โฆสิต สุวินิจจิต ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 24 กล่าวระหว่างดีเบต THE CANDIDATE BATTLE เวที THE STANDARD ในรอบที่ 2: YOUR QUESTION YOUR VOICE ว่า รากฐานของปัญหาหลายอย่างในกรุงเทพฯ มีต้นตอมาจากการที่คนขาดงาน ขาดรายได้
โฆสิตระบุว่า ทุกวันนี้ระบบขนส่งสาธารณะของกรุงเทพฯ ยังไม่เอื้ออำนวยและเชื่อมต่อกันอย่างที่ควรจะเป็น กล่าวคือ ยังไม่เป็นแบบ Door-to-Door คือเชื่อมจากบ้านไปถึงที่ทำงานได้อย่างในต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้วินมอเตอร์ไซค์ รวมถึงพนักงานไรเดอร์ทั้งหลาย ยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนกรุงเทพฯ อยู่ ซึ่งคนที่ทำอาชีพนี้นับแต่ช่วงโควิดเป็นต้นมา ส่วนหนึ่งหันมาทำอาชีพนี้เพราะตกงาน
ในส่วนของธุรกิจสถานบันเทิงก็เช่นกัน โฆสิตกล่าวว่า ตนเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ เพียงคนเดียวที่เคยทำงานอยู่ในธุรกิจสถานบันเทิงมาก่อน รู้ดีว่าผลกระทบจากการถูกสั่งปิด หรือการต้องพักงานเป็นเช่นไร
“ถามว่านักดนตรี นักร้อง นักแสดง ไปทำปัญหาให้ใคร เพลงไม่ได้มีปัญหากับใคร ดนตรีไม่ได้เป็นปัญหาอะไร เรื่องเหล้า สุรา ถ้ามีปัญหาก็ควบคุมเหล้า สุรา เพลงและดนตรีไม่มีปัญหากับใคร มันสามารถบำบัดคนได้ ทำให้คนมีความสุขได้ วันนี้กรุงเทพฯ ซึมเศร้ากันหมด เราต้องเอาความบันเทิงกลับมา”
อีกปัญหาคือเรื่องคนไร้บ้าน ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่ช่วงโควิดเป็นต้นมา ทั้งสามปัญหาที่ว่ามา โฆสิตชี้ว่า มีต้นตอมาจากปัญหาเดียวกัน คือคนไม่มีงาน ไม่มีเงิน ด้วยเหตุนี้จึงเสนอทางแก้ด้วยนโยบาย ‘กรุงเทพฯ 24 ชั่วโมง’ เริ่มจากการทำศูนย์ไกล่เกลี่ยหนี้ประจำชุมชน ซึ่งจะช่วยให้หลายคนลืมตาอ้าปากได้ เมื่อเคลียร์หนี้ได้แล้วก็ต้องมีงานทำ มีรายได้ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ด้วยนโยบาย ‘กรุงเทพฯ 24 ชั่วโมง’ กล่าวคือทุกคน ทุกอาชีพ ต้องกลับมาทำมาหากินได้ตามปกติตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ โฆสิตกล่าวถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ว่า กรุงเทพฯ มีจุดเด่นอยู่แล้วในแง่ความหลากหลายของวัฒนธรรม สามารถใช้จุดนี้มาจัดโซนนิ่งเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักได้ พร้อมทิ้งท้ายว่า “คนกรุงเทพฯ ทุกคนต้องมีเงินเหลือ”