×

บิทคอยน์กำลังถูกท้าทายในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงอีกครั้ง เมื่ออัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นสร้างความวุ่นวายในตลาด

01.10.2023
  • LOADING...
บิทคอยน์

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้เกิดความวุ่นวายในตลาดการเงิน ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 6.6% ในเดือนกันยายนเพียงเดือนเดียว อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.7% เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2007 สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มลังเลมากขึ้นที่จะรับความเสี่ยงในการถือครองพันธบัตรระยะยาว แม้จะออกโดยรัฐบาลเอง บิทคอยน์กำลังถูกตั้งคำถามอีกครั้งว่าจะเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อได้จริงหรือ

 

ความปั่นป่วนทางตลาดการเงิน ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่สูง

 

ตลาดพันธบัตรของสหรัฐฯ สูญเสียมูลค่าถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา สิ่งนี้ทำให้นักลงทุนตั้งคำถามว่าบิทคอยน์และสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง รวมถึงตลาดหุ้นจะต้องยอมจำนนต่อภาวะดอกเบี้ยสูงไปอีกนานหรือไม่

 

ตราบใดที่อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูง ความเสี่ยงต่อความไม่มั่นคงทางการเงินก็จะเพิ่มขึ้น และการล่มสลายของธนาคาร Silicon Valley, First Republic Bank และ Signature Bank เป็นสัญญาณเตือนอย่างหนึ่งถึงความไม่มั่นคงของระบบการเงิน อย่างไรก็ตาม นี่อาจเป็นประโยชน์ต่อบิทคอยน์ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่หายาก (Scarcity) เมื่อพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และฐานะงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ลดลง 

 

บิทคอยน์ในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

 

นักลงทุนมหาเศรษฐี Paul Tudor Jones เคยแสดงความเห็นว่า เขามั่นใจใน BTC ในการป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ ในขณะที่ Mark Cuban เจ้าของและนักลงทุนของ Dallas Mavericks มองว่าแนวคิดนี้เป็นเพียงการตลาดของบิทคอยน์เท่านั้น

 

จากราคาปัจจุบันของวันนี้ (1 ตุลาคม) ณ เวลา 13.00 น. ราคา BTC ซื้อขายอยู่ที่ 27,000 ดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้น 1.9% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา 

 

หลายคนอาจโต้แย้งว่าทฤษฎีป้องกันเงินเฟ้อของ BTC ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นความจริง เพราะมูลค่าของตลาดสกุลเงินดิจิทัลโดยรวมลดลงพร้อมกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น Anjali Jariwala นักวางแผนทางการเงินและผู้ก่อตั้ง Fit Advisors แสดงความเห็นว่า ความผันผวนของราคาที่สูง ทำให้เป็นเรื่องยากต่อการกักเก็บมูลค่าในระยะยาว เขายังกล่าวอีกว่าตลาดคริปโตยังคงเป็นการลงทุนที่มีการเก็งกำไรสูง 

 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายมองว่าสกุลเงินดิจิทัลหลักอย่าง BTC อาจเป็นที่ต้องการในสภาพแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยสูง เนื่องจากปริมาณที่จำกัดของบิทคอยน์ที่มีเพียง 21 ล้านเหรียญจะช่วยปกป้องมูลค่าของมันในช่วงเวลาที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น ต่างจากธนาคารกลางที่สามารถเพิ่มปริมาณเงินได้ตามที่ต้องการ แต่ประวัติที่สั้นของบิทคอยน์อาจสั้นเกินกว่าจะพิสูจน์สิ่งนี้ในเวลานี้ ตลาดสกุลเงินดิจิทัลอาจต้องพัฒนาอย่างเต็มที่กว่าเราจะได้เห็นบทบาทที่แท้จริงของ BTC ก็เป็นได้ 

 

การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น  

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising