×

“พาลูกออกไปเล่นนอกบ้านทุกวัน” เคล็ดลับสร้างเด็กเก่งรอบด้านแบบพ่อแม่ยุคใหม่ [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
26.11.2019
  • LOADING...
breeze

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • เด็กติดมือถือ ส่งผลเสียระยะยาวกว่าที่พ่อแม่เข้าใจ ถ้าไม่รีบทำความเข้าใจและหาทางแก้ไข อาจจะสายเกินเยียวยา
  • มีงานวิจัยที่ยืนยันว่า ‘การเล่น’ ส่งผลดีต่อพัฒนาการของเด็กทุกด้าน และสิ่งที่จะเป็นเกราะป้องกันให้เขาเติบโตมาในสังคมยุคนี้คือ จินตนาการที่เกิดจากการเล่น จะช่วยให้เขารับมือกับเรื่องที่คาดไม่ถึงได้ดีกว่า
  • ตอนนี้เริ่มมีโรงเรียนมากมายสนับสนุนแนวทางการสอนและจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยเพิ่มกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ออกไปเรียนรู้นอกห้องเรียน

การปล่อยให้เด็กเล็กใช้เวลาไปกับหน้าจอมือถือ แทนที่จะให้เขาได้ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านหรือทำกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัย ส่งผลเสียต่อเด็กหลายด้าน ผลเสียที่สังเกตได้ก็เช่น เด็กสมาธิสั้น นอนหลับไม่ดี ส่งผลต่อพัฒนาการด้านร่างกายและระบบต่างๆ พัฒนาการทางสมองช้า และผลกระทบเรื้อรังที่จะติดตัวเด็กไปจนโตคือ เด็กจะขาดความสามารถในการสื่อสาร ขาดการคิดวิเคราะห์ นี่ไม่ใช่ประเด็นใหม่ แต่เป็นเรื่องเก่าที่จำเป็นต้องนำมาเล่าใหม่ และเตือนผู้ปกครองให้ตระหนักถึงเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ เพราะผลเสียที่ตามมารุนแรงและเรื้อรังกว่าที่คิด

 

breeze

เด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุด มักเป็นเด็กที่มีผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในการเล่น

 

เปลี่ยนจากการเล่นหน้าจอ ออกมาเล่นนอกบ้าน

American Academy of Pediatrics เปิดเผยงานวิจัยทางการแพทย์ พบว่า การเล่นมีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็ก โดยเฉพาะพัฒนาการด้านสังคม เขาจะได้เรียนรู้ที่จะเข้ากับคนอื่น ผลัดกันเป็นผู้ให้และผู้รับ และยิ่งปล่อยให้เด็กได้ออกไปเล่นนอกบ้าน ก็จะเปิดโอกาสสู่การเรียนรู้ รู้จักธรรมชาติ เรียนรู้ที่จะเป็นนักสังเกต คิดเชื่อมโยงเหตุและผล เรียนรู้การเข้าสังคมกับเพื่อนวัยเดียวกัน

 

ในหนังสือ Play: How it Shapes the Brain, Opens the Imagination, and Invigorates the Soul ที่เขียนโดย Stuart Brown ผู้ก่อตั้ง The National Institute for Play ลงลึกและศึกษาไปถึงประโยชน์ของการเล่นและพิสูจน์ให้เห็นว่า ทำไมการเล่นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่สุดสำหรับเด็ก หนึ่งสิ่งที่หลายคนคาดไม่ถึงคือ จินตนาการที่เกิดจากการเล่น จะช่วยให้เขารับมือกับเรื่องที่คาดไม่ถึงได้ดีกว่า พลิกแพลงสถานการณ์และวิเคราะห์ทางออกได้มากกว่า จินตนาการที่เกิดขึ้นระหว่างการเล่นจะหล่อหลอมให้เด็กเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรงทั้งกาย ใจ และความคิด 

 

breeze

ยิ่งเลอะ ยิ่งเยอะประสบการณ์

 

ถ้าการเล่นมีประโยชน์มากขนาดนี้ แล้วผู้ใหญ่จะช่วยสนับสนุนเด็กๆ อย่างไร

ควรเริ่มจากการทลายกรอบคำว่า ‘สนามเด็กเล่น’ ของพ่อแม่ผู้ปกครองเสียก่อนว่า ไม่ควรจำกัดอยู่แค่สนามเด็กเล่นที่มีเครื่องเล่นให้เด็กปีนป่ายเท่านั้น เพราะทุกพื้นที่บนโลกคือสนามเด็กเล่นสำหรับเด็ก แม้แต่สวนหน้าบ้าน พื้นที่ส่วนกลางในคอนโดมิเนียม ลานกิจกรรมในหมู่บ้าน สวนสาธารณะ ถ้าเด็กมีหน้าที่เล่น ผู้ใหญ่ก็มีหน้าที่ส่งเสริมให้เด็กได้เล่น ด้วยการพาไปเล่น สร้างกิจกรรมหรือเกมที่ให้เขาได้ใช้ความคิดและขยับร่างกาย งานวิจัยพบว่า เด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุด มักเป็นเด็กที่มีผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในการเล่น นี่อาจเป็นผลวิจัยที่ทำให้คุณอยากจูงมือเด็กๆ ออกไปเรียนรู้นอกบ้านหลังอ่านบทความนี้จบ  

 

breeze

โรงเรียนหลายแห่งเริ่มให้ความสำคัญกับการเรียนรู้นอกห้องเรียน

 

แต่การส่งเสริมพัฒนาการเด็กจะไม่สมบูรณ์ หากสภาพแวดล้อมที่เด็กอยู่ไม่ส่งเสริมการเล่นหรือการเรียนรู้นอกบ้านทั้งหมด แม้ว่าพ่อแม่จะมีแนวคิดที่จะพาเด็กออกมาเล่นนอกบ้าน หลังเลิกเรียนก็ดี หรือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็ตาม แต่การเรียนรู้ของเด็กจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เมื่อพ่อแม่ปลูกฝังมาดีแล้ว สภาพแวดล้อมที่เด็กควรได้รับการส่งเสริมให้เล่นและเรียนรู้นอกบ้านก็คือ โรงเรียนที่รับช่วงต่อไปสู่การเรียนรู้นอกห้องเรียน เป็นการเชื่อมโยงพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ในทางกลับกัน หากโรงเรียนสนับสนุนการสอนที่เน้นการเรียนรู้นอกห้องเรียน คุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องปรับวิธีการพาเด็กออกไปเล่นนอกบ้านให้มากขึ้นด้วยเช่นกัน

 

น่ายินดีที่แนวทางส่งเสริมการเล่นนอกบ้าน เรียนรู้นอกห้องเรียน ปัจจุบันนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลย พ่อแม่ยุคใหม่ก็มองหาวิธีส่งเสริมพัฒนาการเด็กอยู่แล้ว แต่โรงเรียนในประเทศไทยหลายแห่งก็เริ่มหันมาทบทวนแนวทางการสอนและจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยเพิ่มกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ออกไปเรียนรู้นอกห้องเรียน อาทิ การจัดกิจกรรมทัศนศึกษา การจัดคาบพิเศษให้เด็กใช้เวลานอกห้องเรียนมากขึ้น ไปจนถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในโรงเรียนให้เด็กได้มีพื้นที่ในการเรียนรู้มากขึ้น

 

ประกอบกับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาคเอกชนที่เล็งเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ หนึ่งในแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง Holistic Child Development แบบ 360 องศามาตลอดก็คือ บรีส ประเทศไทย เห็นได้จากโครงการสนับสนุนโรงเรียนให้ทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาโดยตลอด อาทิ โครงการ ‘บรีสเปิดประสบการณ์ เรียนรู้ เล่น เลอะ นอกห้องเรียน’ มุ่งเน้นให้โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการพัฒนาเด็ก ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสังคม ผ่านการทำกิจกรรมนอกห้องเรียนเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่นักเรียน   

 

หรือกิจกรรม ‘Outdoor Learning เรียนรู้ เล่น เลอะ เปิดประสบการณ์นอกห้องเรียน’ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เน้นจุดประกายให้ครูและผู้ปกครองตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการเรียนรู้นอกห้องเรียน ผ่านการเล่นอย่างสร้างสรรค์ เพราะบรีสเชื่อว่าการเล่นนอกบ้านจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในด้านต่างๆ แม้การเล่นเยอะๆ จะตามมาด้วยความเลอะก็ตาม แต่นั่นคือเครื่องหมายของประสบการณ์ที่จะช่วยให้เขาเติบโตมาพร้อมพัฒนาการรอบด้าน

 

สุดท้ายแล้วกุญแจสำคัญที่จะทำให้แนวคิดเรื่องการ ‘เล่นนอกบ้าน’ ได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อเด็กที่สุดก็คือ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ซึ่งเป็นเพื่อนคนแรกของลูก และยังเป็นเพื่อนที่จะพาเขาออกไปเล่นนอกบ้านที่ไหน เมื่อไร และนานเท่าไรก็ได้ ยิ่งพ่อแม่สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับเด็กมากเท่าไร ย่อมส่งผลสำคัญต่อพัฒนาการทางสังคม พัฒนาการทางจริยธรรม เมื่อถึงเวลาต้องส่งต่อการอบรมไปสู่โรงเรียนที่มีแนวทางการสอนที่เน้นการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน จะยิ่งเสริมพัฒนาการเด็กให้พัฒนาครบทุกด้านดีขึ้น โดยที่คุณไม่ต้องปวดหัวหาวิธีให้ลูกเลิกติดมือถือ เมื่อเขาได้รู้แล้วว่า โลกภายนอกมีอะไรให้เล่น ให้เรียนรู้ ท้าทายความสามารถของเขา และมีสังคมเพื่อนที่ช่วยกันแก้ปัญหา เขาคงไม่อยากนั่งเหงาๆ คนเดียวกับมือถืออีกต่อไป

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X