วานนี้ (15 พฤษภาคม) ใหญ่-ฝันดี จรรยาธนากร นักแสดงและอาสาสมัครกู้ภัย หนึ่งในทีมที่ปรึกษาด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของ สกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) หมายเลข 3 กล่าวถึงการตัดสินใจเข้ามาร่วมทำงานในฐานะ ‘ทีมเพื่อนธี’ กับสกลธีว่า ที่เลือกมาร่วมทำงานกับสกลธีเพราะต้องการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ ซึ่งตนกับสกลธีถือว่าเป็นคนรุ่นเดียวกัน มีพลังเข้าไปขับเคลื่อนหรือช่วยแก้ปัญหาของคนกรุงเทพฯ ได้ เพราะในฐานะที่ตนเป็นคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ก็อยากเป็นส่วนหนึ่งในการเสนอแนะหรือบอกถึงปัญหาที่เราเจอและร่วมแก้ไขปัญหาไปด้วย
ฝันดีกล่าวว่า ที่ผ่านมาเห็นว่าสกลธีเป็นนักการเมืองที่ดี ทำให้มีความเชื่อมั่นจากทัศนคติที่ตรงกัน ซึ่งสิ่งสำคัญอยู่ที่การลงมือทำจริงและรวดเร็ว ซึ่งเรื่องนี้ตนยืนยันได้จากประสบการณ์ที่เคยได้รับจากการทำงานของนักการเมืองคนนี้ หลังจากที่ติดต่อไปแจ้งว่าให้มาช่วยแก้ไขเรื่องความปลอดภัยริมฟุตปาธ เพราะเห็นมีคนเอาเหล็กมาวางเพื่อเป็นทางเข้าร้านของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หลังจากนั้นเพียงวันเดียวก็เห็นว่าสิ่งนั้นหายไปแล้วและไม่เคยเห็นอีกเลย นั่นทำให้เห็นว่าถ้าคนทำงานและเอาใจใส่กับเสียงเล็กๆ น้อยๆ หรือว่าใครก็ตาม ย่อมจะนำพาสิ่งที่ดีมาในอนาคตได้ และยิ่งหากมีอำนาจเป็นผู้ว่าฯ อาจทำได้เต็มที่มากกว่านี้ พัฒนาและต่อยอดได้เลย เพราะหากจะทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่ ต้องเป็นคนที่ทำจริงๆ และลุยได้จริง
ฝันดีกล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนเข้ามาและอยากเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานในเรื่องที่ถนัดก็คือในส่วนของการบรรเทาสาธารณภัยหรือการป้องกัน Safety First เพราะชื่นชอบและรักในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย หรือเรื่องอะไรอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับผลกระทบของร่างกายและจิตใจ อยากเป็นส่วนหนึ่งเพราะที่ผ่านมาเห็นว่า ปัจจุบันตึกรามบ้านช่องใหญ่โต ตึกสูงก็มี ชุมชนแออัดก็มี ถ้าเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นมาจะแก้ไขอย่างไร ซึ่งตนได้เห็นสิ่งต่างๆ ตั้งแต่อดีตว่า เมื่อเกิดเหตุแล้วน่าจะช่วยเหลือได้เร็วกว่านี้แต่กลับช่วยไม่ได้ แต่หน่วยงานราชการที่มีหน้าที่โดยตรงทางด้านนี้ไม่สามารถตอบโจทย์ได้จริงจึงอยากเข้ามาแก้ไขในจุดบอดนี้
“คุณสกลธีบอกว่า ถ้ามีโอกาสเป็นผู้ว่าฯ สิ่งนี้มันมีอยู่แล้วผมจะสานต่อและจะทำให้ดีที่สุด ซึ่งคำว่าดีที่สุดมันมีจริงไหม จะทำได้ทันทีหรือเปล่า มันคือสิ่งที่อยู่ในใจผม ดังนั้นเราก็ต้องเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเขาเพื่อจะทำสิ่งนั้นให้เป็นจริง บางคนอาจจะมีการพูดที่เก่ง บางคนอาจจะพูดไม่เก่ง ทำเก่ง ปฏิบัติเก่ง แต่พูดไม่เก่ง เราจะช่วยเขาตรงไหน ในเมื่อถ้าเราพูดได้แล้วเราสามารถปฏิบัติได้ เราก็ต้องมาช่วยกัน เราจะยืนดูแล้วก็บอกว่า ทำไมไม่ทำอย่างนี้ ทำไมไม่ทำอย่างนั้น ก็ในเมื่อเราทำได้ก็ต้องมาช่วยกันสิครับ ดังนั้นผมจึงเข้ามาในจุดนี้ ซึ่งผมไม่รู้นะว่ามันจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่ผมอยากจะทำและอยากจะช่วยมากที่สุดก็คือ กรุงเทพฯ ฟ้าอมรของเราปลอดภัยอย่างแท้จริง แม้ว่าจะมีภัยหรืออะไรเกิดขึ้นแต่ก็ต้องหยุดและระงับได้เร็วที่สุดครับ” ฝันดีกล่าว
