เป็นอีกหนึ่งครั้งที่แฟนภาพยนตร์ทั่วโลกต้องรู้สึกเซ็งไปตามๆ กัน เมื่อต้องมาอ่านข่าวคราวการเลื่อนฉายของภาพยนตร์ที่พวกเขารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าสาวกของมาร์เวลที่ต้องอดทนรอกันต่อไป หลังมีการประกาศว่า Black Widow ผลงานเรื่องแรกจากมาร์เวล เฟส 4 จะถูกเลื่อนฉายไปอีก 6 เดือน จากกำหนดการเดิมที่จะต้องเข้าฉายวันที่ 6 พฤศจิกายนปีนี้ เป็นวันที่ 7 พฤษภาคมปีหน้า
โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่ Black Widow ถูกเลื่อนฉาย เดิมทีภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกวางไว้ให้เข้าฉายเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ด้วยผลกระทบมหาศาลที่เกิดจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้โรงภาพยนตร์หลายแห่งต้องหยุดทำการชั่วคราว อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยและความเสี่ยงด้านรายได้ที่ทางมาร์เวลและดิสนีย์ สตูดิโอผู้จัดจำหน่ายไม่อาจแบกรับ จึงส่งผลทำให้ Black Widow ต้องถูกเลื่อนฉายออกไป
ต้องบอกว่าการเลื่อนฉายของ Black Widow นั้นส่งผลกระทบเหมือนเป็นโดมิโน เพราะมันทำให้ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของมาร์เวลอย่าง The Eternals ที่จากเดิมมีกำหนดเข้าฉายวันที่ 6 พฤศจิกายนปีนี้ ต้องเลื่อนไปเป็นวันที่ 5 พฤศจิกายนปีหน้า และ Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings ที่จากเดิมมีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 7 พฤษภาคม 2021 ต้องเลื่อนไปเป็นวันที่ 9 กรกฎาคม 2021 เนื่องจากทางมาร์เวลได้เรียงไทม์ไลน์ของภาพยนตร์แต่ละเรื่องเอาไว้แล้วว่าเรื่องไหนต้องเข้าฉายก่อนหรือหลัง อีกทั้งการเลื่อนฉายของ Black Widow ในครั้งนี้ยังทำให้ปี 2020 จะกลายเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่พวกเราชาวโลกจะไม่ได้ชมภาพยนตร์จากจักรวาลมาร์เวลนับตั้งแต่ปี 2009 เพราะหลังจากที่ภาพยนตร์เรื่อง Iron Man 2 เข้าฉายในปี 2010 เราก็ได้รับชมภาพยนตร์จากมาร์เวลกันทุกปี
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีแค่ภาพยนตร์จากสตูดิโอมาร์เวลที่ถูกเลื่อนฉายออกไป แต่ยังมีภาพยนตร์อีกหลายเรื่องที่น่าสนใจและถูกเลื่อนวันฉายออกไปเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น West Side Story ของผู้กำกับรุ่นใหญ่อย่าง สตีเวน สปีลเบิร์ก ที่หยิบเอาบทละครบรอดเวย์ในชื่อเดียวกันมาดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์ และถือเป็นครั้งแรกที่เขาจะทำภาพยนตร์แนวมิวสิคัล มากกว่านั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ยังถูกยกให้เป็นตัวเต็งที่เตรียมกวาดรางวัลบนเวทีออสการ์อีกด้วย ตัวภาพยนตร์ถูกเลื่อนฉายจากวันที่ 18 ธันวาคม 2020 ไปเป็น 10 ธันวาคม 2021
มีการคาดการณ์ว่าสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทางสตูดิโอผู้สร้างและผู้จัดจำหน่ายหลายเจ้าไม่กล้าเสี่ยงที่จะนำภาพยนตร์ของพวกเขาเข้าฉายในช่วงเวลานี้เป็นเพราะมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องรายได้ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกายังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะนิวยอร์กและลอสแอนเจลิส สองเมืองที่เป็นตลาดใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์อเมริกา บวกกับการเห็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่หลายฝ่ายหวังให้มากอบกู้วิกฤตอย่าง Tenet ของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่แม้ว่าจะกวาดไปไม่น้อย แต่ก็ทำเงินไม่ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้สตูดิโอต่างๆ ต้องคิดหนักกันพอสมควร
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
