เครื่องบิน Boeing 747 ลำสุดท้ายเตรียมออกจากโรงงาน ก่อนยุติสายการผลิตที่มีมานานกว่า 50 ปี

วานนี้ (6 ธันวาคม) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เครื่องบิน Boeing 747 ลำที่ 1,574 ซึ่งเป็นลำสุดท้าย กำลังเคลื่อนย้ายออกจากโรงงานผลิตในเมืองเอเวอเรตต์ ทางตอนเหนือของซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกาแล้ว เตรียมยุติสายการผลิตเครื่องบิน เจ้าของฉายา ‘จัมโบ้เจ็ต’ ที่มีมายาวนานกว่า 50 ปี โดยจะทำการทดสอบการบินก่อนส่งมอบให้กับ Atlas Air Worldwide Holdings ที่เป็นลูกค้ารายสุดท้ายของเครื่องบินรุ่นนี้ในช่วงต้นปี 2023

ทางด้าน คิม สมิธ รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของโครงการ Boeing 747 และ 767 ระบุว่า “นี่เป็นช่วงเวลาที่เกินจริงมากๆ นี่เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปีที่เราจะไม่มีเครื่องบินรุ่น 747 อยู่ภายในโรงงานผลิตแห่งนี้”

บทความที่เกี่ยวข้อง:

50 ปี Boeing 747 จาก ‘ราชินีแห่งฟากฟ้า’ สู่บทบาทเครื่องบินคาร์โกที่อนาคตคลุมเครือ

เครื่องบิน Boeing 747 เกิดขึ้นจากความต้องการของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่กำลังมองหาเครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้นที่สามารถบรรทุกสัมภาระได้มากขึ้นและบินได้ระยะทางที่ไกลขึ้น ประกอบกับหนึ่งในลูกค้าของ Boeing อย่างประธานสายการบิน Pan Am ที่ก็กำลังมองหาเครื่องบินลำที่ใหญ่ขึ้น บรรทุกผู้โดยสารได้มากขึ้น เพื่อช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานแต่ละเที่ยวบินให้น้อยลง จึงก่อเกิดเป็นโครงการผลิตเครื่องบินรุ่นนี้ขึ้น โดยใช้ระยะเวลาออกแบบและผลิตเครื่องบินลำแรกเพียง 28 เดือนเท่านั้น จนท้ายที่สุดในวันที่ 30 กันยายน 1968 เครื่องบิน Boeing 747 ก็ได้เผยโฉมเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะปฏิวัติวงการการบินเชิงพาณิชย์ในช่วงเวลานั้น จนมีอีกหนึ่งฉายาว่า ‘ราชินีแห่งฟากฟ้า’

จนในปี 2005 คู่แข่งเจ้าสำคัญของ Boeing อย่าง Airbus ได้ออกแบบเครื่องบินขนาดใหญ่ของตนเองอย่างรุ่น A380 ซึ่งสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากถึง 853 คน มากกว่า Boeing 747 ที่บรรทุกผู้โดยสารได้ราว 550 คน ส่งผลให้เกิดความท้าทายและเพิ่มแรงกดดันต่อ Boeing อย่างมากในช่วงเวลานั้น ก่อนที่ในปัจจุบันอุตสาหกรรมการบินจะมีอัตราการแข่งขันที่สูงมากยิ่งขึ้น ผู้เล่นแต่ละรายพยายามพัฒนาเครื่องบินรุ่นใหม่ๆ ที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งประหยัดเชื้อเพลิงและช่วยลดต้นทุนได้มากยิ่งขึ้น เครื่องบินสองเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กบินได้ระยะทางที่ไกลขึ้น ราคาถูกกว่ามาก จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่สายการบินต่างๆ โดยเฉพาะสายการบินโลว์คอสต์จะซื้อมาใช้งาน เพื่อตอบโจทย์เส้นทางการบินที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เครื่องบินที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของการเดินทางระยะไกลและบรรทุกผู้โดยสารได้เป็นจำนวนมากอย่างเครื่องบิน Boeing 747 เริ่มทยอยถูกปลดระวางจากบรรดาสายการบินพาณิชย์ทั่วโลก และเหลือเพียงบทบาทการเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้าที่ยังพอช่วยให้สายพานการผลิตวิ่งต่อไปได้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะตัดสินใจยุติการผลิตเครื่องบินรุ่นนี้ และมุ่งเน้นไปที่โครงการพัฒนาเครื่องบินรุ่นอื่นๆ โดยเฉพาะ Boeing 777X แทน ซึ่งถือเป็นไพ่ใบสำคัญที่จะใช้ต่อกรกับบริษัทคู่แข่งอย่าง Airbus และคาดว่าจะพร้อมให้บริการครั้งแรกภายในช่วงต้นปี 2025

ขณะที่ ฌอน ดอยล์ ซีอีโอของ British Airways ระบุว่า “Boeing 747 เป็นเครื่องบินที่ยอดเยี่ยมและให้บริการกับเราอย่างดีเยี่ยมเสมอมา มีความรักและความคิดถึงเครื่องบินรุ่นนี้อยู่มากมาย แต่เมื่อเรามองไปยังอนาคตที่มีเครื่องบินที่ทันสมัยจำนวนมาก มีประสิทธิภาพที่มากขึ้น คำตอบของความยั่งยืนเองก็มากขึ้นตามไปด้วย”

แม้สายการผลิต Boeing 747 ที่มีมานานกว่าครึ่งศตวรรษกำลังจะยุติลงแล้ว แต่เครื่องบินจัมโบ้เจ็ตเหล่านี้จะไม่ได้หายไปจากท้องฟ้าในทันที จะยังคงทำหน้าที่ขนส่งสินค้าระหว่างเมือง ระหว่างประเทศอยู่บ้าง และคาดว่าเครื่องบินลำใหม่ๆ จะยังทำการบินได้อีกนานหลายทศวรรษนับจากนี้

ภาพ: GTS Productions / Shutterstock

อ้างอิง: