วันนี้ (19 พฤษภาคม) ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่ เวทีปราศรัยโค้งสุดท้ายของ รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) หมายเลข 7 มีการนำเสนอนโยบาย พร้อมผู้สนับสนุนร่วมปราศรัย โดยมี พล.ต. จำลอง ศรีเมือง อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และอดีตผู้ว่าฯ กทม. ปี 2528 และ 2531 ร่วมให้กำลังใจ
รสนาระบุว่า มั่นใจว่าประชาชนที่เคยเลือกตนเมื่อสมัยเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร ปี 2551 ประมาณ 7 แสนคน ครั้งนี้ก็จะต้องเลือกตนอย่างแน่นอน ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง ตนขอยึดพระบรมราโชวาทของรัชกาลที่ 9 ที่เคยพระราชทานไว้ว่า ต้องส่งเสริมคนดีให้มาปกครองบ้านเมือง จึงอยากย้ำชาว กทม. ว่าไม่ควรปล่อยให้คนไม่ดีมาปกครองบ้านเมือง ตนเชื่อว่าคน กทม. มีวุฒิภาวะและจะหยุดการทุจริตได้
รสนากล่าวต่อว่า เมื่อกรุงเทพฯ เปลี่ยนเป็นที่แรก ประเทศไทยก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน พร้อมมั่นใจว่าจะได้รับเลือกแน่นอน เพราะไม่เชื่อผลโพลที่มีการปั่นกระแส ตนจะหักผลโพลได้อย่างแน่นอน และจะไต่ขึ้นเป็นม้ามืดเพื่อชิงชัยให้ได้
ส่วนการที่มี พล.ต. จำลอง ออกมาสนับสนุนตนเอง ยอมรับว่าดีใจและภูมิใจมาก มองว่าผู้ใหญ่มองตนเองมีคุณสมบัติพอที่จะใช้งบประมาณบริหารกรุงเทพฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่กังวลว่าประชาชนจะสนใจเรื่องสีเสื้อ เพราะนั่นคือมายาคติให้ประชาชนแตกแยก
รสนายืนยันว่าไม่กังวล แม้ไม่มีผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) สนับสนุน เพราะผู้ว่าฯ ที่เป็นอิสระจะสามารถทำงานกับ ส.ก. ได้ง่ายกว่า ในการตรวจสอบ เพราะได้รับอิสระในการทำประโยชน์ให้กับประชาชนในเขต และกลับกันหากเป็นผู้ว่าฯ และ ส.ก. พรรคเดียวกัน จะไม่สามารถตรวจสอบกันได้
จากนั้นเวลา 20.05 น. รสนาได้ขึ้นเวทีปราศรัยและย้ำถึงนโยบายหยุดโกง กทม. เปลี่ยนแน่ แนะนำคนกรุงเทพฯ เลือกผู้ว่าฯ ที่หยุดการทุจริตและไม่ทำคอร์รัปชัน ตัวอย่างความเสียหายที่คนกรุงเทพฯ ต้องเจอตั้งแต่สมัยที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แต่งตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ เช่นเรื่อง การสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีเงินค่าจ้างหลายล้านบาท เรื่องนี้แม้จะมีปัญหา แต่ กทม. ยังปล่อยให้มีการเดินรถต่อ ส่วนตัวมองว่าเพื่อให้หนี้เหล่านั้นเป็นเงื่อนไขกับคน กทม. เอง
รสนายังกล่าวถึงประเด็นที่หลายคนตั้งคำถามว่า เมื่อไม่ใช่ผู้บริหารธุรกิจหรือนักการเมือง จะบริหารงาน บริหารงบหลายแสนล้านบาท ได้อย่างไร โดยระบุว่า ทุกวันนี้เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าการที่มีผู้บริหารบริหารงาน ระบบเศรษฐกิจ การศึกษา และสาธารณสุขของกรุงเทพฯ ย่ำแย่ขนาดไหน
สำหรับผลงานที่ผ่านมา เช่น การปราบการทุจริตเรื่องยา 1,400 ล้านบาทที่นักการเมืองร่วมกันแบ่งเค้กในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ตนต้องใช้เวลากว่า 6 ปีในการติดตามข้อมูลเพื่อเอาผิดกับนักการเมือง
การต่อต้านการทุจริตเป็นเรื่องที่คนหลายกลุ่มให้ความสำคัญ อย่างกลุ่มรุ่นใหม่ม็อบแฮมทาโร่ ก็เป็นการแสดงออกของกลุ่มเด็กที่ไม่ต้องการนักการเมืองทุจริตเช่นกัน
ขณะที่ พล.ต. จำลอง กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องเลือกรสนาเป็นผู้ว่าฯ กทม. เพราะมีคุณสมบัติเหมือนตน สะอาด ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ เสียสละ และพร้อมจะสานต่อนโยบายรถไฟฟ้าราคาถูก ลดลงมาเหลือ 20 บาทตลอดสาย
นอกจากนี้ มานพ เกื้อรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และสมาชิก ได้ขึ้นมอบมาลัยและกล่าวยืนยันให้การสนับสนุน
โดยบรรยากาศรอบเวทีปราศรัยมีแผ่นพลาสติกที่ตัดแต่งเป็นรูปอีกาสีขาวตกแต่งไว้โดยรอบ ซึ่งเป็นความตั้งใจของผู้จัดงานที่ต้องการสะท้อนว่าบริเวณนี้คือถิ่นอีกาขาวที่จะปราบคนโกง คนทุจริต ในกลียุค