ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ออกมาแสดงท่าทีสนับสนุนการหยุดยิงเพื่อยุติความรุนแรงในฉนวนกาซา หลังอิสราเอลและกลุ่มฮามาสสู้รบและตอบโต้กันอย่างดุเดือดจนมีประชาชนเสียชีวิตแล้วหลายร้อยราย ท่ามกลางแรงกดดันจากองค์กรสิทธิมนุษยชนและสมาชิกพรรคเดโมแครตที่ต้องการให้ผู้นำสหรัฐฯ ออกมาแสดงจุดยืนต่อวิกฤตที่เกิดขึ้น
ในแถลงการณ์ที่ออกโดยทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (17 พฤษภาคม) ระบุว่าไบเดนสนับสนุนให้มีการหยุดยิง และได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เกี่ยวกับแนวทางที่สหรัฐฯ จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการยุติวิกฤตที่เกิดขึ้นร่วมกับอียิปต์และพันธมิตรอื่นๆ
“ประธานาธิบดีย้ำจุดยืนในการสนับสนุนสิทธิในการป้องกันตนเองของอิสราเอลต่อการโจมตีด้วยจรวดตามอำเภอใจ” แถลงการณ์ระบุ
ก่อนหน้านี้เนทันยาฮูประกาศว่าการบุกโจมตีของกองทัพอิสราเอลจะดำเนินต่อไป ‘แบบเต็มกำลัง’ โดยกระทรวงสาธารณสุขของกาซาเปิดเผยว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในฉนวนกาซาตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา คร่าชีวิตประชาชนแล้วกว่า 212 ราย ซึ่งในจำนวนนี้รวมเด็ก 61 ราย
การสู้รบที่ยืดเยื้อยังทำให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรม โดยนับตั้งแต่อิสราเอลบอมบ์โจมตีเป้าหมายในกาซาเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมเป็นต้นมา มีชาวปาเลสไตน์ต้องอพยพหนีออกจากที่อยู่อาศัยแล้วหลายหมื่นคน
ทั้งนี้อิสราเอลให้เหตุผลในการส่งเครื่องบินรบโจมตีเป้าหมายในกาซาว่าเพื่อป้องกันตนเองและชีวิตพลเรือน หลังกลุ่มติดอาวุธฮามาสที่ปกครองดินแดนปาเลสไตน์ยิงจรวดหลายร้อยลูกไปยังดินแดนของอิสราเอล ซึ่งกลุ่มฮามาสตอบโต้ว่า การยิงจรวดมีขึ้นเพื่อตอบโต้อิสราเอลที่ใช้กำลังไล่ที่ชาวปาเลสไตน์ออกจากบ้านในนครเยรูซาเลมตะวันออก รวมถึงการโจมตีชาวมุสลิมที่กำลังประกอบพิธีทางศาสนาในมัสยิดอัลอักซอในช่วงเดือนรอมฎอน
ขณะที่ทำเนียบขาวระบุว่าไบเดนต้องการให้แก้ปัญหาความรุนแรงระหว่างกัน และนำความสงบสุขกลับคืนสู่เยรูซาเลม ขณะเดียวกันก็สนับสนุนให้อิสราเอลใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถปกป้องชีวิตพลเรือนที่บริสุทธิ์ได้
ภาพ: Anna Moneymaker / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง:
