หนึ่งปีช่างผ่านไปเร็วพอๆ กับความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลกที่สร้างความแตกต่างอย่างมากมายเช่นกัน ในตลาดความงามและสุขภาพตลอดปีที่ผ่านมา ผลกระทบต่างๆ จากโรคภัย ภาวะโลกร้อน ส่งผลให้ผู้บริโภคดำเนินชีวิตอย่างคำนึงถึงสุขภาพแบบยั่งยืนมากขึ้น ทั้งยังมีผลต่อแบรนด์ความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลในตลาดโลกที่ขยับขยายและเปลี่ยนเรือธงไปสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืนเช่นกัน และเมื่อต้องมองไปข้างหน้าสำหรับปี 2023 ที่กำลังจะมาถึง หลายคนอาจอยากรู้ว่าเหล่านักวิเคราะห์ต่างๆ ที่คาดการณ์เทรนด์ความงามและสุขภาพของโลกมองเทรนด์ของปีหน้าเป็นอย่างไร แน่นอนว่าจะมีความท้าทายใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องแน่นอน ซึ่งจะก่อให้เกิดวิวัฒนาการของพฤติกรรมผู้บริโภคที่มุ่งเน้นไปสู่ความเป็นอยู่ที่ดี ความยั่งยืน และความปลอดภัยของผิวพรรณ สุขภาพกาย สุขภาพใจอย่างยั่งยืน ต่อไปนี้เป็นการส่องเทรนด์ความงามและเวลเนสที่คาดว่าจะมาแรงสุดๆ ในปี 2023 ไปดูกันเลยว่ามีเทรนด์ใดน่าสนใจบ้าง
1. Skin: Bare It All
ปีหน้าเทรนด์ผิวจะมีไว้เพื่อเปิดเผยผิวที่ดูสุขภาพดี ไม่เน้นปกปิด ผู้คนจะชอบปล่อยให้ผิวได้หายใจมากขึ้น การปรับตัวของเหล่าแบรนด์เครื่องสำอางต่างๆ จะเน้นไปในทิศทางที่เพิ่มสูตรบำรุงลงไปในผลิตภัณฑ์ รวมถึงเมกอัพที่ใช้ในการแต่งหน้าจะถอยห่างจากผลิตภัณฑ์ที่หนักต่อผิว เช่น รองพื้นที่เน้นการปกปิดสูงจะลดความนิยมลง ผู้คนจะหันมาใช้เซรั่มหรือมอยส์เจอไรเซอร์แบบมีเฉดสีที่ใกล้เคียงกับโทนสีผิวตนเอง ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับผิวให้สม่ำเสมอแต่เบาสบาย และได้รับการบำรุงผิวไปในตัว เป็นเทรนด์ที่ต่อยอดมาจากเทรนด์ของปี 2022 ที่ยังได้รับความนิยมต่อไป
2. Go Grunge 1995s
เทรนด์แต่งหน้าทำผมสไตล์กรันจ์ที่โด่งดังเมื่อปี 1995 จะกลับมา โดยช่างแต่งหน้าระดับโลกอย่าง Sir John (ช่างคิวทองประจำตัวของ Beyoncé) และผู้เป็นหัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟของเครื่องสำอาง CTZN Cosmetics ได้บอกเอาไว้ว่าปีหน้า 2023 ลุคการแต่งหน้าของผู้คนจะย้อนไปกับสนุกกับการกลับมาของดวงตาที่มีรอยเปื้อน ดูเลอะแบบไม่ตั้งใจ หากนึกภาพไม่ออกให้ลองนึกถึงลุคความงามของ Kate Moss ในยุค 90 ความไม่สมบูรณ์จะกลายเป็นความงามยอดนิยม นับว่าเป็นความงามที่ดิบมาก แต่ก็สามารถโชว์ผิวที่สดใสได้ด้วย จะว่าไปก็ไม่ต่างจากที่ปีนี้เทรนด์ Y2K ฮิตมากๆ และไม่แปลกใจที่มีการคาดการณ์ว่าปีหน้าจะมุ่งไปสู่เทรนด์เก่าๆ ที่เคยโด่งดังอย่างกรันจ์ลุคจากปี 1995
3. HyperGlow
ฤดูร้อนของปี 2023 จะโดดเด่นไปด้วยงานผิวที่ดูเหมือนกระจกเงา ผิวของหนุ่มสาวจะเปล่งประกายด้วยไฮไลเตอร์ที่เริ่มได้รับความนิยมตั้งแต่ปลายปีนี้ จากรันเวย์ดังที่เหล่านางแบบและคนดังไม่ว่าจะเป็นนางแบบของ Altuzarra, Proenza Schouler และ Victoria Beckham ได้เผยผิวที่สวยฉ่ำราวกับกระจกใส ซึ่งมันอาจดูเหมือนไม่แต่งหน้า แต่สามารถโชว์งานผิวสุดพิเศษเข้ากับฤดูร้อนที่เปล่งประกาย การคาดการณ์นี้ช่างแต่งหน้า Sheika Daley กล่าวว่า บรรดานักเคมีเครื่องสำอางต่างๆ ก็ทุ่มเทเต็มที่ในการเลือกส่วนผสมที่มีส่วนช่วยในการดูแลผิวควบคู่ไปกับการแต่งหน้า ในปีหน้าไอเท็มที่อาจจะโดนเมินคือบรอนเซอร์ทั้งหลาย
4. Well-Being Trend
เทรนด์ความงามและความเป็นอยู่ที่ดีจะเริ่มต้นขึ้นอย่างคึกคักในปีหน้า จะมีพื้นที่ด้านความงามและสุขภาพต่างๆ เกิดขึ้นทั่วโลกในปริมาณที่มากขึ้น Robert Hammond ผู้ร่วมก่อตั้ง High Line ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Therme North America อธิบายให้เห็นภาพชัดเจนว่า ลองมองกลับไปในหลายปีที่ผ่านมา เมื่อผู้คนอยากออกกำลังกายก็ต้องไปยิม หากอยากดูแลผิวก็ไปสปา หรือถ้าต้องการฮีลใจและบำบัดความเหนื่อยล้าทางใจก็เลือกไปสวนสาธารณะ แต่ดูเหมือนว่าในปีหน้าสิ่งเหล่านี้จะผสานเข้าด้วยกัน ผู้คนจะเข้าถึงสเปซที่ตอบสนองความต้องการทั้งทายกายและจิตใจได้ง่ายขึ้น โดยมันจะกลายเป็นคอมมูนิตี้ที่เวลาคุณไปยิมจะได้พบประสบการณ์ที่มากกว่าโรงยิม ไปคลินิกเพื่อทำการรักษาอาจรู้สึกถึงบรรยากาศเหมือนอยู่ในสปาในเวลาเดียวกัน ทั้งพื้นที่ของสตูดิโอออกกำลังกาย สปา หรือศูนย์บำบัดจิตใจจะเชื่อมต่อกันมากยิ่งขึ้น
5. Microbiome
เมื่อไม่นานมานี้มีการค้นพบที่น่าตื่นเต้นบางอย่างเกิดขึ้น นำโดยสถาบันวิจัยชั้นนำและบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพชั้นนำ ได้ค้นเจอกับไมโครไบโอมของผิวหนังที่จะนำพาเราไปพบกับกุญแจแห่งการมีผิวเด็กหรือผิวอ่อนวัย ซึ่ง Microbiome มันคือจุลินทรีย์ธรรมชาติที่พบได้ทั้งในผิวหนัง ภายในเนื้อเยื่อ หรือในสารคัดหลั่งของอวัยวะต่างๆ ซึ่งมันได้กลายเป็นนวัตกรรมด้านสุขภาพที่ล้ำสมัยที่สุด แม้ว่าการวิจัยเกี่ยวกับ Microbiome จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ก็มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เพราะมีประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพผิว หากในอนาคตมีวิธีการในการฟื้นฟูและรักษาความสมดุลของ Microbiome ในผิวควบคู่ไปกับดูแลผิวในชีวิตประจำวัน ความฝันของผิวในอุดมคติที่คงความอ่อนเยาว์แม้วัยจะเพิ่มสูงขึ้นก็มีความเป็นไปได้
6. Biotech: The Future of Beauty
เทคโนโลยีชีวภาพจะกลายเป็นอนาคตของความงามและมันจะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมความงามได้เลย เพราะต่อไปส่วนผสมด้านความงามที่สะอาดและเป็นธรรมชาติจะมีการใช้เทคโนโลยีชีวภาพที่มาจากห้องแล็บเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมความงามในอนาคต หลายคนอาจไม่รู้ว่ากรดแล็กติก โซเดียมไฮยาลูโรเนต เปปไทด์ และไบโอแซ็กคาไรด์บางส่วนที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ความงามล้วนมาจากเทคโนโลยีชีวภาพทั้งนั้น ปี 2023 อุตสาหกรรมความงามจะให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีชีวภาพมากขึ้น และนำไปสู่สูตรสกินแคร์ใหม่ๆ ที่เฉพาะเจาะจงในการดูแลผิวได้อย่างตอบโจทย์ เพราะเทคโนโลยีชีวภาพสามารถให้สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่มีความเข้มข้นสูงมากขึ้นในสูตรบำรุงผิวจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่แตกต่าง และสร้างความเข้มข้นได้ถึง 100 เท่าจากสารสกัดธรรมชาติทั่วไปเลยทีเดียว
ภาพ: Instagram/ theoutset, bellaHadid, Proenza Schouler
อ้างอิง:
