ว่าที่รัฐมนตรีคลังหญิงของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำลังจะเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ได้ขึ้นกล่าวแถลงกาณ์ต่อคณะกรรมการด้านการเงินของวุฒิสภาสหรัฐฯ แสดงจุดยืนสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ของประธานาธิบดีไบเดน
สถานีโทรทัศน์ BBC ของอังกฤษรายงานว่า เยลเลนยังใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของไบเดน เพราะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณอ่อนแรงเนื่องจากการการระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลาย
นอกจากนี้เยลเลนยังระบุอีกว่า หากไม่มีการดำเนินการใดๆ เพิ่มเติมออกมา สหรัฐฯ จะต้องเผชิญกับภาวะถดถอยที่ยาวนานกว่าและรุนแรงกว่าครั้งไหนๆ ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศจะเสียหายในระยะยาว
พร้อมกันนี้เยลเลนกล่าวชัดเจนว่า ห้วงเวลานี้เป็นห้วงเวลาที่รัฐบาลและ ส.ส. ทั้งหลายต้องเล่นใหญ่ (Act Big) โดยไม่ต้องพะวงกับระดับหนี้ของประเทศ และการเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะให้ประโยชน์มากกว่างบประมาณที่ต้องเสียไปเมื่อมองในระยะยาว
ด้านวุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน ได้แสดงความเห็นเชิงไม่เห็นด้วยต่อข้อเสนอปฏิรูปภาษีที่เรียกเก็บภาษีจากคนรวยและบริษัทเพิ่มขึ้น รวมถึงข้อเสนอในการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำขึ้นสองเท่ามาอยู่ที่ 15 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง และแจกเงินให้แก่ครัวเรือนที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือที่ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐ
งานนี้เยลเลนแย้งว่า การแจกเงินจะมุ่งไปที่ครัวเรือนที่ยังมีรายได้ แต่รายได้ลดลงจากเดิมจนยากต่อการดำรงชีพ ซึ่งไม่เข้าเงื่อนไขเงินช่วยเหลือในโครงการช่วยเหลือคนตกงานของภาครัฐ ขณะที่การขึ้นภาษีจะเกิดขึ้นภายใต้บริบทของการลงทุนใหญ่ๆ ที่ไม่กระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ กระนั้นเยลเลนก็ย้ำว่า สิ่งสำคัญที่ควรจะต้องให้ความสนใจในเวลานี้ ไม่ใช่การขึ้นภาษี แต่เป็นการหาทางช่วยให้ชาวอเมริกันทุกคนก้าวผ่านวิกฤตการระบาดครั้งใหญ่ครั้งนี้ได้
ทั้งนี้เยลเลนจะเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ต่อจาก สตีเวน มนูชิน ซึ่งหากได้รับการรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐฯ เยนเลนจะกลายเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ ขณะที่มนูชินจะก้าวลงจากตำแหน่งในวันพุธที่ 20 มกราคมนี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
