การที่รัสเซียเปิดฉากสงครามกับยูเครน ก่อให้เกิดผลกระทบที่ตามมาในหลายๆ ด้าน หนึ่งในนั้นคือการที่ BlackRock ผู้จัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของโลกมองว่า นี่คือจุดจบของโลกยุค ‘โลกาภิวัตน์’
แลร์รี ฟิงก์ (Larry Fink) นักธุรกิจมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ซึ่งเขาเป็นประธานและซีอีโอของ BlackRock บริษัทบริหารจัดการการลงทุนข้ามชาติสัญชาติอเมริกันได้ออกมาแสดงความเห็นว่า ‘การแยกตัวออกจากเศรษฐกิจโลก’ ของรัสเซียหลังการโจมตียูเครนทำให้รัฐบาลและบริษัทต่างๆ ต้องตรวจสอบการพึ่งพาประเทศอื่นๆ
“การรุกรานยูเครนของรัสเซียได้ยุติโลกยุคโลกาภิวัตน์ที่เราเคยประสบมาในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา” ซีอีโอของบริษัทซึ่งบริหารทรัพย์สินมูลค่า 10 ล้านล้านดอลลาร์กล่าวพร้อมคาดการณ์ว่า การแยกตัวของรัสเซียจะ ‘กระตุ้นให้บริษัทและรัฐบาลทั่วโลกประเมินการพึ่งพาของตนเองอีกครั้ง’ โดยบางประเทศอาจได้รับประโยชน์จากการมุ่งเน้นที่การสร้างอุตสาหกรรมในประเทศของตน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- อินเดียและรัสเซียอาจบรรลุข้อตกลงใช้เงินสกุลรูปีและรูเบิลชำระค่าสินค้าระหว่างกันภายในสัปดาห์หน้า
- เอกชนมองปัญหารัสเซีย-ยูเครนเป็น ‘วิกฤตซ้อนวิกฤต’ หวั่นซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าจากโควิด
ฟิงก์กล่าวว่า การระบาดใหญ่ของโรคโควิดได้ทำให้วงล้อเหล่านี้เคลื่อนไหวแล้ว โดยในช่วงต้นของการระบาดใหญ่ ประเทศต่างๆ ต่างพยายามดิ้นรนเพื่อจัดหาอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคลที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผลิตในจีน
เมื่อเศรษฐกิจกลับมาเปิดใหม่และอุปสงค์เพิ่มขึ้น ปัญหาคอขวดของห่วงโซ่อุปทานช่วยผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้สูงขึ้นถึงระดับที่ไม่เคยพบมาก่อนในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ ได้ส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่ผู้ผลิตรถยนต์ไปจนถึงบริษัทเทคโนโลยี
และตอนนี้การจู่โจมของรัสเซียต่อยูเครน ตามมาด้วยการคว่ำบาตรอย่างรวดเร็วจากตะวันตก รวมไปถึงการยุติของบริษัทต่างๆ (ซึ่งประเมินว่ามีมากกว่า 400 บริษัททั่วโลก) ได้ทำให้ตลาดส่งออกต่างประเทศหยุดชะงัก
ขณะเดียวกันสงครามให้ก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวในโลกพลังงาน โดยฟิงก์คาดการณ์ว่าการบริโภคถ่านหินอาจเพิ่มขึ้นในปีหน้า เนื่องจากยุโรปและเอเชียพยายามที่จะเลิกใช้น้ำมันและก๊าซของรัสเซีย แต่ราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นจะทำให้พลังงานหมุนเวียนสามารถแข่งขันได้มากขึ้น
“ในระยะยาว ผมเชื่อว่าเหตุการณ์ล่าสุดจะเร่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่แหล่งพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในหลายส่วนของโลก” นักธุรกิจมหาเศรษฐีชาวอเมริกันกล่าว
อ้างอิง: