สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยในงาน Bangkok Digital Finance Conference 2022 ว่า โครงการระบบหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ (e-LG on Blockchain) ของธนาคาร 18 แห่ง ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (BCI) ได้ผ่านการทดสอบภายใต้ Regulatory Sandbox ของ ธปท. แล้ว และพร้อมให้บริการในวงกว้าง
โครงการ e-LG on Blockchain เกิดจากความร่วมมือของธนาคารพาณิชย์ไทยผ่านการจัดตั้ง BCI เพื่อแก้ไขข้อจำกัดของการให้บริการหนังสือค้ำประกัน (Letter of Guarantee หรือ LG) ที่เดิมออกในรูปแบบกระดาษ ซึ่งใช้เวลานานและมีโอกาสเกิดทุจริตได้ง่าย โดย BCI ได้นำเทคโนโลยี Blockchain ที่มีจุดเด่นในด้านความโปร่งใส และการป้องกันการลักลอบแก้ไขข้อมูลมาประยุกต์ให้สามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ของธนาคารที่เป็นสมาชิกของ BCI ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการขอ LG จาก 3-7 วัน เหลือเพียงไม่เกิน 1 ชั่วโมง รวมทั้งลูกค้าที่เป็นองค์กรสามารถบริหารจัดการ LG ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติยันไทยไม่ซ้ำรอย ‘วิกฤตต้มยำกุ้ง’ แม้บาทอ่อน เหตุทุนสำรองสูง-เงินทุนไหลเข้าสุทธิ
- ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ เผยพร้อม ‘ขึ้นดอกเบี้ยแรง’ หากเงินเฟ้อพื้นฐานไม่เป็นไปตามคาด พร้อมยันบาทอ่อนกระทบเงินเฟ้อไม่มาก
- ‘แบงก์กรุงเทพ’ ประเดิมขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก-เงินกู้ หลัง กนง. ขึ้นดอกเบี้ย หวังช่วยลดความเสี่ยงเงินเฟ้อ มีผลวันที่ 29 กันยายน
โครงการนี้มีผู้ใช้บริการมากขึ้น โดยปัจจุบันมีหนังสือค้ำประกันในระบบ e-LG กว่า 1 แสนรายการ มูลค่ารวมกว่า 2 แสนล้านบาท ส่วนสมาชิกของ BCI มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ 19 แห่ง หน่วยงานภาครัฐ 3 แห่ง หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ 4 แห่ง และองค์กรภาคเอกชนกว่า 170 ราย โดย Platform ของ BCI มีศักยภาพที่จะรองรับ Use Cases อื่นๆ ที่หลากหลายในอนาคต และสามารถพัฒนาเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานของภาคการเงินต่อไปได้ ซึ่งจะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจและประเทศไทย
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการประยุกต์ใช้ Blockchain สำหรับโครงการดังกล่าว ธนาคารที่เข้าร่วมทดสอบและ BCI ต้องผ่านการประเมินภายใต้ Regulatory Sandbox ของ ธปท. อย่างเข้มข้นก่อน ทั้งเรื่องการกำกับดูแลโครงการ เสถียรภาพของเทคโนโลยี รวมถึงความปลอดภัยด้าน IT จนมั่นใจได้ว่าพร้อมให้บริการในวงกว้างได้อย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน ธปท. ก็ได้นำองค์ความรู้ที่ได้รับจากการทดสอบโครงการดังกล่าว มาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาแนวปฏิบัติเรื่องการใช้เทคโนโลยี Blockchain สำหรับการให้บริการทางการเงิน เพื่อให้ผู้ให้บริการที่ประสงค์นำ Blockchain มาใช้ให้บริการทางการเงินในอนาคต สามารถนำไปใช้อ้างอิงต่อไปได้
สำหรับธนาคาร 18 แห่งที่เข้าร่วมทดสอบโครงการ e-LG on Blockchain ใน Regulatory Sandbox ของ ธปท. มีดังนี้
- ธนาคารกรุงเทพ
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ธนาคารกสิกรไทย
- ธนาคารทหารไทยธนชาต
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
- ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น
- ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
- ธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์
- ธนาคารยูโอบี
- ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
- ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย)
- ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย)
- ธนาคารไอซีบีซี (ไทย)
- ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น