กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. บีอีซี เวิลด์ ออกหนังสือแถลงถึงพนักงาน เหตุยื่นคืนทีวีดิจิทัลช่อง 13 และช่อง 28 เพื่อให้องค์กรยังมีกำไรและสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยเบนเป้าไปพัฒนาเนื้อหาที่ช่องหลักอย่างช่อง 3 และ 33 (ช่อง 3 HD) รวมถึงสื่อออนไลน์ที่คาดว่าจะสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น ในภาวะที่พฤติกรรมผู้โภคเปลี่ยนไปเช่นนี้
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ภายหลังการยื่นความประสงค์ขอคืนใบอนุญาตทีวีระบบดิจิทัลช่อง 13 และช่อง 28 ต่อ กสทช. ล่าสุด อริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. บีอีซี เวิลด์ (BEC) ได้ออกแถลงการณ์สำคัญถึงพนักงานขององค์กร พร้อมระบุข้อความว่า จากมาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์ ตามคำสั่งมาตรา 44 ให้เยียวยาผู้ประกอบการ และให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นคืนใบอนุญาตได้ เพราะรัฐบาลได้เล็งเห็นปัญหาของการแข่งขันที่สูงในธุรกิจทีวีดิจิทัลจากจำนวนช่องที่มากเกินไป
ในขณะที่เม็ดเงินโฆษณาไม่ได้โตขึ้นแต่กลับมีการหดตัวของเม็ดเงินโฆษณา อีกทั้งกิจการโทรทัศน์ยังโดนผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ชมที่หันไปรับชมรายการต่างๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลส่วนมากต้องแบกรับปัญหาการขาดทุน ซึ่งจากมาตรการดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการหลายรายได้ตัดสินใจคืนใบอนุญาตตามที่คำสั่ง คสช. มาตรา 44 ได้เปิดโอกาสไว้
ผมขอแจ้งให้เพื่อนพนักงานทราบว่า ขณะนี้ทางบีอีซีได้ยื่นความจำนงคืนใบอนุญาตไปแล้ว 2 ช่อง ได้แก่ ช่อง 28 และช่อง 13 โดยคาดว่าการขึ้นใบอนุญาตดังกล่าวจะส่งผลให้บีอีซีสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยที่ยังมีกำไรจากการดำเนินงาน อีกทั้งยังจะมุ่งเน้นที่การพัฒนาคอนเทนต์ ทั้งละคร, ข่าว รวมถึงรายการวาไรตี้ เพื่อผู้ชมของช่อง 3 และ 33 ของเราได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งสามารถสร้างรายได้จากคอนเทนต์ให้ได้มากขึ้น นอกจากนี้เราจะใช้สื่อออนไลน์ของเราเป็นช่องทางสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ในขณะที่ธุรกิจทีวียังคงมีการแข่งขันที่สูง การที่เรามีจำนวนช่องน้อยลงจะทำให้เราสามารถโฟกัสธุรกิจของเราได้มากขึ้น สามารถทุ่มเทพัฒนาคอนเทนต์และบุคลากรให้มีความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้นกว่าเดิม ผมขอให้ความมั่นใจกับเพื่อนพนักงานว่าเรายังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในธุรกิจด้านนี้
“ผมเชื่อว่าเพื่อนพนักงานคงมีคำถามที่อยากรู้คำตอบอีกมาก ดังนั้นผมจะจัดให้มีการประชุมTown Hall Meeting ขึ้นในเร็วๆ นี้ เพื่อที่ผมจะได้พบเพื่อนพนักงาน และได้มีโอกาสชี้แจงแนวการทำงาน อีกทั้งการตอบคำถามที่เพื่อนพนักงานยังคงสงสัย”
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณเพื่อนพนักงานทุกท่านในสปิริตและความทุ่มเทในการทำงานเพื่อช่องและแฟนๆ ของเรามาโดยตลอด ดั่งคำขวัญที่ว่า ‘คุ้มค่าทุกนาที ดูทีวีสีช่อง 3’ ผมขอให้ความมั่นใจกับเพื่อนพนักงานว่า ช่อง 3 และช่อง 33 จะไม่หยุดพัฒนาเพื่อความยิ่งใหญ่ในการเป็นผู้นำธุรกิจทีวีดิจิทัลต่อไป เพราะพนักงานคือฟันเฟืองที่สำคัญที่สุดในการสร้างความสำเร็จขององค์กร
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า