×

Blue Gate Crossing แด่ชีวิตวัยรุ่นที่อยู่ในความทรงจำตลอดไป

01.10.2022
  • LOADING...
Blue Gate Crossing

**บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์เรื่อง Blue Gate Crossing**

 

ย้อนกลับไปยังต้นปี 2000 หรือเมื่อ 20 ปีก่อน หนึ่งในภาพยนตร์จากทางฝั่งเอเชียที่กลายเป็นที่พูดถึงจากทั้งคนดูและนักวิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงเรื่องราวความอ่อนไหวของวัยรุ่นมากที่สุดคงหนีไม่พ้น ภาพยนตร์ Coming of Age สัญชาติไต้หวันอย่าง Blue Gate Crossing แน่นอน

 

Blue Gate Crossing คือผลงานของผู้กำกับ อี้จื้อเหยียน ว่าด้วยเรื่องราวของคนหนุ่มสาวในรั้วโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง เมื่อ หลิวเย่ว์เจิน (เหลียงชูฮุย) ได้แอบชอบ จางซือหาว (เฉินป๋อหลิน) เด็กหนุ่มนักกีฬาว่ายน้ำสุดป๊อปประจำโรง เธอจึงขอให้ เมิ่งเค่อโหรว (กุ้ยหลุนเหม่ย) เพื่อนสนิทของตนเป็นคนส่งจดหมายรักให้แทน แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อ จางซือหาว ได้รับจดหมายเขาดันเข้าใจผิดว่า เมิ่งเค่อโหรว เป็นเจ้าของจดหมายฉบับนั้นเสียเอง และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่จะพาผู้ชมไปดูเรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์ และนิยามของคำว่าวัยรุ่นในครั้งนี้

 

Blue Gate Crossing

 

หากพูดถึง ‘วัยรุ่น’ นิยามหรือคำจำกัดความของคำคำนี้คงมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น วัยแห่งการเรียนรู้ วัยแห่งการลองผิดลองถูก วัยแห่งความไร้เดียงสา วัยที่ชีวิตจะได้พบเจอกับสิ่งต่างๆ มากมาย วัยที่ความรู้สึกใหม่ๆ ถาโถมเข้าใส่อย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น ฯลฯ

 

แต่แท้จริงแล้วคำว่า ‘วัยรุ่น’ อาจหมายถึง ‘วัยแห่งความกลัว’ ด้วยเช่นกัน เพราะช่วงชีวิตในวัยนี้ช่างเต็มไปด้วยความเครียดและความวิตกกังวลในสิ่งต่างๆ มากมายที่ตัวเองกำลังจะต้องเผชิญ พวกเขาเชื่อว่าจะต้องมีคำตอบให้กับทุกคำถาม เชื่อว่าจะมีวิธีแก้ไข มีสมการ หรือแม้แต่มีทางลัดที่ให้คำตอบแก่ตัวเอง

 

และสำหรับตัวละครภายในภาพยนตร์เรื่องนี้เองก็ไม่ต่างกัน พวกเขามีช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยสับสนในความรู้สึกของตัวเองไม่ต่างกับวัยรุ่นปกติทั่วไป ถึงกระนั้นคนหนุ่มสาวภายในเรื่องก็ยังค้นหาคำตอบที่ตัวเองสงสัยอย่างไม่ลดละ แม้จะพบกับความเสียใจ หรือผิดหวังไปบ้าง แต่พวกเขาก็จะค้นหาคำตอบต่อไป

 

Blue Gate Crossing

 

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือการหยิบจับประสบการณ์ความรักเมื่อครั้งเยาว์วัยออกมาถ่ายทอดได้อย่างงดงามและลึกซึ้งกินใจ แม้จะเป็นพล็อตเรื่องที่พบเห็นกันได้ทั่วไปในยุคปัจจุบัน แต่หากย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อนพล็อตเรื่องของ Blue Gate Crossing ถือเป็นสิ่งที่สดใหม่มาก เพราะภาพยนตร์ไต้หวันส่วนใหญ่ในช่วงเวลานั้นมักจะมีแนวทางในการเล่าเรื่องที่เน้นไปทางชนชั้นแรงงานของสังคมที่มีฉากพื้นหลังเป็นชนบทอันห่างไกลความเจริญ และการมาของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่จุดประกายให้มีการสร้างภาพยนตร์รักวัยรุ่นตามมาอีกเป็นขบวน

 

อย่างไรก็ตาม แง่หนึ่งที่ภาพยนตร์ได้ชี้ชวนให้ผู้ชมเข้าไปสำรวจ คือความสับสนในอารมณ์ของวัยรุ่น โดยเฉพาะเรื่องของ ‘ความรัก’ คำว่า ความรัก อาจเป็นสิ่งที่เข้าใจง่ายและยากเกินกว่าจะเข้าใจในเวลาเดียวกัน เมิ่งเค่อโหรว ผู้แอบรักเพื่อนสนิทของตน แต่อีกใจเธอก็รัก จางซือหาว เหมือนกัน ทำให้เธอมักจะตั้งคำถามอยู่ตลอดว่าแท้จริงแล้วตัวเองชอบผู้ชายหรือผู้หญิง และการที่จะตอบคำถามนั้นเธอจึงต้องการที่จะจูบคนทั้งสองเพศสักครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะเรียนรู้และหาคำตอบให้กับตัวเองว่าแท้จริงแล้ว ‘ความรัก’ คือสิ่งที่ขึ้นตรงต่อหัวใจหรือเพศสภาพกันแน่?

 

ไม่เพียงแค่ เมิ่งเค่อโหรว เท่านั้นที่มีปัญหาเรื่องความรัก ทั้งตัวของ จางซือหาว หรือกระทั่งเพื่อนสนิทของเธออย่าง หลิวเย่ว์เจิน เองก็ไม่ต่างกัน เด็กหนุ่มผู้พยายามพิชิตใจเด็กสาวที่สับสนในตัวเอง และหญิงสาวผู้แอบรักชายหนุ่มที่หลงรัก (เพื่อนสนิท?) ของตน เรียกได้ว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งสามคือ รักสามเส้า ก็คงจะไม่ผิดนัก 

 

และการที่พวกเขาเหล่านั้นมักจะตั้งคำถามกับตัวเองอยู่ตลอดก็เป็นเหมือน ‘ความคลุมเครือ’ ในตัวของวัยรุ่นที่ถึงแม้วันหนึ่งอาจค้นพบคำตอบให้กับคำถามของตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าในระหว่างทางจะไม่สูญเสียสิ่งใดไป ซึ่งความคลุมเครือที่ว่าก็เหมือนกับปลายทางความสัมพันธ์ของคนทั้งสามที่ไม่ได้มีบทสรุปที่ชัดเจน เหมือนกับอนาคตที่ไม่มีทางรู้ว่าจะจบลงตรงไหน เพราะสิ่งเดียวที่รู้แน่ชัดอาจเป็นเพียงแค่ใครสักคนที่อยู่ในหัวใจตลอดไป 

 

และเมื่อหันกลับไปมองเรื่องราวในวันที่ผ่านมา สิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่อาจเป็นเพียงแค่ประสบการณ์ไร้สาระที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้าย เราก็คงไม่ได้เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่อย่างในทุกวันนี้

 

Blue Gate Crossing

 

ซึ่งความเป็นธรรมชาติของตัวละคร สถานที่ หรือกระทั่งเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในเรื่องก็ทำให้ Blue Gate Crossing กลายเป็นที่ถูกอกถูกใจของนักดูภาพยนตร์จากทั่วทุกมุมโลก จนหลายคนเทใจให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์คลาสสิกที่ว่าด้วยเรื่องราวความสับสนและการก้าวผ่านของวัยรุ่นที่ดีที่สุดตลอดกาล

 

นอกจากความเป็นธรรมชาติของภาพยนตร์แล้วสิ่งสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นที่จดจำคงหนีไม่พ้น เสียงดนตรีประกอบ (Instrument) ที่นอกจากจะช่วยส่งเสริมสถานการณ์และเรื่องราวของตัวละครแล้ว ยังอาจทำให้ผู้ชมหลายคนหวนรำลึกถึงเรื่องราวความรักวัยใสครั้งแรกในรั้วโรงเรียนของตัวเองอีกครั้ง

 

อีกสิ่งหนึ่งที่อดชื่นชมทั้งตัวนักแสดงและผู้กำกับเสียไม่ได้ ก็คือการออกแบบฉากและการกระทำของตัวละคร โดยเฉพาะฉากทะเลาะกันระหว่าง เมิ่งเค่อโหรว กับ จางซือหาว ที่ทำออกมาได้ราวกับพวกเขาทั้งสองคนกำลังเต้นรำอยู่ แม้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าจะดูตึงเครียดเสียจนไม่ชี้ชวนให้คิดแบบนั้น แต่เพราะการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มุมกล้อง ท่าทาง ไปจนถึงเสียงดนตรีประกอบก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่มองเห็นตรงหน้าอาจไม่ใช่ความหมายที่แท้จริงที่ผู้กำกับอย่าง อี้จื้อเหยียน ต้องการจะสื่อก็เป็นได้

 

Blue Gate Crossing

 

อีกด้าน Blue Gate Crossing ก็เป็นเหมือนม้วนฟิล์มที่คอยบันทึกชีวิตของคนหนุ่มสาวเอาไว้ และเมื่อเวลาผ่านไปเราในฐานะคนดูก็หวังว่าพวกเขาเหล่านั้นจะค้นพบคำตอบของคำถามที่ตัวเองได้เคยทิ้งเอาไว้ในอดีตเช่นกัน

 

“ฉันคือผู้หญิง ฉันรักผู้ชาย จางซือหาวเคยอยู่ที่นี่ I WAS HERE ฉันเคยอยู่ที่นี่”

 

แล้วอีก 3 ปี หรือ 5 ปี คุณจะโตไปเป็นคนแบบไหน? เป็นครูพละ? เป็นแม่คน? หรือเป็นคนที่อยู่ตรงนี้ อยู่ในความทรงจำของใครสักคนตลอดไป

Blue Gate Crossing มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้งเนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี ที่ House Samyan ระหว่างวันที่ 29 กันยายน – 2 ตุลาคม ในระบบฟิล์ม 35 มม. และวันที่ 3 ตุลาคมเป็นต้นไปในระบบดิจิทัล

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising