×

จังหวะทิ้งตัวและพุ่งทะยานของ Dimitri Vegas & Like Mike สองดีเจระดับโลก เพื่อเดินตามความมุ่งมั่นและแพสชันตามแบบฉบับของ The Artists [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
30.04.2020
  • LOADING...

หากคุณคือสาวก EDM คุณต้องรู้จัก Dimitri Vegas & Like Mike สองพี่น้องสัญชาติเบลเยียม ดีเจอันดับท็อปของโลก และยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นดีเจอันดับ 1 ของโลกในปี 2015 และ 2019 โดย DJ Magazine นิตยสารดีเจชื่อดังของประเทศอังกฤษ  

 

 

ด้วยแพสชันความหลงใหลในดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ ก่อเกิดการสร้างสรรค์ดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์ ผ่านมุมมอง ทัศนคติ และแพสชันในการใช้ชีวิตและการทำในสิ่งที่รักตามแบบฉบับของ The Artists

ทั้ง Dimitri Vegas & Like Mike ค้นพบความเป็น The Artists ในทางของตัวเองตั้งแต่เด็ก หลังย้ายถิ่นฐานจากกรีซไปยังอิบิซา ศูนย์กลางดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ของเกาะสเปน ที่นั่นเองคือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จบนเส้นทางดีเจอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก พวกเขายังได้ชื่อว่าเป็นโปรดิวเซอร์ผู้ทรงอิทธิพลของโลกดนตรียุคใหม่อีกด้วย  

 

 

หากสรุปความสำเร็จที่ส่งให้ทั้งคู่พุ่งทะยานขึ้นมาเป็นดีเจระดับโลกอย่างรวดเร็ว ปี 2009 คือปีที่พวกเขาแจ้งเกิดในเพลง Work That Body จนได้มารีมิกซ์เพลงของ Rotterdam City of Love ให้กับ Abel Ramos ผลงานเข้าตา Lady Gaga จนติดต่อให้มามิกซ์เพลง Marry The Night ในปี 2011 


ปี 2015 Dimitri Vegas & Like Mike ได้มาเป็นดีเจประจำบูธที่ไนต์คลับสุดหรู Hakkasan ในลาสเวกัส ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งคู่ผ่านการเล่นในคลับระดับตำนานมากมาย อาทิ Pacha, Mansion, London’s Ministry of Sound, Brazil’s #1 Green Valley Club  

 

 

Dimitri Vegas & Like Mike เคยเปิดการแสดงตามเทศกาลดนตรียักษ์ใหญ่มาแล้วทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือ Winterland เทศกาลดนตรีและกีฬาฤดูหนาวที่ฮิตที่สุดแห่งยุคที่นอร์เวย์ การเดินทางครั้งนั้นพวกเขานั่งรถยนต์ BMW M8 เพื่อไปแสดงโชว์ และยังเป็นการเดินทางที่โปรเจกต์ The Art of Leadership ตามไปเก็บภาพความสำเร็จของพวกเขาในงานนี้ด้วย โปรเจกต์ที่ BMW ร่วมมือกับสื่อยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง CNN และ Great Big Story ชวนคนดังระดับอินเตอร์มาเล่ามุมมอง ทัศนคติ และแพสชันการใช้ชีวิตและการทำสิ่งที่รัก ผ่านภาพยนตร์สั้นที่ตามไปถ่ายเรื่องราวการทำงานของพวกเขา   

 


ระหว่างการเดินทาง Dimitri Vegas & Like Mike เล่าว่า พวกเขามักได้แรงบันดาลใจในการทำงานจากการมองย้อนกลับไปในอดีตและประสบการณ์ชีวิต “พวกเราวาดมันออกมาจากความทรงจำเยอะมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากช่วงปลายยุค 80 และยุค 90 ช่วงที่พวกเรากำลังเติบโต”
  

 

นอกจากนี้พวกเขายังได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์และดนตรี รวมทั้งทิวทัศน์อันสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นวิวพระอาทิตย์ตกช่วงยามเย็น บรรยากาศและอารมณ์ช่วงวันหยุดที่ให้ความรู้สึกเหมือนการขับรถ ซึ่ง BMW M8 เป็นหนึ่งในรถคันโปรดของพวกเขา 

 

 

“ในเพลงอิเล็กทรอนิกส์มันจะมีจุดพุ่งทะยาน เหมือนกับท่อนคอรัสในเพลงป๊อป ช่วงหยุดสั้นๆ ก่อนที่จังหวะและทำนองจะระเบิด และค่อยๆ แผ่วลงอีกครั้ง มันเป็นความลุ้นของคนฟังว่าจะเกิดอะไรขึ้น”



หัวใจสำคัญในงานดนตรีของพวกเขาเปรียบเสมือนการทิ้งตัว “ความรู้สึกของการถูกดึงจากจังหวะ 0 ไปยัง 60 เมื่อจังหวะผลักคุณกลับเข้าไปยังที่นั่งของคุณและดึงไปข้างหน้า มันให้ความรู้สึกเหมือนพวกเขาได้นั่งเอนตัวสบายๆ อยู่ใน BMW M8 และเร่งความเร็ว ซึ่งให้อารมณ์สนุกสนานและตื่นเต้นสุดๆ”

 

 

พวกเขาไม่ได้หลงใหลแค่ภาพลักษณ์ของยนตรกรรม แต่ยังถลำลึกไปยังจิตวิญญาณของนวัตกรรม และนั่นทำให้ทั้งคู่หลงใหลใน BMW มาอย่างยาวนาน “สำหรับเรา BMW เป็นยานยนต์ที่หรูหรา แต่ก็ดูสปอร์ต เป็นรถที่มีความน่าเชื่อถือ มีความแม่นยำ ทั้งยังผสานความสะดวกสบายในการขับขี่อีกด้วย”



เมื่อเราถามว่าคันไหนคือรถยนต์คันโปรดของพวกคุณ แน่นอนว่า BMW M8 คือคำตอบ

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising