จากข่าวสารที่ได้ติดตาม คนทั่วไปคงรู้สึกอยู่เสมอว่าประเทศไทยเศรษฐกิจไม่ค่อยดี แต่อีกภาพหนึ่ง เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเรายังมีตัวเลขที่เติบโตอยู่ และมีภาพลักษณ์น่าเชื่อถือบนเวทีการค้าโลก คนทั่วโลกรู้จักและยกย่องประเทศไทยโดยเฉพาะเรื่องอาหาร ที่มักจะถูกพูดถึงจากสื่อชั้นนำของโลก จากภาพยนตร์ฮอลลีวูดอีกนับไม่ถ้วน ขนาด ‘เมแกน มาร์เคิล’ ดัชเชสแห่งซัสเซ็กซ์ ก็ยังเคยกล่าวชื่นชมอาหารไทยมาแล้ว
ไม่นานมานี้ในงานประชุมสุดยอดผู้นำ BRICS (กลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ประกอบด้วย Brazil, Russia, India, China และ South Africa) ที่เมืองเซี่ยเหมิน ประเทศจีน ว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินและการพัฒนาของกลุ่ม
BRICS ถือเป็นกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ที่มีศักยภาพสูงในการเติบโตทัดเทียมกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เช่น กลุ่ม G7 หรือกลุ่มทรงอำนาจทางเศรษฐกิจดั้งเดิม แม้ประเทศไทยจะไม่ได้อยู่ในกลุ่ม BRICS แต่นักธุรกิจไทยคนเดียวอย่าง เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือซีพี ก็ได้รับเชิญไปร่วมเสวนาหัวข้อ ‘BRICS Business Forum’ เป็นเพราะกลุ่ม BRICS เห็นว่าธนินท์ประสบความสำเร็จด้านเกษตรและธุรกิจด้านอาหารเป็นอันดับ 4 ของโลก
ในที่ประชุม เจ้าสัวธนินท์ได้เสนอว่าแนวทางเศรษฐกิจและการเงินต้องไปด้วยกัน กลุ่ม BRICS ต้องร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมแบ่งปัน แต่ละประเทศต้องนำจุดแข็งมาเสริมจุดอ่อน และควรใช้เวทีนี้ผนึกกำลังการเงินเพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ ภาคเกษตรและอุตสาหกรรมต้องสร้างระบบครบวงจรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และธนาคารต้องมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจ หน่วยธุรกิจก็จะสามารถคืนเงินกู้และดอกเบี้ยได้ ผลประโยชน์ก็จะตกอยู่กับประเทศชาติตามมา
ประธานอาวุโสเครือซีพีพูดเชิญชวนว่า ประเทศในกลุ่ม BRICS ซึ่งมีศักยภาพสูงในการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารคุณภาพ น่าจะหันมาสนใจภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มากขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยที่พร้อมทุกด้านสำหรับการสร้างความเชื่อมโยงการค้าการลงทุนระหว่างภูมิภาคและโลก ตามนโยบายของรัฐบาลซึ่งได้จัดตั้งโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เพื่อดึงดูดอุตสาหกรรมและนวัตกรรมใหม่ยุค 4.0 จากทั่วโลกเข้ามาลงทุน
ที่สำคัญคือกลุ่มประเทศสมาชิก BRICS มีประชากรมากกว่า 3,000 ล้านคน เป็นตลาดเป้าหมายการส่งออกของประเทศไทยอยู่แล้ว เจ้าสัวธนินท์จึงเห็นว่านี่คือโอกาสดีสำหรับนักลงทุน อย่างเช่น กลุ่ม SME ของไทย ที่หากได้แรงสนับสนุนจากภาครัฐและภาคการเงิน ย่อมมีโอกาสเติบโตในระดับโลกอย่างแน่นอน
ตัวอย่างคือการทำธุรกิจการค้า ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ผงาดบนเวลาการค้าโลกวันนี้
ล่าสุด เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) เพิ่งได้รับการยกย่องและมอบรางวัลซีอีโอยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย หรือ Asia’s Best CEO (Investor Relations) จากนิตยสาร Corporate Governance Asia สื่อชั้นนำด้านเศรษฐกิจและการกำกับดูแลกิจการที่ดีของฮ่องกงและเอเชีย จากการดำเนินธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนที่ยึดมั่นการบริหารจัดการธรรมาภิบาลในการกำกับดูแลกิจการอย่างโปร่งใส สร้างความยั่งยืนให้กับองค์กร ชุมชน สิ่งแวดล้อม ตลอดจนได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ถือหุ้นและทุกกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียทั้งระดับประเทศและสากล เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา
