Berlin Marathon จากการแข่งขันในป่าสู่สนามสำหรับการทำลายสถิติโลก

     สำหรับนักกีฬาในการแข่งขันเทนนิสหรือกอล์ฟ ทุกคนต่างเฝ้าคอยที่จะลงสนามเพื่อแข่งขันรายการที่ขึ้นว่า ‘แกรนด์สแลม’ โดยทั้งกอล์ฟ (ชาย) และเทนนิส ต่างก็มีรายการแกรนด์สแลมปีละ 4 รายการ แต่สำหรับนักวิ่งมาราธอน สนามที่พวกเขาจะมุ่งหน้าคือ มาราธอนแกรนด์สแลม ซึ่งในแต่ละปีจะมีทั้งหมด 6 รายการ ประกอบไปด้วย โตเกียว มาราธอน, บอสตัน มาราธอน, ลอนดอน มาราธอน, ชิคาโก มาราธอน, นิวยอร์ก มาราธอน และเบอร์ลิน มาราธอน

     หนึ่งในการแข่งขันที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและใกล้จะมาถึงเต็มทีก็คือ เบอร์ลิน มาราธอน (Berlin Marathon) การแข่งขันมาราธอนระดับเมเจอร์ รายการที่ 4 ของปี ซึ่งจะจัดขึ้นทุกเดือนกันยายน ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี โดยปัจจุบันมีคนเข้าร่วมวิ่งทั้งหมด 40,000 คนในแต่ละปี เพื่อชิงความเป็นหนึ่งในสนามที่มีการทำลายสถิติโลกมาราธอนเยอะที่สุดในโลก

     โดยการแข่งขันรายการนี้จะแข่งขันกันในวันที่ 21-24 กันยายน 2017 ซึ่งนับว่าเป็นครั้งที่ 44 โดยครั้งแรกต้องย้อนไปเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 1974 ที่เมือง Grunewald จุดเริ่มต้นมาราธอนรายการนี้ใช้เส้นทางลัดเลาะผ่านป่านอกเมืองข้างๆ สนามกีฬาของผู้จัดการแข่งขันและผู้ก่อตั้งเบอร์ลิน มาราธอน นั่นคือชมรมกรีฑา เอสซี ชาร์ลอต สเตนเบิร์ก   

     ในยุคสงครามเย็นที่เยอรมนียังถูกแบ่งออกเป็นตะวันออกและตะวันตก การแข่งขันครั้งแรกมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 286 คน โดยผู้ชนะการแข่งขันครั้งแรกคือ Günter Hallas ที่วิ่งระยะทาง 42.195 กิโลเมตรได้ในเวลา 2 ชั่วโมง 44 นาที 53 วินาที

     การแข่งขันจัดขึ้นเป็นเวลาหลายปีจนมาถึงวันที่ 27 กันยายน 1981 ที่ฝ่ายจัดการแข่งขันได้รับโอกาสจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนในตัวเมืองของกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีตะวันตก โดยจุดเริ่มต้นอยู่ที่ Reichstag รัฐสภาเยอรมนี และจบที่ Kurfürstendamm

     ผู้ชนะคนแรกในเส้นทางการวิ่งในตัวเมืองคือ เอียน เรย์ (Ian Ray) จากสหราชอาณาจักร ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 15 นาที 41.8 วินาที ขณะที่ฝ่ายหญิงตกเป็นของ แองเจลิกา สตีเฟน (Angelika Stephan) จากเยอรมัน ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 47 นาที 23.5 วินาที โดยครั้งนั้นมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 3,486 คน จาก 30 ประเทศ และนับเป็นการแข่งขันมาราธอนที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนีในขณะนั้น

     หลังจากที่การแข่งขันถูกจัดขึ้นในตัวเมืองเบอร์ลิน และด้วยคุณภาพของการแข่งขันที่สูงขึ้นทุกปี ส่งผลให้ตัวเลขของผู้เข้าร่วมสูงขึ้นถึง 11,814 คน ในปี 1985 และ 4 ปีต่อมา เพียง 3 วันก่อนที่กำแพงเบอร์ลินจะถูกทลายลง ผู้เข้าร่วมการแข่งขันในปีนั้นทั้งหมด 25,000 คน ได้วิ่งผ่านประตูบรันเดนบูร์ก (Brandenburg) พร้อมกับน้ำตา และในวันนั้นเองที่เบอร์ลิน มาราธอน ได้รับชื่อเสียงว่าเป็นการแข่งขันมาราธอนที่เร็วที่สุดในโลก โดยผู้ทำสถิติในครั้งนั้นคือ สตีฟ โมเนเกตตี (Steve Moneghetti) จากออสเตรเลียที่ทำสถิติ 2 ชั่วโมง 8 นาที 16 วินาที

     หลังจากนั้นในเบอร์ลิน มาราธอน ได้มีการทำลายสถิติโลกอีกหลายครั้ง โดยเป็นการทำลายสถิติโลกของนักมาราธอนชาย 5 ครั้งหลังสุดเกิดขึ้นที่กรุงเบอร์ลิน ซึ่งผู้ที่ทำสถิติสูงสุดคือ เดนนิส คิเมตโต (Dennis Kimetto) นักวิ่งชาวเคนยา ที่ทำสถิติไว้ที่ 2 ชั่วโมง 2 นาที 57 วินาที ในการแข่งขันเบอร์ลิน มาราธอน ปี 2014

     สำหรับการแข่งขันเบอร์ลิน มาราธอน ครั้งที่ 44 นี้ มีผู้สนับสนุนหลักเป็น BMW บริษัทรถยนต์ชั้นนำของเยอรมนี ซึ่งเข้ามาให้การสนับสนุนเป็น Title Sponsor ตั้งแต่ปี 2011 ทำให้ชื่อรายการเต็มของการแข่งขันก็คือ BMW Berlin Marathon นั่นเอง

     ในตอนต่อไป เราจะพาไปสำรวจเส้นทางการแข่งขันมาราธอนรายการนี้ว่า ตลอดระยะทาง 42.195 กิโลเมตร นักวิ่งได้ผ่านแลนด์มาร์กอะไรที่น่าสนใจของกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของประเทศเยอรมนี และพาไปสำรวจว่า ทำไมการแข่งขันมาราธอนรายการนี้ถึงขึ้นชื่อว่าเป็นสนามสำหรับการทำลายสถิติโลกของการวิ่งมาราธอน