บู๊ทส์ รีเทล ประเทศไทย รับตลาดร้านค้าปลีกสุขภาพและความงาม แข่งเดือด! พับแผนขยายสาขา มุ่งเดินหน้าดันสินค้า Own Brand โตต่อเนื่อง พร้อมเสริมโปรแรงลด 50% กระตุ้นยอดขาย แม้ไม่ได้จัดถี่มาก แต่จำเป็นต้องทำ เพราะสามารถตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุค Value for Money ได้ดี
สนมชนม์ จินานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บู๊ทส์ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานของบู๊ทส์มีการปรับตัวมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค ปัจจุบันบู๊ทส์มีร้านค้ากว่า 250 สาขาในประเทศไทย และมีเครือข่ายสาขาทั่วโลกกว่า 1,800 แห่ง
ที่ผ่านมา บู๊ทส์วางตำแหน่งตัวเองให้เป็นร้านค้าด้านสุขภาพและความงามที่แตกต่างจากคู่แข่ง ด้วยการนำเสนอสินค้าที่เป็นแบรนด์เฉพาะของบู๊ทส์ (Own Brand) และแบรนด์นำเข้าเฉพาะ เช่น No7 รวมถึงสินค้าพิเศษแบบ Exclusive Product ซึ่งช่วยสร้างความแตกต่างและให้มาร์จินที่ดีกว่าสินค้าทั่วไป
โดยปัจจุบันสินค้ากลุ่ม Own Brand มีสัดส่วนประมาณ 20% ของสินค้าทั้งหมด มีจุดแข็งอยู่ที่คุณภาพเทียบเท่าแบรนด์ชั้นนำในตลาด แต่มีราคาคุ้มค่ากว่า เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ต่อเนื่องได้ในระยะยาว ส่วนอีก 80% เป็นสินค้าจากหลากหลายแบรนด์รวมกว่า 2 หมื่นรายการ
นอกจากนี้ บู๊ทส์ยังเดินหน้าลงทุนทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดแคมเปญโปรโมชันลดราคาสูงสุดถึง 50% ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคในภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่สดใสนัก เพราะลูกค้าในปัจจุบันให้ความสำคัญกับสินค้าที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่าย สะท้อนได้จากในช่วงแคมเปญลดราคา เห็นได้ชัดว่ามีลูกค้าเข้าร้านมากขึ้น และมียอดซื้อต่อบิลเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม การทำตลาดในช่วงนี้ถือว่าไม่ง่าย เนื่องจากกำลังซื้อที่ชะลอตัวและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง ทำให้ผู้เล่นในตลาดต้องหันมาให้ความสำคัญกับลูกค้าชาวไทยมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้การแข่งขันในตลาดยิ่งดุเดือด โดยแบรนด์ต่าง ๆ มักเน้นแข่งกันที่คุณภาพสินค้า ส่วนผสม และราคาที่เข้าถึงง่าย
ขณะเดียวกัน พฤติกรรมผู้บริโภคยังเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจการดูแลตัวเองมากขึ้น จนเกิดเป็นเทรนด์ ‘อาบน้ำใหญ่’ ที่ผสมผสานเรื่องของประสบการณ์ ความหรูหรา และการฟื้นฟูร่างกายเข้ามาไว้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเทรนด์นี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากยอดขายผลิตภัณฑ์กลุ่มอาบน้ำเฉลี่ยต่อบิลเพิ่มขึ้น
เทรนด์ดังกล่าวยังส่งสัญญาณบวกต่อตลาดผลิตภัณฑ์อาบน้ำและบำรุงผิว (Bath & Body) ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 19,000 ล้านบาท และขยายตัวขึ้นทุกปี โดยหนึ่งในแบรนด์ที่โดดเด่นที่สุดของบู๊ทส์ในกลุ่มนี้คือ Soap & Glory ซึ่งทำยอดขายสูงสุดในหมวดดังกล่าวของบู๊ทส์ ประเทศไทย
เพื่อสอดรับกับเทรนด์และโอกาสการเติบโต Soap & Glory ซึ่งเป็นแบรนด์บิวตี้ชื่อดังจากอังกฤษ จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์กลิ่นวานิลลา ซึ่งเป็นกลิ่นขายดีอันดับหนึ่งของโลก เพิ่มอีก 4 รายการ พร้อมออกแบบให้ตอบโจทย์ทั้งผู้หญิงและผู้ชายมากขึ้น
ในส่วนของการขยายสาขา บู๊ทส์ยังไม่มีแผนเพิ่มจำนวนร้านในระยะสั้น แต่จะมุ่งเน้นพัฒนาและยกระดับประสบการณ์ในร้านเดิมให้ดีขึ้น โดยปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าแบ่งเป็นคนไทย 80% และต่างชาติ 20% โดยสาขาที่มียอดขายดีที่สุดคือ เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่มีทราฟฟิกหนาแน่นตลอดทั้งปี