณีหุ้น บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) โดยมี พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลางรับมอบหนังสือ ณ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลางยินดีเข้ามาช่วยดำเนินการและได้มีการติดตามเรื่องดังกล่าว พร้อมตั้งทีมที่จะช่วยสอบสวนไว้แล้ว
