Bitcoin พุ่ง 25% ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หนึ่งในสินทรัพย์ที่ร้อนแรงที่สุดท่ามกลางวิกฤต

Bitcoin กลายเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยราคาที่พุ่งขึ้นราว 25% มาสู่ระดับ 27,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางวิกฤตสภาพคล่องของหลายสถาบันการเงิน

การพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin ในรอบสัปดาห์ที่เกิดขึ้น มากกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาถึง 10 เท่า โดยปัจจัยหนุนสำคัญอย่างหนึ่งคือการที่ธนาคาร 3 แห่งในสหรัฐฯ ล้มลง รวมทั้งปัญหาสภาพคล่องที่เกิดขึ้นกับธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง Credit Suisse Group ทำให้ตลาดคาดหวังว่าจะเป็นจุดจบของการใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวของธนาคารกลางทั่วโลก ขณะเดียวกัน Bitcoin ยังถูกมองว่าจะเป็นสินทรัพย์ที่เข้ามาแทนที่เงินตราแบบเก่า (Fiat Currency)

Kunal Goel นักกลยุทธ์ของ Messari ซึ่งเชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัล กล่าวว่า “ ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นกับกลุ่มสถาบันการเงินของสหรัฐฯ มีโอกาสจะทำให้ Fed ผ่อนคลายมากขึ้น และช่วยย้ำภาพของ Bitcoin สำหรับการเป็นสินทรัพย์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเงินดั้งเดิม”

ตลาดการเงินคาดว่าจุดพีคของการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ ตามมาด้วยการกลับมาปรับลดอัตราดอกเบี้ยราว 0.7% ในปีนี้ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ

Noelle Acheson ผู้เขียนบทความชื่อ Crypto is Macro now กล่าวว่า “สัญญาณใดๆ ของการหั่นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้กองทุนขยับเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งมีแนวโน้มจะทำให้นักลงทุนสถาบันหันมาลงทุนในคริปโตมากขึ้น โดยไม่สนใจว่าเทรดเดอร์จะเข้าใจหรือเชื่อในอนาคตระยะยาวของการลงทุนใน Bitcoin หรือไม่”

อย่างไรก็ตาม ในมุมของหน่วยงานกำกับของสหรัฐฯ อาทิ ก.ล.ต. ยังคงมองว่า Bitcoin ไม่ใช่หลักทรัพย์ แต่กลับมองว่าสินทรัพย์ดิจิทัลส่วนใหญ่เป็นหลักทรัพย์ แต่จำเป็นจะต้องพัฒนากลไกในการปกป้องผู้ลงทุนที่มากขึ้น

ขณะที่ Markus Thielen หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Matrixport มองว่า มุมมองที่แตกต่างกันของฝ่ายกำกับเป็นผลบวกต่อ Bitcoin ขณะที่ยังมีความกังวลต่อ Stablecoin ทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนใน Bitcoin มากขึ้น

ปัจจุบัน Bitcoin ครองสัดส่วน 43% ของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดนับแต่เดือนมิถุนายน 2022 โดยตลอดทั้งปี 2023 ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นมาแล้ว 63% แต่ยังคงต่ำกว่าสถิติสูงสุดที่ 69,000 ดอลลาร์ ซึ่งเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2021

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

อ้างอิง: