วันนี้ (21 พฤศจิกายน) กลุ่มนักเรียนเลว นำโดย มิน-ลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ แกนนำ จัดกิจกรรมชุมนุม ‘บ๊ายบายไดโนเสาร์’ ที่บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม กรุงเทพฯ โดยเริ่มปิดถนนพระรามที่ 1 ตั้งแต่แยกเฉลิมเผ่าถึงแยกปทุมวัน และเปิดช่องจราจรเพียง 1 ช่องทาง เพื่อใช้พื้นที่ตั้งเวทีปราศรัยหน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ที่นัดรวมตัวทำกิจกรรมบริเวณแยกราชประสงค์ในเวลา 13.00 น. แต่เนื่องจากฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก จึงต้องย้ายมาชุมนุมในบริเวณดังกล่าวแทน
โดยบรรยากาศบริเวณใต้สถานีบีทีเอสสยามเป็นไปอย่างคึกคัก มวลชนทยอยเดินทางเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการแจกแถบรัดข้อมือแก่มวลชน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชน นักเรียน นักศึกษา เพื่อแบ่งตามอายุ โดยแทบรัดข้อมือสีชมพูสำหรับคนที่มีอายุ 15-18 ปี ส่วนสีส้มจะแจกสำหรับคนที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี
ส่วนห้างสรรพสินค้าที่อยู่ในบริเวณโดยรอบยังคงเปิดให้บริการตามปกติ เช่นเดียวกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสที่สยามก็ยังไม่มีประกาศปิดให้บริการแต่อย่างใด
ขณะที่กิจกรรมหลักคือการปราศรัยของแกนนำที่ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นกล่าวโจมตีรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องของการศึกษา ซึ่งมุ่งเป้าไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นส่วนใหญ่ จากนั้นมีการพูดถึงประเด็นคุณภาพชีวิตต่างๆ ทั้งการคมนาคม การศึกษา ศาสนา จังหวัดชายแดนภาคใต้ การถูกกดทับเรื่องเพศ ในสังคมปิตาธิปไตย อำนาจที่มองไม่เห็น
ส่วนกิจกรรมอื่นๆ บนถนนพระรามที่ 1 หน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนและฝั่งสยามสแควร์นั้น มีการแบ่งโซนพื้นที่ต่อจากเวทีปราศรัยด้วย อาทิ การตั้งเต็นท์เปิดบูธของเครือข่ายนักเรียนที่เปิดพื้นที่ให้เขียนจดหมายถึงตัวเองในอีก 5 ปี การเขียนความฝันที่อยากให้ประเทศเป็นในอนาคต การเขียนข้อความโพสต์อิทระบายความในใจต่อระบบการศึกษา
จากนั้นในเวลา 21.45 น. กลุ่มนักเรียนเลวประกาศยุติกิจกรรมหน้าบีทีเอสสยาม นำมวลชนร้องเพลง Do You Hear the People Sing พร้อมฝากถึงผู้ใหญ่ “อย่าเป็นศัตรูกับอนาคต เพราะวันที่คุณเป็นเด็กคุณก็มีอนาคตที่วาดฝันไว้เหมือนกัน”
“ถึงเยาวชนเราต่อสู้กับไดโนเสาร์ซึ่งไม่ใช่แค่อายุ แต่เป็นความคิดที่ล้าหลังไม่ยอมรับและเข้าใจความเปลี่ยนแปลง
“ถึงเพื่อนอุกกาบาตที่เราจะใช้พุ่งชน ไม่ใช่การพุ่งชนด้วยอารมณ์ แต่ต้องใช้หลักการและเหตุผล
“ถึงครอบครัว เราต้องการความเข้าใจและโอบกอดเราในฐานะลูกหลาน รับฟังเรา เข้าใจสิ่งที่เราเรียกร้องตั้งคำถาม และโอบกอดข้อเรียกร้องของเราด้วย”
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า