‘สู้ไปด้วยกัน เพื่อฝ่าวิกฤต’ ราวกับเป็นสโลแกนปลุกใจที่เหมาะจะใช้กับสถานการณ์ตอนนี้ แต่ในโลกธุรกิจที่การฝ่าวิกฤตหลายระลอกและความท้าทายบนโลกที่เปลี่ยนแปลงนับครั้งไม่ถ้วน คงมีเรื่องราวการต่อสู้และปรับตัวของแบรนด์มากมายให้เรียนรู้ไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือ ‘เบอร์ดี้’
ปี 2536 คนไทยรู้จัก ‘เบอร์ดี้’ ในฐานะแบรนด์กาแฟจากญี่ปุ่นภายใต้แบรนด์ใหญ่อย่าง บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่บุกเบิกตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มรายแรกของไทย การปรากฏตัวในครั้งนั้นปลุกกระแสให้กับคนที่ชอบดื่มกาแฟลอง ‘ปรับเปลี่ยน’ พฤติกรรม หันมาดื่มกาแฟกระป๋องที่สะดวกสบาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มคนทำงานที่ต้องการดื่มกาแฟเพื่อความสดชื่นก่อนลุยงาน แต่ก็ยุ่งยากเกินที่จะหากาแฟดื่มระหว่างไปทำงาน
นี่ไม่ใช่การปรับตัวไปพร้อมผู้บริโภคครั้งแรกของ ‘เบอร์ดี้’ เพราะก่อนที่จะบินข้ามน่านน้ำมาเมืองไทย ‘เบอร์ดี้’ ลงแข่งในตลาดกาแฟกระป๋องที่ญี่ปุ่นมาก่อนด้วยโจทย์ที่ต้องการเป็นกาแฟกระป๋องรสชาติดี เน้นความสะดวก จึงวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน และร้านโชห่วย จนประสบความสำเร็จ ตอบโจทย์กาแฟพร้อมดื่มที่มีรสชาติเข้มข้น ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น มีพลังพร้อมสู้กับวันใหม่ กลายเป็นอิมเมจของคนทำงานที่พร้อมลุย พร้อมสู้ ก็ต้องดื่มกาแฟกระป๋อง
เมื่อ ‘กาแฟ’ เชื่อมโยงกับ ‘เทรนด์สุขภาพ’ สนามใหม่ที่เบอร์ดี้ต้อง ‘สู้อีกครั้ง พัฒนาไปอีกขั้น’
ต่อให้เบอร์ดี้เป็น ‘หนึ่งในใจคุณ’ ครองเบอร์ 1 ตลาดกาแฟพร้อมดื่ม RTD มายาวนาน แต่เมื่อโลกเปลี่ยน เบอร์ดี้ก็ต้องปรับ เมื่อระฆังยกต่อไปตีบอกศึกครั้งนี้ คือตลาดที่ผู้บริโภคมองหาคีย์เวิร์ด ‘หวานน้อย’ บนสินค้า ส่งผลให้เบอร์ดี้ต้องสู้ด้วยการปรับสูตรใหม่ ส่ง ‘เบอร์ดี้ แบล็ค สูตรน้ำตาลน้อย’ และ ‘เบอร์ดี้ โรบัสต้า สูตรน้ำตาลน้อย’ ภายใต้คอนเซปต์ ‘กาแฟรสชาติเข้มเต็มร้อย แต่น้ำตาลน้อยลงถึง 50%’ มาพร้อมสัญลักษณ์ ‘ทางเลือกเพื่อสุขภาพ’ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่หันมาใส่ใจเกี่ยวกับโภชนาการและต้องการลดปริมาณการบริโภคน้ำตาลลง
โควิด-19 สนามรบที่ทุกคนต้อง ‘สู้ไปด้วยกัน เพื่อฝ่าวิกฤต’
วิกฤตใหม่สำหรับทุกคนและทุกธุรกิจ การรับมือกับโรคอุบัติใหม่พร้อมกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป มาตรการล็อกดาวน์ ปิดประเทศ การท่องเที่ยวที่หยุดชะงัก ล้วนส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจทั้งสิ้น ระลอกแรกผลกระทบที่เบอร์ดี้ได้รับมากสุดคือยอดขายในร้านสะดวกซื้อลดลง ผู้บริโภคออกมาซื้อของน้อยลง ทำให้เบอร์ดี้ต้องปรับตัวครั้งใหญ่ เปลี่ยนช่องทางการจำหน่าย ปรับมาขายออนไลน์มากขึ้น อัดโปรโมชันเพื่อช่วยเหลือคนไทยในช่วงที่ต้องเซฟเงินในกระเป๋าและหันมาเจาะกลุ่มสินค้า เบอร์ดี้ 3in1 เพื่อให้ลูกค้าซื้อติดบ้านในช่วง WFH
‘ถึงเวลาที่คนรุ่นใหม่ หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น’ สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ส่ง ‘เบอร์ดี้ แบล็ค ซีโร่’ กาแฟดำ สูตรน้ำตาล 0% ลุยตลาด Gen Y
เทรนด์รักสุขภาพมาชิมลางตลาดก่อนเกิดวิกฤตและมีทีท่าว่าจะไปได้ดี จนกระทั่งวิกฤตโควิดป็นตัวเร่งให้ ‘สุขภาพ’ กลายเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน หลังจากเผยผลวิจัยในประเทศไทยพบว่า คนไทยเป็นโรคอ้วนและเบาหวานมากขึ้น สิ่งที่แบรนด์ Birdy® สามารถทำเพื่อคนไทยได้ โดยที่ยังอยู่เคียงข้างทุกการเดินทาง จะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากยอม ‘ปรับตัวไปด้วยกัน’ เริ่มจากตั้งเป้าลดน้ำตาลในสินค้าทุกตัว ตีวงกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบ ‘กาแฟดำ’ ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับความสนใจในตลาด พร้อมเปิดตัว ‘เบอร์ดี้ แบล็ค ซีโร่’ กาแฟดำ สูตรน้ำตาล 0% รสชาติละมุน หอมกลิ่นกาแฟคั่วบดจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% ชูจุดขาย ‘ไม่มีน้ำตาล และไม่หวาน’ ให้พลังงานเพียง 10 กิโลแคลอรีต่อกระป๋อง การันตีด้วยสัญลักษณ์ ‘ทางเลือกสุขภาพ’ ให้คนรักกาแฟดำพร้อมเริ่มสิ่งดีๆ กับวันใหม่ได้อย่างมั่นใจ เจาะกลุ่มคอกาแฟรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบกาแฟดำที่มีความหอมกลิ่นกาแฟอย่างเป็นธรรมชาติและรักสุขภาพ
‘Blendy’ แบรนด์กาแฟน้องใหม่ พัฒนาต่อไปเพื่อยืนเคียงข้างคนไทยในวันดีๆ ‘Have a Blendy Day’
การต่อสู้ในตลาด RTD ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ล่าสุด บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวแบรนด์ใหม่จากประเทศญี่ปุ่น Blendy หลังจากที่ประสบความสำเร็จทางการตลาดจนครองความเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว
Blendy มาพร้อมคอนเซปต์กาแฟเพื่อสุขภาพ น้ำตาลน้อย แคลอรีน้อย และหันมาจับกลุ่มคนทำงานมากขึ้น ชูจุดเด่นด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์จากวัตถุดิบคุณภาพเกรดพรีเมียม ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ใน 2 รูปแบบ ได้แก่ ‘Blendy Stick เครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผง’ ทั้ง ‘กาแฟนม’ และ ‘กาแฟนมแบบ 1/2 แคลอรี’ สำหรับผู้ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ ‘ชาเขียว’ ที่ผลิตจากใบชาแท้จากประเทศญี่ปุ่น และ ‘โกโก้’ ที่เลือกสรรวัตถุดิบอย่างดีเยี่ยม ผ่านกระบวนการการผลิตด้วยเทคโนโลยีพิเศษจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ได้รสชาติที่นุ่มละมุนและความหอมที่ลงตัว เหมือนนำความผ่อนคลายด้วยรสชาติแบบญี่ปุ่นมาเสิร์ฟถึงเมืองไทย เพิ่มทางเลือกด้วยสูตรแคลอรีน้อยเพียง 30 กิโลแคลอรี
และ ‘Blendy เครื่องดื่มเย็นในรูปแบบขวด’ มาพร้อมเมนูยอดฮิต ทั้ง ‘กาแฟนม’ และ ‘กาแฟดำ’ ที่เลือกใช้เมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้ 100% ในสูตรบราซิลเบลนด์ ผ่านกระบวนการดริปอย่างพิถีพิถัน เหมือนชงสดๆ จากคาเฟ่ เพื่อให้ได้รสชาติที่นุ่มละมุน และกลิ่นที่หอมลงตัว สดชื่นตั้งแต่จิบแรกที่ดื่ม และ ‘เมนูชานม’ ที่เลือกใช้ใบชาเอิร์ลเกรย์ 100% ผสมนมอร่อยลงตัว ดื่มง่าย และจิบได้บ่อยตามที่ต้องการ ให้คุณอร่อยไปกับเครื่องดื่มรสชาติสไตล์ญี่ปุ่นได้ที่บ้านในช่วง Work from Home เพื่อให้ทุกวันเป็นวันดีๆ ‘Have a Blendy Day’
เกมการต่อสู้ในตลาด RTD คงไม่มีวันจบลงง่ายๆ ‘เบอร์ดี้’ เองคงต้องพิสูจน์ต่อไปว่าเป็นแบรนด์ที่พร้อมจะสู้ต่อไปและฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน ไม่ว่าตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปเร็วแค่ไหน เหนือสิ่งอื่นใด เบอร์ดี้เชื่อว่าคนไทยทุกคนก็พร้อมจะสู้และปรับตัวในทุกสถานการณ์เช่นกัน
เบอร์ดี้ ขอร่วมเป็นหนึ่งในกำลังใจและพร้อมจะเคียงข้างคนไทย จับมือ ‘สู้ไปด้วยกัน เพื่อฝ่าวิกฤต’ สู่วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าเดิม และเมื่อไรที่รู้สึกเหนื่อยหรือต้องการพลังเพื่อลุกขึ้นสู้ต่อ โปรดอย่ารอช้า ให้ความเข้มถึงใจของเบอร์ดี้เป็นตัวช่วยให้คุณพร้อมสู้ พร้อมลุย ก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ ไปได้
สู้ไปด้วยกัน เพื่อฝ่าวิกฤต #เบอร์ดี้ #มั่นใจสู้ไปด้วยกัน