×

อัปเดตสนามเลือกตั้ง กทม. พบ 7 เคสผู้สมัครผู้ว่าฯ-ส.ก. มีทั้งได้ไปต่อและถูกถอนการรับสมัคร

12.05.2022
  • LOADING...
อัปเดตสนามเลือกตั้ง กทม.

เหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์กับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ 

 

แต่ความเคลื่อนไหวว่าด้วยจำนวนผู้สมัครของทั้งสองเวทียัง ‘ไม่จบ’ เพราะล่าสุดเท่าที่ THE STANDARD ตรวจสอบ พบว่า มีผู้สมัคร ส.ก. ที่เสียชีวิต มีการประกาศถอนชื่อผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ออกจากบัญชีรายชื่อเพิ่มเติม การยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อให้ทุเลาการประกาศไม่รับสมัคร ตลอดจนการคืนสิทธิการเป็นผู้สมัครให้แก่ผู้สมัคร ส.ก. เกิดขึ้น

 

เกิดอะไรขึ้นบ้างกับสถานะของผู้สมัครจำนวนหนึ่ง THE STANDARD สรุปให้ดังนี้

 

กรณีที่ 1: ไกรเดช บุนนาค ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 19 สังกัดอิสระ – ถูกตัดสิทธิ รอปรึกษาทนาย

  • ไกรเดชถูกตัดสิทธิเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน เนื่องจากตรวจสอบพบว่าเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 50(3) แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ‘เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ’
  • ปรากฏว่าหลังถูกตัดสิทธิ ไกรเดชได้ยื่นคำร้องคัดค้านพร้อมพยานหลักฐาน แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สั่งให้ยกคำร้องดังกล่าว
  • THE STANDARD สอบถามไปยังไกรเดชล่าสุดได้ความว่า หลังถูกยกคำร้อง เขาเคยไปยื่นร้องต่อศาลปกครองแล้ว แต่เอกสารไม่ครบ ขณะนี้อยู่ระหว่างปรึกษากับทนายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ขณะที่วานนี้ (12 พฤษภาคม) รายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่า ยังไม่ทราบว่ามีการดำเนินการใดๆ จากฝั่งไกรเดช

 

กรณีที่ 2: สราวุธ เบญจกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 28 สังกัดอิสระ – ถูกตัดสิทธิ และผู้สื่อข่าวยังไม่สามารถติดต่อได้

  • THE STANDARD รายงานไปตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่ามีรายงานข่าวจาก กกต. ระบุว่า กกต. ได้วินิจฉัยและสั่งถอนชื่อ สราวุธ เบญจกุล อดีตเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 28 ออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากความปรากฏจากเหตุที่สราวุธถูกมติที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ให้ไล่ออกจากราชการ ตามรายงานข่าวของสำนักข่าวอิศราเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2565
  • ซึ่งกรณีนี้มีการประสานตรวจสอบไปยัง ก.ต. และพบว่า เหตุของการไล่ออกเป็นไปตามมาตรา 77(1) ประกอบมาตรา 77(3) ของ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 ซึ่งมาตรา 77(1) ระบุเหตุ ‘ทุจริตต่อหน้าที่ราชการ’ เข้ากับลักษณะต้องห้ามมิให้สมัครรับเลือกตั้งตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (8) ‘เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ’ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมกรณีสราวุธได้ที่ https://thestandard.co/bkk-election-2022-sarawut-benjakul/)
  • เราตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งวานนี้ (11 พฤษภาคม) พบรายงานข่าวจาก กกต. ว่ามีการส่งหนังสือแจ้งสราวุธถึงการถอนชื่ออย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งตามกฎหมาย เมื่อผู้สมัครรายดังกล่าวได้รับหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการแล้ว จะยังสามารถยื่นอุทธรณ์คำวินิจฉัยของ กกต. ต่อศาลอุทธรณ์ได้จนถึงก่อนวันเลือกตั้ง และคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ถือเป็นที่สิ้นสุด
  • THE STANDARD ยังไม่สามารถติดต่อสราวุธเพื่อสอบถามถึงกรณีนี้ได้ และหากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

 

กรณีที่ 3: ณัฐวีณ์ เปาชัย ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางนา หมายเลข  7 พรรครวมไทยยูไนเต็ด – ถูกตัดสิทธิ ไม่ยื่นคำร้องคัดค้าน

  • ณัฐวีณ์ถูกตัดสิทธิเป็นผู้สมัคร ส.ก. ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน จากเหตุเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 50(20) เนื่องจากเป็นผู้ถูกจำกัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งฯ (ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่) และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตกรุงเทพมหานครติดต่อกันน้อยกว่า 1 ปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
  • กรณีนี้ สำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กกต.กทม.) ให้สัมภาษณ์ว่า หลังถูกตัดสิทธิณัฐวีณ์ไม่ได้ยื่นคำร้องคัดค้านภายใน 3 วันตามที่กฎหมายกำหนด จึงเป็นอันว่ากรณีนี้สิ้นสุดแล้ว

 

กรณีที่ 4: อดิเทพ จาวลาห์ ผู้สมัคร ส.ก. เขตดุสิต หมายเลข 10 พรรคประชากรไทย – ได้รับการคืนสิทธิแล้ว กลับมาลงสนามได้

  • แต่เดิมอดิเทพนั้นเคยถูกประกาศตัดสิทธิเป็นผู้สมัคร ส.ก. ในวันที่ 11 เมษายน จากเหตุขาดคุณสมบัติตามมาตรา 49(3) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตกรุงเทพมหานครเป็นเวลาติดต่อกันน้อยกว่า 1 ปี
  • ทว่า กรณีนี้ สำราญ ตันพานิช ผอ.กกต.กทม. ระบุว่า อดิเทพได้ยื่นคำร้องคัดค้านหลังถูกตัดสิทธิ และ กกต. ได้มีคำวินิจฉัยพร้อมกับมีคำสั่งให้รับสมัครและประกาศรายชื่อของอดิเทพให้เป็นผู้สมัคร ซึ่งเท่ากับเป็นการคืนสิทธิให้อดิเทพเรียบร้อยแล้ว อดิเทพจึงสามารถกลับสู่สนามเลือกตั้งครั้งนี้ได้เป็นที่เรียบร้อย

 

กรณีที่ 5: พีรพล กนกวลัย ผู้สมัคร ส.ก. เขตพญาไท หมายเลข 7 พรรคก้าวไกล – ศาลปกครองสั่งทุเลาคำสั่งตัดสิทธิ กลับมาลงสนามได้

  • แต่เดิมพีรพลนั้นเคยถูกประกาศตัดสิทธิเป็นผู้สมัคร ส.ก. ในวันที่ 11 เมษายน เนื่องจากตรวจสอบพบว่าเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 50(3) แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ‘เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ’
  • ปรากฏว่าพีรพลยื่นคำร้องคัดค้านหลังถูกตัดสิทธิ ซึ่ง กกต. สั่งให้ยกคำร้อง และต่อมามีการยื่นเรื่องต่อศาลปกครอง และศาลปกครองได้มีคำสั่งทุเลาการประกาศไม่รับสมัครดังกล่าว แต่ปรากฏว่าวานนี้ (11 พฤษภาคม) ก็มีการไต่สวนของศาลปกครองกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล โดยไม่ประชาสัมพันธ์ชื่อ-เบอร์ของพีรพล หน้าหน่วยเลือกตั้ง ทั้งที่ศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาแล้ว
  • และในที่สุดพรรคก้าวไกลก็เปิดเผยว่า ศาลปกครองมีคำสั่งชัดเจนว่าให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครดำเนินการตามคำสั่งทุเลาโดยทันที ด้าน สุพจน์ หล้าจำศีล ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียน กรุงเทพมหานคร ยืนยันวานนี้ว่า ศาลได้ให้แนวปฏิบัติที่ชัดเจนขึ้นว่าต้องใช้แบบพิมพ์ใดในการประกาศรับสมัครพีรพล และได้เตรียมเอกสารไปติดประกาศหน้าหน่วยเรียบร้อย เท่ากับว่าพีรพลจะได้สิทธิกลับสู่สนามเลือกตั้งอีกครั้งเช่นกันไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง (อ่านรายละเอียดกรณีพีรพลได้ที่ https://thestandard.co/bkk-election-2022-peerapol-kanokwalai/)

 

กรณีที่ 6: สมเกียรติ ปานดำ ผู้สมัคร ส.ก. เขตสะพานสูง หมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์ – ถูกตัดสิทธิ แต่ยังมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ตามกฎหมาย ผู้สื่อข่าวยังไม่สามารถติดต่อได้

  • สมเกียรติเป็นผู้สมัคร ส.ก. รายล่าสุดที่ถูกถอนชื่อจากบัญชีรายชื่อผู้สมัคร โดย สำราญ ตันพานิช ผอ.กกต.กทม. เปิดเผยกับ THE STANDARD วานนี้ว่า ได้ส่งหนังสือแจ้งการถอนชื่อไปยังสมเกียรติแล้ว หลังตรวจพบเหตุว่ามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตกรุงเทพมหานครเป็นเวลาติดต่อกันน้อยกว่า 1 ปี และ กกต. สั่งให้ถอนชื่อ
  • ทั้งนี้ ตามกฎหมายสมเกียรติจะยังสามารถยื่นอุทธรณ์คำวินิจฉัยของ กกต. ดังกล่าวต่อศาลอุทธรณ์ได้ และการวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ถือเป็นที่สิ้นสุด
  • THE STANDARD ยังไม่สามารถติดต่อสมเกียรติเพื่อสอบถามถึงกรณีนี้ได้ และหากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

 

กรณีที่ 7: พรพิมล คงอุดม ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางซื่อ หมายเลข 2 พรรคไทยสร้างไทย – เสียชีวิต

  • พรพิมลเสียชีวิตในวัย 59 ปี ตามรายงานข่าวเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา และนำมาซึ่งการร่วมแสดงความเสียใจและไว้อาลัยของบุคคลในแวดวงการเมือง
  • สำราญ ตันพานิช ผอ.กกต.กทม. ระบุว่า กรณีนี้ถือว่าหมายเลขดังกล่าวไม่มีผู้สมัคร ใครที่กาหมายเลขดังกล่าวจะถือเป็นบัตรเสีย
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising