×

BJC – พรีวิว 4Q65 กำไรจะทำจุดสูงสุดของปี 2565

01.02.2023
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

InnovestX Research ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 4Q65 ของ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ซึ่งคาดว่าจะรายงานผลประกอบการวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BJC ปรับเพิ่มขึ้น 7.80%MoM สู่ระดับ 38.00 บาท ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 0.17%MoM สู่ระดับ 1,671.46 จุด

 

พรีวิวผลประกอบการ 4Q65:

InnovestX Research คาดการณ์กำไรสุทธิ 4Q65 ที่ 1.55 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%YoY และ 66%QoQ โดยประเมินว่าจะไม่มีรายการพิเศษ ดังนั้นกำไรปกติ 4Q65 จะอยู่ที่ 1.55 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13%YoY และ 74%QoQ กำไรปกติที่เพิ่มขึ้น YoY จะได้รับการสนับสนุนจากยอดขายและรายได้ค่าเช่าและอื่นๆ ที่ดีขึ้น ขณะที่กำไรปกติที่เพิ่มขึ้น QoQ เป็นผลมาจากปัจจัยฤดูกาล 

 

โดยยอดขายใน 4Q65 คาดว่าจะเติบโต 5%YoY สู่ 3.9 หมื่นล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากกลุ่ม MSC และกลุ่ม PSC ยอดขายกลุ่มสินค้าและบริการทางการค้าปลีกสมัยใหม่ (MSC) คาดว่าจะเติบโต 5%YoY จากการเติบโตของยอดขายสาขา (SSS) และการขยายสาขา ซึ่ง SSS น่าจะกลับมาเติบโต 2.5%YoY (เทียบกับลดลง 0.1%YoY ใน 4Q64 และลดลง 2.4%YoY ใน 3Q65) หรือเติบโต 5%YoY 

 

หากไม่รวมยอดขายกลุ่ม B2B (BJC ได้ปรับลดยอดขายกลุ่ม B2B ที่สามารถทำกำไรได้น้อยใน 4Q65TD) ด้านโมเมนตัม SSS ลดลงเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับกลาง YoY ในเดือนตุลาคม เนื่องจากฝนตกหนักและน้ำท่วม แต่เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับกลาง YoY ในเดือนพฤศจิกายน และตัวเลขหลักเดียวระดับสูง YoY ในเดือนธันวาคม เพราะไม่มีฝน 

 

กิจกรรมทางเศรษฐกิจดีขึ้น นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และมีอีเวนต์ World Cup ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน – 18 ธันวาคม SSS มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในส่วนของ Big C Mini ตามด้วยไฮเปอร์มาร์เก็ต โดยยอดขายสินค้ากลุ่มอาหารจะเติบโตดีกว่ายอดขายสินค้ากลุ่มที่ไม่ใช่อาหาร 

 

ส่วนยอดขายกลุ่มสินค้าและบริการทางบรรจุภัณฑ์ (PSC) คาดว่าจะเติบโต 12%YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายบรรจุภัณฑ์แก้วและกระป๋องอะลูมิเนียมที่ดีขึ้น ยอดขายกลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภค (CSC) คาดว่าจะลดลง 8%YoY เนื่องจากการย้ายการรับรู้รายได้ด้านโลจิสติกส์ของ Bic C ออกจากกลุ่ม CSC ไปยังกลุ่ม MSC จะไปหักล้างยอดขายที่ดีขึ้นจากธุรกิจอาหารและธุรกิจอุปโภค 

 

สำหรับมาร์จิ้นใน 4Q65 คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง 20bps YoY สู่ 19.3% เนื่องจากมาร์จิ้นที่กว้างขึ้นที่กลุ่ม MSC จากการมีส่วนผสมสินค้าที่ดีขึ้น ยอดขายกลุ่ม B2B ที่ให้มาร์จิ้นต่ำที่ลดลงและการบริหารจัดการกิจกรรมส่งเสริมการขายและสินค้าคงคลังได้ดีขึ้นจะถูกลดทอนลงบางส่วน โดยมาร์จิ้นที่อ่อนแอลงที่กลุ่ม PSC (ต้นทุนวัตถุดิบพลังงาน โซดาแอช และอะลูมิเนียมสูง) และกลุ่ม CSC (ต้นทุนเยื่อกระดาษที่สูงขึ้นไปหักล้างต้นทุนน้ำมันปาล์มที่ลดลง) 

 

ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A / ยอดขาย คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ 20.1% เพิ่มขึ้น 10bps YoY เพราะค่าใช้จ่าย SG&A (ค่าสาธารณูปโภค) เพิ่มขึ้นมากกว่ายอดขายเล็กน้อย รายได้ค่าเช่าและอื่นๆ คาดว่าจะเติบโต 8.5%YoY โดยเกิดจากการให้ส่วนลดค่าเช่าแก่ผู้เช่าลดลงและอัตราการเช่าพื้นที่ที่สูงขึ้น และคาดว่า EBIT Margin จะลดลง 30bps YoY สู่ 7.9% โดยเกิดจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงและอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A / ยอดขายที่สูงขึ้น  

 

กลยุทธ์การลงทุนและแนวโน้มผลประกอบการปี 2566:

กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นใน 1Q66TD ช่วยหนุนให้ SSS เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับต่ำถึงกลาง YoY (SSS เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับกลาง YoY หากไม่รวมยอดขายกลุ่ม B2B ใน 1Q66TD) 

 

InnovestX Research คาดว่ากำไร 1Q66 จะเติบโต YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายและรายได้ค่าเช่าที่ดีขึ้น แต่จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ปี 2566 คาดว่ากำไรปกติจะเติบโต 15%YoY โดยกลยุทธ์การลงทุนที่เรตติ้ง Outperform สำหรับ BJC ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 42 บาทต่อหุ้น

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ การเปลี่ยนแปลงในด้านกำลังซื้อและต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising