Bling Empire ซีซัน 2 ถึงจะแซ่บแต่ไม่ปัง เพราะยังขาดความนัว

Bling Empire ซีซันแรกประสบความสำเร็จอย่างมากในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย เพราะมันพาให้เราไปสัมผัสชีวิตเวอร์วังอลังการเข้าขั้นเพี้ยนของเหล่ามหาเศรษฐีเอเชียในแอลเอ จนมีแฟนๆ ตั้งตารอให้ซีซัน 2 มาไวๆ แต่ทำไมพอสตรีมซีซัน 2 เมื่อช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมากระแสกลับเงียบฉี่

เหตุที่ซีซันแรกประสบความสำเร็จ เพราะอย่างแรกเลยคือความสดใหม่ ที่คนทั่วไปเคยได้ยินอยู่หรอกว่าคนเอเชียรวย แต่ก็ไม่เคยมีใครไปโฟกัสเรื่องความรวยและไลฟ์สไตล์เวอร์วังของพวกเขา อย่างต่อมาก็คือในช่วงนั้นหนัง Crazy Rich Asian ก็เพิ่งลาโรงไปไม่นาน การได้ดูรายการเรียลิตี้รวยๆ แบบเอเชียจึงเหมือนการต่อยอดกระแสนั้นไปด้วย และเมื่อรวมกับเรื่องดราม่า ‘หาทำ’ ของเหล่านักแสดงแต่ละคน Bling Empire เลยให้รสชาติแซ่บนัวถูกใจผู้ชมที่ชอบคอนเทนต์แนวนี้

มาในซีซัน 2 ความเวอร์วังปังปุริเย่ก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปเลย เริ่มตั้งแต่ในอีพีแรกที่เราได้ตามติดชีวิตของ Christine Chiu ไปงาน Paris Fashion Week และกำลังจะไปร่วมปาร์ตี้เปิดเทศกาลภาพยนตร์ที่เมืองคานส์ แต่เมื่อตัวละครใหม่อย่าง Mimi Morris โทรชวนให้มาร่วมงานแต่งงานครบรอบ 10 ปีที่แอลเอ Christine ก็พร้อมเทงานเมืองคานส์แล้วบินกลับทันที เหมือนซื้อตั๋วกรุงเทพ-เชียงใหม่ยังไงยังงั้น จากนั้นก็เห็นการเปิดตัวแบบปังๆ ของ Mimi ภรรยาอภิมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินเกือบพันล้านดอลลาร์ ที่ทำให้นักแสดงคนอื่นๆ กลายเป็นยาจกไปเลย (ยกเว้น Anna Shey)

พาเหรดความเวอร์วังยังตามมาอีกหลายระลอก เช่น การจัดปาร์ตี้เลือกสัตว์เลี้ยงให้กับ Baby G ของ Christine (จริงๆแล้วซื้อลูกสุนัขสักตัวให้ลูกสักตัวก็คงจะพอแล้วมั้ง) โถส้วมประดับคริสตัลสวารอฟสกี้ของ Mimi และความไม่ยี่หระต่อทรัพย์สินเงินทองของ Anna แม้คริสตัลราคาหลายพันดอลลาร์จะตกแตกเกลื่อนพื้น ฯลฯ

ส่วนในพาร์ตดราม่าหาทำ ก็ยังไม่พร่องด้วยเรื่องราวสืบเสาะความลับของคู่รัก Cherie Chan และ Jessey Lee จนทำให้ทั้งคู่โบกมือลาจากรายการไปตั้งแต่อีพีที่ 3, การพยายามสานสัมพันธ์แบบคู่รักของ Kevin Kreider กับ Kim Lee และการปะทะกันของคู่แค้นตลอดกาลอย่าง Christine และ Anna รวมทั้งการมาถึงของ Dorothy Wang คู่ปรับตั้งแต่ชาติปางก่อนของ Kane Lim

อ่านมาถึงตรงนี้ก็ Bling Empire ซีซัน 2 ก็น่าจะฮือฮาไม่แพ้ซีซันแรก แต่ก็เพราะการย่ำอยู่กับความสำเร็จเดิมๆ นี่แหละ ทำให้ซีซันนี้ไม่ได้มีความว้าวซ่า! และยิ่งทำให้มองเห็นจุดบกพร่องของซีซันแรกที่เคยมองข้ามไปอีกต่างหาก

จริงอยู่ว่าคนดูคงไม่ได้ต้องการหาสาระจากเรียลิตี้โชว์แนวนี้ แต่ในซีซันนี้มันยิ่งทำให้เห็นความไร้สาระและแลดู ‘ว่าง’ เกินไปของนักแสดงบางคน อย่างเช่น Kane Lim ที่ความเป็นผู้นำหมายถึง ‘นำแต่เรื่องแต่ราว’ มาให้เพื่อนๆ ในกลุ่ม เริ่มตั้งแต่การเป็นเดือดเป็นร้อนกับเรื่องส่วนตัวของ Cherry และ Jessey, เอาเรื่องของ Kevin ไปบอกกับ Kim และเอาเรื่องของ Christine ไปปั่น Anna จนอยากจะยืมประโยคของคำแก้วในนาคีไปตะโกนใส่หน้าว่า “… อยู่กันดีๆ ไม่ได้ใช่ไหมมมม”

ความจริงก็เข้าใจว่าเรียลิตี้แนวนี้ต้องออกแนวปั่นให้เกิดดราม่า แต่ใน Bling Empire ซีซันนี้บางประเด็นมันคือเรื่องไม่เป็นเรื่องเกินไป อีกทั้งเรื่องราวต่างๆ มักเกิดจากตัว Ken จนทำให้เห็นตัวตนที่ต้องการการยอมรับจนต้องชอนไชไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของชาวบ้าน เหมือนพยายามเป็นผู้คุมกฎของกลุ่ม

ขณะที่การเปิดตัวละครใหม่ที่นัยว่าจะมาเพิ่มความแซ่บ หลังจากคู่รัก Cherry และ Jessey จากไปก็แลดูแบนราบและขาดเสน่ห์ ทั้งๆ ที่ถ้าไม่ลองค้นประวัติจะรู้ว่าทั้ง Dorothy Wang และ Mimi Morris ก็ไม่ธรรมดา อย่าง Dorothy เป็นลูกมหาเศรษฐีไต้หวันที่เกิดและเติบโตในเบเวอร์ลีฮิลส์ และยังเคยเป็นนักแสดงในรายการ Rich Kids of Beverly Hills มาแล้ว แต่กลับมาแบบตัวประกอบ ไม่ได้ลงลึกไปถึงไลฟ์สไตล์และตัวตนของเธอสักเท่าไร

ส่วน Mimi Morris นี่ยิ่งดราม่า เพราะเธอเป็นผู้อพยพที่เคยมีประสบการณ์ต้องซ่อนตัวอยู่ในหลุมใต้ดินกับครอบครัวถึง 2 ปีในช่วงสงครามเวียดนาม แต่ในซีซันนี้ผู้ชมก็ได้รู้จัก Mimi แค่ผิวๆ ทั้งที่เป็นตัวละครมีเสน่ห์ และความสัมพันธ์ของเธอกับสามีก็ดูน่ารักแบบเมียชาวเอเชียตัวจริง

ในซีซันนี้เพิ่มความน่าตื่นเต้นด้วยเซเลบริตี้ที่เป็นแขกรับเชิญเช่น Paula Abdul นักร้องชื่อดัง และ Nicola Formichetti ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของ Lady Gaga โดยรายแรกนั้นเข้าฉากมาแบบงงๆ แถมตอนที่ปรากฏตัวผู้เขียนยังรู้สึกอึดอัดแทนว่าจะให้เธอมารับรู้เรื่องราวดราม่าในกลุ่มนี้ทำไม ส่วนรายหลังดีขึ้นมาหน่อย เพราะช่วยมาเพิ่มสีสันในในฐานะคนสนิทของ Anna\

โดยรวมแล้ว Bling Empire ซีซัน 2 ก็ยังดูสนุกแต่ไร้เสน่ห์ และตัวละครไม่มีพัฒนาการสักเท่าไร ทำให้ทั้งซีซันขาดความกลมกล่อมอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งก็น่าหวั่นใจว่าจะมีซีซัน 3 ตามมาหรือเปล่า

Bling Empire ซีซัน 2 รับชมได้ทาง Netflix

อ้างอิง: