กองทุนบำเหน็จบำนาญของรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 18.98 ล้านล้านเยน (1.33 แสนล้านดอลลาร์) ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยผลตอบแทนส่วนใหญ่มาจากหุ้นในประเทศและพันธบัตรต่างประเทศ
กองทุนเพื่อการลงทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการของญี่ปุ่น (GPIF) มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้น 9.5% ในระหว่างไตรมาส สู่ระดับ 219.17 ล้านล้านเยน หุ้นในประเทศกลายเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด โดยเพิ่มขึ้น 14.4% เนื่องจากสัญญาณของอัตราเงินเฟ้อเริ่มทรงตัว ทำให้ตลาดหุ้นกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ขณะที่นักลงทุนซึ่งรวมถึง Warren Buffett นักลงทุนระดับตำนานของโลก ได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นญี่ปุ่น ขณะที่พันธบัตรต่างประเทศให้ผลตอบแทน 8.1% และตราสารหนี้ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.4%
Masataka Miyazono ประธานของกองทุน กล่าวในแถลงการณ์ว่า “กำไรก้อนโตเป็นเพียงผลลัพธ์ระยะสั้นตามโมเดลของเรา กำไร 9.5% ที่เกิดขึ้นน่าจะปรากฏเพียงครั้งเดียวในรอบ 9 ปี ฉะนั้นเรายังคงทำหน้าที่ของเราต่อไปด้วยการลงทุนระยะยาว”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- กองทุนแห่งชาติสิงคโปร์เบนเป้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจากจีนไปยัง ‘อินเดีย และเวียดนาม’
- ‘Temasek’ กองทุนรัฐบาลสิงคโปร์ ขาดทุน 7 พันล้านดอลลาร์ ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 7 ปี ท่ามกลางความตึงเครียดของเศรษฐกิจโลก
ด้วยสินทรัพย์ประมาณครึ่งหนึ่งที่ลงทุนตราสารหนี้ในประเทศและต่างประเทศ ผลการดำเนินงานของ GPIF ยังคงมีความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่สูงขึ้นและความผันผวนของเงินเยน เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่นมีแนวโน้มเลิกใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษ ฉะนั้นจึงมีโอกาสที่ตราสารหนี้จะได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ Fitch Ratings ลดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสูงของสหรัฐฯ
ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ดัชนีหุ้นทั่วโลกของ MSCI เพิ่มขึ้น 5.6% ด้านดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 8.3% และดัชนีหุ้นญี่ปุ่น TOPIX เพิ่มขึ้น 14% ในขณะที่ผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลพบว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.37% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.075% เงินเยนยังคงอ่อนค่าลงเกือบ 8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์
อ้างอิง:
