ช่วงนี้บางวันอากาศร้อนจัด แต่บางวันฝนก็เทลงมาเฉย การปรับสกินแคร์ให้ตรงกับสภาพผิวและเข้ากับสภาพอากาศช่วงนี้จึงสำคัญ เพราะถ้าเลือกเนื้อผลิตภัณฑ์ที่หนักเกิน แม้จะเพิ่มความชุ่มชื้นดี แต่ก็ไม่สบายผิว และทำให้สิ่งสกปรกยึดเกาะเหนอะหนะกว่าเดิม แต่ถ้าอากาศร้อนแล้วไม่ชอบทาครีมบำรุงเลย ก็มีแต่จะเสี่ยงเกิดปัญหาผิวตามมามากมาย ทั้งความหมองคล้ำ ผิวแห้งกร้าน และริ้วรอยที่จะตามมาในภายหลัง การป้องกันดูแลผิวพรรณจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องยึดเป็นกฎประจำตัวอย่างหนักแน่น ไม่ว่าฝนจะตก ฟ้าจะร้อง แดดจะออก ก็ต้องใช้สกินแคร์บำรุงผิว สำหรับสภาพอากาศช่วงนี้ผลิตภัณฑ์เซรั่มที่มีเนื้อบางเบา ทาแล้วซึมง่าย ดูจะเป็นตัวเลือกที่เวิร์กที่สุดสำหรับหน้าร้อนและฤดูฝน Beauty Unbox วันนี้จึงขอพาทุกคนไปแกะกล่องเซรั่มทาง่าย ที่ใช้ในชีวิตประจำวันแล้วจะเลิฟสุดๆ
N°1 De Chanel Revitalizing Serum
N°1 De Chanel Revitalizing Serum เป็นเซรั่มที่แค่หยิบขึ้นมาก็รู้สึกดีแล้ว นี่คือฮีโร่โปรดักต์ ที่แม้จะราคาแรง แต่เมื่อได้ใช้บำรุงผิวจะรู้เลยว่ามันคือความคุ้มค่า ทั้งเนื้อเซรั่มที่เติมเต็มการบำรุงผิวในสูตรที่เน้นป้องกันและลดเลือนสัญญาณของความร่วงโรยแห่งวัย ใครไม่อยากผิวแก่เร็วเหมาะมาก นอกจากจะซึมง่ายไม่เหนอะหนะแล้ว ยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากดอกคามิลเลียสีแดงที่ช่วยให้ผ่อนคลายสุดๆ
Skin Type: ใช้ได้ทุกสภาพผิว
ราคา: 5,750 บาท (50 ml)
พิกัด: เคาน์เตอร์ Chanel
Sulwhasoo Concentrated Ginseng Renewing Serum
เซรั่มยืนหนึ่งในเอเชียขวดนี้ ใครได้ใช้มีแต่จะตกหลุมรักมากขึ้นเรื่อยๆ แบรนด์นี้ค้นคว้าวิจัยใหญ่โตจนมาลงตัวที่สูตรเซรั่มกระชับผิวด้วยคุณสมบัติของโสม ซึ่งเป็นสมุนไพรยอดนิยมในเกาหลีใต้มาใช้บำรุงผิว โดยเฉพาะการเสริมพลังของจินเส็งซาโปนินที่หายากที่สุด ที่เข้มข้นมากกว่า 6,000 เท่า มาเป็นส่วนผสมสำคัญ ทำให้ทาเซรั่มขวดนี้ทีไร มันฟีลกู้ดสุดๆ กับกลิ่นหอมจากโสม และเมื่อใช้ต่อเนื่อง ผิวโทรมๆ จะได้รับการฟื้นฟูและรู้สึกได้ว่าผิวกระชับขึ้น
Skin Type: ทุกสภาพผิว
ราคา: 6,500 บาท (50 ml)
พิกัด: เคาน์เตอร์ Sulwhasoo
THANN Facial Serum
กลับมาปลื้มใจกับเซรั่มแบรนด์ไทยกันบ้าง เพราะ THANN Facial Serum with Centella, Banana Flower and Nano Shiso Extract ขวดนี้มีทีเด็ดตรงที่ทาแล้วสบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เข้ากับอากาศเมืองไทยสุดๆ แถมยังช่วยฟื้นฟู กระชับผิว และลดริ้วรอยแห่งวัยไปในตัว เมื่อไล่เช็กดูส่วนผสมจะพบตัวเด่นๆ อยู่ 3 ตัว เช่น Nano Shiso Extract จะช่วยเรื่องเพิ่มการทำงานของคอลลาเจนในผิวให้เกิดความยืดหยุ่น มีสาร Anti-Oxidant ตามธรรมชาติ, Banana Flower Extract ตัวนี้ช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจน และปลอบผิวจากอาการอักเสบได้ดี สุดท้ายคือ Centella Extract ช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจน เป็นเซรั่มที่ทาง่าย กลิ่นดี และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ใดๆ
Skin Type: ทุกสภาพผิว
ราคา: 2,500 บาท (30 ml)
พิกัด: ช็อป THANN, เว็บไซต์ www.thann.co.th
Aesop Parsley Seed Anti-Oxidant Intense Serum
เซรั่มจากแบรนด์ Aesop ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพในการบำรุงอยู่แล้ว โดยเฉพาะตัวเด่นๆ อย่าง Aesop Parsley Seed Anti-Oxidant Intense Serum ขวดนี้โด่งดังตั้งแต่ยังไม่มีเคาน์เตอร์ในไทย โชคดีที่ตอนนี้เราได้เลือกซื้อ Aesop ง่ายขึ้น และไอเท็มของมันต้องมีอย่างเซรั่ม Parsley Seed ก็เป็นไอเท็มที่ตอบโจทย์วิถีคนเมือง คนมีแฟน หรือคู่สามี-ภรรยาใช้ด้วยกันได้เลย จุดเด่นอยู่ที่การบำรุงผิวอย่างเข้มข้น แต่เนื้อเซรั่มใส น้ำหนักเบา ทาและซึมง่าย ถูกใจคนขี้ร้อน อัดแน่นด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันผิวด้วยส่วนผสมเด่นๆ จากวิตามินอี สาหร่ายสีแดง ใช้อย่างต่อเนื่องผิวจะมีสุขภาพดีจนสังเกตได้
Skin Type: ทุกสภาพผิว
ราคา: 3,100 บาท (60 ml)
พิกัด: ช็อป Aesop
Cle de Peau Beauté Le Serum The Serum
แค่ปั๊มแรกที่กดออกมาจากขวดแล้วเนื้อเซรั่มใสๆ ก็คิดว่าน่าใช้แล้ว แต่พอได้ทาและลูบไล้ไปบนผิว ยิ่งทำให้ประทับใจมากขึ้นไปอีก ทั้งกลิ่นหอมแบบผู้ดี และสัมผัสของเซรั่มที่ลื่น ชุ่มชื้น บางเบา และซึมอย่างไว ทำให้การบำรุงผิวทุกครั้งด้วย Cle de Peau Beauté Le Serum The Serum เป็นช่วงเวลาที่มีความสุข คุณสมบัติของเซรั่มตอบโจทย์คนที่ต้องการผิวที่แลดูกระจ่างใส ผิวแน่นกระชับมากขึ้น แต่คงความเป็นผิวที่นุ่มเนียนอยู่ แม้ราคาจะแรง แต่คุณภาพที่ได้ก็แซงราคาจนน่าลงทุน
Skin Type: ทุกสภาพผิว
ราคา: 9,000 บาท (50 ml)
พิกัด: เคาน์เตอร์ Cle de Peau Beauté