×

ทำไมมนุษย์ชอบแข่งขัน? อยากชนะเพื่อความภูมิใจ หรือเพราะมันอยู่ในดีเอ็นเอ [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
07.09.2017
  • LOADING...

     ถ้าถามใครสักคนว่าสิ่งที่เขาหรือเธอภูมิใจที่สุดในชีวิตคืออะไร ‘การชนะ’ คงเป็นหนึ่งในคำตอบ

     ในทางจิตวิทยา การแข่งขันเป็นวิธีที่ง่ายและเร็วที่สุดในการสร้างความภูมิใจให้ตัวเอง ในทางธุรกิจ การแข่งขันเป็นการสร้างมูลค่าให้แต่ละบุคคล และในทางประวัติศาสตร์ ชื่อของผู้ชนะเท่านั้นที่จะได้รับการจารึกและจดจำ

     ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติถูกเขียนขึ้นจากการแข่งขัน วัฒนธรรมการแพ้ชนะอยู่คู่สังคมมนุษย์มาช้านาน ตั้งแต่การแข่งขันเพื่อแย่งชิงทรัพยากรจากการก่อสงคราม ไปถึงการแข่งขันในสเกลเล็กกว่าอย่างการแข่งกีฬาหรือการประกวดในแต่ละสาขา

 

 

     ในสมัยโบราณ การแข่งขันถูกใช้เป็นเครื่องมือในการตัดสินและแบ่งแยกคนแต่ละประเภทออกจากกันเพื่อจัดสรรทรัพยากร ฟรานเซสโก ดูอินา ศาสตราจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยา วิทยาลัยเบตส์ สหรัฐอเมริกา ให้ความเห็นว่า การแบ่งประชากรออกเป็นผู้ชนะและผู้แพ้ เป็นกลไกพื้นฐานของทุกสังคม ผู้ชนะจะได้รับความเชื่อถือให้บริหารทรัพยากร ในขณะที่ผู้แพ้ย่อมถูกมองข้าม ดังนั้นการแข่งขันจึงเป็นสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในดีเอ็นเอของมนุษย์ทุกยุคสมัย

     แน่นอนว่าในการแข่งขันย่อมมีผู้ชนะได้เพียงหนึ่งเดียว จัสติน คอลสัน นักเขียนและนักพูดชาวออสเตรเลีย ให้ความเห็นว่า นิสัยชอบความท้าทายของมนุษย์เป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้สังคมเกิดการแข่งขันและพัฒนา แต่ปัจจัยที่จะตัดสินผู้แพ้ชนะไม่ได้ใช้แค่ใจรักเพียงอย่างเดียว ความเชี่ยวชาญ (Mastery) และประสิทธิภาพ (Performance) ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยตัดสินผลแพ้ชนะในแต่ละสนาม

 

ดีเอ็นเอการแข่งขันที่ฝังอยู่ใน BMW M

     “ถ้าคิดจะแข่ง จงเข้าสู่สนามด้วยม้าแข่งที่ดีที่สุด” คตินี้ใช้ได้ทุกสมัย หากว่าใครกำลังมองหาม้าเหล็กคู่ใจเพื่อลงสนาม BMW M คงอยู่ในใจของใครหลายคนเป็นแน่ เพราะนอกจากจะมาพร้อมสมรรถนะสปอร์ตเหนือชั้นที่รวบรวมระบบขับเคลื่อนสุดคลาสสิกกับความคล่องตัวและการควบคุมที่แม่นยำเข้าด้วยกัน ยานยนต์ในตระกูล M ยังขึ้นชื่อเรื่องการออกแบบที่สามารถกระจายน้ำหนักได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวและบึกบึน พร้อมที่นั่งคนขับตามแบบฉบับรถแข่งแท้ๆ

     “BMW M คือปณิธานที่จะเอาชนะข้อจำกัดของเทคโนโลยี รถของเราทุกรุ่นมีความละเอียด แม่นยำ และว่องไว แต่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความเป็นยานยนต์ในตระกูล M” แฟรงก์ ฟาน มีล ประธานบริหาร BMW M กล่าวถึงแนวคิดและการออกแบบ BMW M ให้กลายเป็นรถที่ได้รับการกล่าวขวัญมาอย่างยาวนาน

 

 

     ย้อนกลับไปในฤดูร้อนของปี 1985 BMW M3 คันแรกออกสู่ตลาดและสามารถทำยอดขายทั่วโลกได้มากถึง 17,970 คัน ชื่อเสียงของซีรีส์นี่ยิ่งเป็นที่โจษจัน เมื่อรถรุ่น E3 ของ โรแบร์โต ราวาเลีย สามารถชนะการแข่งขัน World Touring Car Championship ครั้งที่ 1 ได้ในปี 1987

     จนถึงวันนี้ นับเป็นเวลากว่า 30 ปีที่ BMW M ยังไม่หยุดมุ่งมั่นเพื่อสร้างตำนานใหม่ให้วงการยานยนต์ เมื่อล่าสุด BMW M3 ได้นำเทคโนโลยีสุดเหนือชั้น Carbon-Fibre-Reinforced Plastic (CFRP) มาประยุกต์ใช้เพื่อให้ตัวรถมีน้ำหนักเบาและมีความคล่องตัวมากขึ้น พร้อมๆ กับการเพิ่มประสิทธิภาพของคันเร่งและเบรกไปในตัว

 

 

     ทุกวันนี้ BMW M เป็นที่จดจำทั้งในและนอกสนามแข่ง ด้วยความมุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามทุกขีดจำกัด ทำให้สัญลักษณ์ M ไม่ใช่แค่ตัวอักษรธรรมดาทั่วไป แต่กลายเป็นหนึ่งในไอคอนแห่งชัยชนะที่ทรงพลังมากที่สุดในโลก

 

Where Too Much Is Just Right: M Fan Day 2017

     แฟนชาวไทยที่มีดีเอ็นเอนักแข่งอยู่ในสายเลือด พลาดไม่ได้กับกิจกรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่เปิดให้เหล่าสหาย ///M มารวมพลังเพื่อฉลอง 45 ปี BMW M และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแปรอักษรสัญลักษณ์ ///M ด้วยรถยนต์ BMW ซีรีส์ M จำนวน 54 คัน งานนี้นอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศสุดประทับใจของยานยนต์ระดับตำนานแล้ว ยังได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมสุดพิเศษที่จัดขึ้นเป็นพิเศษสำหรับสหาย ///M เท่านั้น

 

 

     มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของผู้ชนะได้พร้อมกันในวันเสาร์ที่ 9 กันยายนนี้ ตั้งแต่เวลา 16.00-20.00 น. ณ ลาน Square A, CentralWorld ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ BMW Thailand 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising