สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชนพื้นเมืองในพื้นที่ป่าแถบแอมะซอนของบราซิล ขณะนี้นอกจากจะได้รับผลกระทบจากนโยบายที่เน้นการพัฒนามากกว่าการอนุรักษ์ของรัฐบาล รวมถึงประสบปัญหาการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขขั้นพื้นฐานและภาวะทุพโภชนาการแล้ว ยังกำลังได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ที่กำลังเริ่มแพร่ระบาดไปทั่วบราซิล
ก่อนหน้านี้กลุ่มพิทักษ์สิทธิชนพื้นเมืองเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งผลักดันกลุ่มคนต่างถิ่น ไม่ว่าจะเป็นคนงานเหมือง, ผู้บุกรุกพื้นที่ป่า, นักล่าสัตว์ป่า, นักลักลอบค้าไม้, พ่อค้ายา, มิชชันนารี รวมถึงนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ให้เดินทางออกจากพื้นที่แอมะซอน เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงมากที่บรรดาคนเหล่านี้จะนำเชื้อไวรัสโคโรนาเข้ามายังพื้นที่ชุมชนคนพื้นเมือง
เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการบราซิลยืนยันว่า ขณะนี้มีชนพื้นเมืองในแอมะซอนติดโควิด-19 รายแรกแล้ว เป็นหญิงวัย 20 ปี จากเผ่า Kokama ที่อาศัยอยู่ในเมืองซานโต อันโตนิโอ โด ไอกา บริเวณพรมแดนติดกับโคลอมเบีย โดยในพื้นที่ดังกล่าว มีรายงานพบผู้ติดเชื้อแล้ว 4 ราย รวมถึงแพทย์ชาวบราซิลที่ใกล้ชิดกับชนพื้นเมืองด้วย
สาธารณสุขบราซิลคาดการณ์ว่า หากรับมือไม่ดี โรคระบาดนี้อาจคร่าชีวิตชนพื้นเมืองบราซิลเป็นจำนวนมาก ดังเช่นในอดีตที่ชาวตะวันตกจำนวนไม่น้อยต่างพาโรคร้ายติดตัวมาด้วย ตั้งแต่โรคไข้ทรพิษ ไปจนถึงมาลาเรีย และไข้หวัดชนิดต่างๆ
ล่าสุด บราซิลมียอดผู้ป่วยโควิด-19 สะสมในประเทศแล้ว 10,360 ราย รักษาหายแล้ว 147 ราย เสียชีวิตแล้ว 445 ราย นับเป็นประเทศในลาตินอเมริกาที่พบการระบาดมากที่สุดในขณะนี้
ภาพ: Mario Tama / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: