Bitkub Blockchain Technology เผย ‘สำเร็จ วจนะเสถียร’ ซึ่งเป็น CTO ยังปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งปกติ จนกว่าจะเกิดความชัดเจนในกระบวนการทางกฎหมาย ยืนยันบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีผู้บริหารใช้ข้อมูลภายในซื้อเหรียญ KUB ขณะที่สำเร็จชี้แจงความบริสุทธิ์ใจซื้อเหรียญ KUB ยืนยันไม่รู้ดีลซื้อหุ้น
บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด (Bitkub Blockchain Technology) เผยแพร่ประกาศผ่านเพจ Facebook ของบริษัทว่า สำเร็จ วจนะเสถียร CTO ยังปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งตามปกติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ย้อนรอยมหากาพย์ SCBX-Bitkub ก่อนดีลล่ม ปิดฉากยูนิคอร์นตัวใหม่ของไทย
- ธปท. เผย ดีล SCBS-Bitkub ล่มด้วยเหตุผลทางธุรกิจ ย้ำที่ผ่านมายังไม่เคยยื่นเรื่องขอซื้อหุ้นอย่างเป็นทางการ
- ส่อง 8 บริษัทจดทะเบียนที่ยังร่วมเป็นพันธมิตรกับ Bitkub
สืบเนื่องจากข่าวสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฉบับที่ 135/2565 เรื่อง ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 1 ราย กรณีซื้อเหรียญ KUB โดยอาศัยข้อมูลภายใน ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2565 นั้น บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด (‘บริษัท’) ขอแจ้งให้ทราบว่า สำเร็จ วจนะเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี (Chief Technology Officer: CTO) ยังปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าวตามปกติ จนกว่าจะเกิดความชัดเจนในกระบวนการทางกฎหมาย โดยบริษัทจะติดตามและเรียนแจ้งให้ลูกค้าและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านทราบต่อไป
จากกรณีดังกล่าวบริษัทขอยืนยันว่า บริษัทไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ตลอดจนการพัฒนาเครือข่าย Bitkub Chain และการดำเนินการของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด
บริษัทขอเรียนให้ลูกค้าและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านทราบว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาและต่อไปในอนาคต บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเครือข่าย Bitkub Chain ตามแผนงานที่ได้ให้คำมั่นสัญญากับสาธารณะชนดังที่นำเสนอผ่านเอกสาร Whitepaper ด้วยความมุ่งหวังที่จะให้ Bitkub Chain เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัลที่แข็งแรงของประเทศไทยให้ทัดเทียมกับเครือข่ายบล็อกเชนชั้นนำระดับโลก ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถเข้าถึงได้ และสร้างประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียมและโปร่งใสต่อไป
ขณะเดียวกัน สำเร็จ วจนะเสถียร ได้โพสต์ข้อความผ่าน Facebook ส่วนตัว ระบุถึงกรณีที่ถูก ก.ล.ต. ลงโทษทางแพ่ง กรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อเหรียญ KUB ว่า ตามที่ ก.ล.ต. ได้กล่าวหาผมเรื่องการใช้ข้อมูลภายในสำหรับการซื้อเหรียญ KUB ของผม ระหว่างวันที่ 4 กันยายน 2564 – 2 พฤศจิกายน 2564 นั้น ผมอยากจะใช้ช่องทางนี้เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและความบริสุทธิ์ใจของผม ดังนี้
ผมรู้กฎหมายเรื่อง Insider Trading เป็นอย่างดีว่าเวลาผมทำโปรเจกต์ ผมก็จะซื้อ KUB ไม่ได้ ดังนั้นผมจะมีช่วงเวลาสั้นๆ หลังโปรเจกต์เปิดตัว และยังไม่ได้เริ่มโปรเจกต์ใหม่ที่ผมจะลงทุนซื้อ KUB ได้ โดยก่อนหน้าช่วงเวลาดังกล่าวผมอยากซื้อ KUB ในราคาที่ต่ำกว่า 30 บาท แต่ซื้อไม่ได้ เนื่องด้วยผมทำโปรเจกต์ Morning Moon ก่อนหน้านี้ สุดท้ายผมรอโปรเจกต์ Morning Moon เปิดตัว เลยต้องซื้อ KUB ได้ที่ราคา 30-32 บาท เพราะหากไม่ซื้อภายในช่วงเวลาดังกล่าว ผมก็จะต้องเริ่มโปรเจกต์ใหม่ และจะทำให้ผมไม่สามารถซื้อ KUB ได้อีกนาน ส่วนเวลาก่อนหน้านี้ก็ซื้อเพื่อแลกเป็นค่าธรรมเนียมการเทรดใน Exchange ทันที
ช่วงเวลาที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษ ผมเป็นผู้บริหาร BBT ซึ่งเป็นคนละบริษัทกับ Exchange ดังนั้นผมกล้าพูดได้ว่าผมไม่รู้เรื่อง SCB ดีลใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าผมรู้ผมคงขาย WAN, SNT, BNB, Ethereum ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 4 ล้านบาทแล้ว และคงลงเงินกับ KUB ไปให้หมดไปแล้ว ซึ่งจำนวนเงินที่ผมลงทุนใน KUB ก็ใกล้เคียงกับเหรียญอื่นๆ ที่ผมมีส่วนตัว เป็นจำนวน 60,000 KUB ผมมองว่าจำนวนไม่ได้ผิดแปลก แต่เป็นความบังเอิญที่เป็นเวลาที่เขาทำดีลกันพอดี
การซื้อเหรียญ KUB ของผมมีวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุนระยะยาว ดังจะเห็นได้ว่า หากผมซื้อเหรียญ KUB โดยมีเจตนาที่จะมุ่งหวังทำกำไรระยะสั้นแล้ว ผมคงเทขายเหรียญ KUB ทั้งหมดเพื่อทำกำไรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ผมยังไม่ได้ขายเหรียญ KUB ดังกล่าวเพื่อทำกำไรแต่อย่างใดจนถึงวันนี้ที่ผมพิมพ์ มีส่วนหนึ่งที่เอาไปแลกค่าธรรมเนียมการเทรดใน Exchange เท่านั้น
เรื่องราวทั้งหมดผมได้บอก ก.ล.ต. แล้ว แต่ทาง ก.ล.ต. ก็ยังตัดสินลงโทษอยู่ ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีหลักฐานชัดเจนว่าผมกระทำผิด ผมจึงจะขอต่อสู้ในกระบวนการทางกฎหมายต่อไป ผมขอยืนยันว่า ผมบริสุทธิ์ใจและยืนหยัดที่จะพัฒนาเทคโนโลยีของ Bitkub Chain ต่อไป เพื่อให้ประเทศไทยมีเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ดีและได้มาตรฐาน เพื่อให้คนไทยได้ใช้งานอย่างแพร่หลาย
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP